เป็นประตูแรกในรอบ 3 ปีของ "คาร์ริค" เลยทีเดียวสำหรับแชมป์เปี้ยน ลีกนี้ เมื่อเขาช่วยให้ "กองทัพปีศาจแดง" ขึ้นนำในนาทีที่ 7 ก่อนจะบดบี้กับ "กาลาตาซาราย" ชนิดที่พลิกได้ทุกเมื่อ แต่สุดท้ายจบ 90 นาที "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" คว้าชัยไปด้วยสกอร์ 1-0 เก็บ 3 คะแนนแรกพร้อมการคืนสนามของ "เฟล็ตเชอร์" อีกด้วย
แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 - 0 กาลาตาซาราย
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ง
บรมกุนซือแห่งกองทัพผี "เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดพาลูกทีม "ผีแดง" รับมือการมาเยือนของ "กาลาตาซาราย" ที่ได้กลับมาเล่นแชมป์เปี้ยนส์ ลีกอีกครั้งในรอบ 4 ปี เปิดฉากมาเพียงแค่ 2-3 นาที แมนฯยูไนเต็ดก็เกือบจะเสียจุดโทษซะแล้ว ในจังหวะที่คาร์ริคจ่ายไปแล้วโดนตัด กาลาฯทำเกมบุกสวนเร็ว แม้ว่าวิดิชจะตัดบอลในเขตโทษได้ แต่เอฟร่าที่รับบอลต่อกลับจ่ายคืนให้วิดิชที่ดูแล้วไม่พร้อมเล่นแน่ๆอีกครั้ง ทำให้กัปตันทีมแมนฯยูไนเต็ดต้องพยายามเข้าสกัดบูลุตที่เข้าฉกบอลได้ เหยียบโดนเท้าเต็มๆ แต่กรรมการไม่เ่ป่าเป็นจุดโทษ อาจเพราะมองว่าเข้าถึงบอลได้จริงแต่เล่นต่อไม่ได้หรืออย่างไรไม่ทราบ
นาทีที่ 7 สาวกกรี๊ดกร๊าดกันลั่นสนาม เมื่อคาร์ริคมิดฟิลด์ยิงประหยัดทำประตูขึ้นนำให้กับทีมไปได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเขาแตะบอลชิ่งกับวาเลนเซีย ก่อนต่อให้กับคากาวะที่รู้ใจ ชิ่งบอลกลับทันทีจนเจ้าตัวหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับมุซเลร่า ก่อนจะแตะหลบ ถึงจะโดนเกี่ยวนิดหนึง แต่ก็ยังสไลด์ตัวไปหวดบอลเข้าประตู ถือว่าเป็นการกลับมายิงประตูในเกมยุโรปได้อีกครั้งในรอบ 3 ปี ส่ง "ปีศาจแดง" นำไปก่อน 1-0
อย่าคิดว่านำแล้วจะว่างใจได้สำหรับเจ้าบ้าน เมื่อกาลาตาซารายส่งสัญญาณเตือนด้วยการสวนกลับพรวดเดียวของอัมราบัตที่พอถึงหน้าเขตโทษก็เอี้ยวตัวเบี่ยงการบล็อกของเฟอร์ดินานด์ปั่นบอลพุ่งโด่งโค้งสวยชนิดที่เด เกอาไม่ต้องบินเพราะไม่ถึงแน่ๆ แต่น่าเสียดายนักที่บอลไปชนคาน เพราะถ้าเข้าไปยังไงก็สวยจริงๆ
หลังจากได้ประตูขึ้นนำไปจนตอนนี้เข้าสู่นาทีที่ 20 นิดๆ แมนฯยูไนเต็ดก็เป็นฝ่ายครองบอลได้ดีกว่าค่อนข้างมาก แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่มีให้เห็นจังๆ ซึ่งต้องระวังเกมสวนกลับของทีมเยือนให้ดีด้วย เพราะมีจังหวะที่กองหลังยืนสูงจนโดนจ่ายทะลุช่องเกือบแย่ ดีที่อีแวนส์เข้าบล็อกก่อน แต่ก็ต้องหันไปโวยเพื่อนที่ยืนกันยังไงให้ช่องเปิดขนาดนั้น
เป็นจังหวะของทางแมนฯยูไนเต็ดที่ร้องขอจุดโทษจากผู้ตัดสินบ้าง เมื่อวาเลนเซียครอสบอลจากด้านข้างเข้าไป มุซเลร่าพุ่งออกมาปัดบอลได้ก่อนคากาวะเข้าถึง แต่บอลมันไปโดนแขนของเอบูเอ้ที่อยู่ตรงนั้นเข้าเต็มๆ ถึงอย่างนั้นผู้ตัดสินก็นิ่ง น่าจะมองว่าเป็นบอลทูแฮนด์
นาทีที่ 25 เกือบจะหล่อสุดๆอยู่แล้วเชียวสำหรับวาเลนเซียในจังหวะนี้ที่เขาชิ่งบอลด้านข้างกับราฟาเอล ก่อนที่จะแหวกฝูงกองหลังของกาลาตาซารายด้วยการแตะลอดดากผ่านตัวแรก ก่อนที่จะล็อกบอลอ้อมด้านข้างผ่านไปอีกตัว แล้ววิ่งไปเปิดอย่างเท่ แต่ดันโยนแรงไปอีกทาง ไม่มีเพื่อนอยู่สักคน
หลังจากแมนฯยูไนเต็ดผ่อนเกมจนกลายเป็นทางกาลาตาซารายที่ได้ครองบอลเรื่อยๆในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เอฟร่าก็มาโดนทางอัมราบัตเผาเครื่องกระชากหนีไปดื้อๆ ก่อนจะเสียบช้าเข้าที่ข้อเท้าของแข้งกาลาฯ ผู้ตัดสินเห็นชัดเจนเลยแจกทั้งใบเหลืองและฟรีคิกให้ไป
นาทีที่ 39 หรือต่อเนื่องกันในจังหวะฟรีคิกนั้น ทำเอาเด เกอาโวยแหลกเลย กับจังหวะที่ผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดไปเหม่อ ปล่อยให้อัลตินท็อปยืนว่างหน้าเขตโทษ ได้วิ่งมาซัดบอลเหน่งๆ แต่บอลมันไซร์ไม่พอ หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
จบ 45 นาทีเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ออกนำไปก่อนในครึ่งแรกที่มีจังหวะให้พูดถึงในการลุ้นจุดโทษของทั้งสองทีม เกมยังไม่แตกต่างมากหนัก ครึ่งหลังอาจจะได้เห็นอะไรที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเอลมานเดอร์ที่ลงเล่นแทนบูลุตซึ่งเจ็บไปก่อนหน้านี้ก็น่าจะแผลงฤทธิ์ได้บ้าง เพราะถูกเปลี่ยนลงไปปุบปับยังไม่น่าจะพร้อมดี
ต่อาในครึ่งหลังในนาทีที่ 52 แมนฯยูไนเต็ดอุตส่าห์ได้จุดโทษจากจังหวะลุยเข้าไปของราฟาเอลที่โดนกองหลังกาลาฯอัดเข้าจนล้มกลิ้ง แต่กลับกลายเป็นว่านานี่ที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษ(แล้วฟาน เพอร์ซี่ล่ะ?)กลับยึกยักยิงไปติดเซฟของมุซเลร่าที่ปัดได้เต็มไม้เต็มมือ น่าผิดหวังจริงๆ
อีก 4 นาทีต่อมา น่าโดนตีเสมอจริงๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ด กับจังหวะที่อัลตินท็อปฉีกตัวเองออกไปครอสบอลจากด้านข้างยาวไปเสาแรก เป็นอีนานที่เอี้ยวตัวโหม่งสะบัดบอลให้พุ่งโค้งไปเสาสอง ชนิดที่เด เกอาหมดสิทธิ์แล้วแน่ๆ แต่มันกลับหลุดเสาออกไปนิดเดียวเพียงเท่านั้น
เข้าสู่ช่วง 25 นาทีสุดท้าย เกมดูจะสูสีมากกว่าที่เคยเล่นกันมาตลอดก่อนหน้านี้ กาลาตาซารายเองมีลุ้นจะดีเสมอเช่นเดียวกัน ส่วนแมนฯยูไนเต็ดบอลไปถึงข้างหน้าน้อยไปนิด ซึ่งส่วนหนึงมาจากการที่ขึ้นบอลกับนานี่แล้วพี่แกติดเล่นคนเดียวไปหน่อย
นาทีที่ 70 เป็นจังหวะที่ต่อบอลกันได้สวยจริงๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเอฟร่าต่อบอลไปใ้ห้กับนานี่ที่ชิ่งต่อให้กับคากากวะ ก่อนจะแตะคืนแล้วแทงทะลุให้กับเอฟร่าพุ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจตวัดยิงมุมแคบ แต่บอลติดเซฟของมุซเลร่านิดเดียวเท่านั้น
อีก 2 นาทีต่อมา เกือบแย่ไปแล้วจริงๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อพวกเขาเล่นลูกเตะมุมแล้วพลาดโดนสวนกลับ โคลัคได้ตะบันเต็มตีนจากลูกที่เพื่อนจ่ายทะลุช่องมาให้ แต่เด เกอาทุบออกไปได้ ก่อนที่จะตั้งหลักใหม่แล้ววบินใช้มือเดียวปัดลูกยิงซัดแบบเน้นๆได้อีกครั้ง ยอดเยี่ยมมาก
นาทีที่ 79 น้ำตาแทบไหลเลยสำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเฟล็ตเชอร์กลับคืนมาลงสนามให้กับทีมได้อีกครั้ง หลังหายไปถึง 10 เดือนเต็ม โดยเขาลงไปเล่นแทนสโคลส์ที่ได้พักไป
อีก 2 นาทีต่อมา คราวนี้เป็นฟาน เพอร์ซี่ที่ถูกถอดออกไปพักบ้าง แต่เขาได้ีัใบเหลืองก่อนจะโดนเปลี่ยนแค่ไม่กี่วินาที โดยเป็นเอร์นานเดซที่ลงไปช่วยไล่บอลในช่วงเวลาที่เหลือนี้แทน
นทีที่ 87 วาเลนเซียร้องจะเอาจุดโทษอีกลูกให้กับแมนฯยูไนเต็ด ในจังหวะที่เขากระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะไต่เส้นหลังแล้วล็อกอีกจังหวะจนโดนสไลด์เสียบสกัด แต่ผู้ตัดสินและผู้ช่วยที่ยืนอยู่ใกล้ๆนิ่ง ไม่ให้อะไรทั้งนั้น
จบ 90 นาทีของเกมที่มีจังหวะสุ่มเสี่ยงเป็นจุดโทษเยอะโคตรๆเลย แต่ก็เป็นแมนฯยูไนเต็ดที่เอาชนะไปได้แบบหวุดหวิดเหมือนกัน 1-0 เก็ย 3 คะแนนแรกได้สำเร็จ ส่วนกาลาตาซารายต้องรอคะแนนแรกในการคัมแบ็คกลับมาเล่นแชมป์เปี้ยนส์ ลีกของพวกเขาไปก่อน
ผู้เขียน
หัวข้อ: "คาร์ริค" ซัดไก่โห่~!! "ผีแดง" ขยี้ "กาลาฯ" เรียกขวัญ "เทพเฟล็ต" 1-0 (อ่าน 1048 ครั้ง)
