พิมพ์

[Armin]

"บาร์ซ่า" เกือบจะอับอายขายขี้หน้าคาบ้านของตัวเองซะแล้ว เมื่อโดน "สปาร์ตัก มอสโก" ยิงนำไปก่อน 2-1 ก่อนที่เรียก "ลิโอเนล เมสซี่" ฮีโร่ในเกมนี้มารับบทเหมาๆ 2 ประตูรวดพาทีมคว้าชัยได้อย่างหวุดหวิด 3-2



ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม จี
วันพุธที่ 19 กันยายน 2555
บาร์เซโลน่า 3-2 สปาร์ตัก มอสโก
สนาม คัมป์ นู

                ออกสตาร์มเกมแรกมาไม่ทันไร "เคราร์ด ปีเก้" กองหลังของบาร์เซโลน่าโดนผู้เล่นของสปาร์ตัก มอสโกเสียบใส่ตั้งแต่ต้นเกมซึ่งเจ้าตัวฝืนลงเล่นต่อไปนานหลายนาทีก่อนที่จะไม่ไหวส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัวออกจากสนามนาทีที่ 10 โดยมีอเล็กซ์ ซงลงมาทำหน้าที่แทน

หลังจากเปลี่ยนตัวไม่กี่นาทีคริสเตียน เตโญ่หัวหอกดาวรุ่งได้บอลทางฝั่งซ้ายของสนามก่อนล็อกหลบกองหลังทีมเยือนหนึ่งจังหวะบอลมาเข้าเท้าขวาข้างถนัดซึ่งเขาก็ไม่คิดมากอัดด้วยขวาบอลพุ่งโค้งเข้าเสาไกลอย่างสวยงามทำให้บาร์ซ่าขึ้นนำไปแล้ว 1-0

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 20 ทัพนักเตะต่างดาวยังคงดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่องและเป็นโอกาสของลิโอเนล เมสซี่หัวหอกร่างเล็กที่ลากบอลตัดจากริมเส้นด้านขวามาหน้ากรอบเขตโทษตามถนัดก่อนบรรจงตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งวาบเฉียดเสาไปนิดเดียว

หลังจากได้ประตูนำบาร์ซ่าดูจะผ่อนเกมลงเล็กน้อยทำให้สปาร์ตัก มอสโกได้จังหวะโต้กลับมาทางฝั่งขวาของสนามและเป็นเอ็มมานูเอล เอเมนิเก้หัวหอกร่างตันลากบอกจี้เข้าไปเกือบถึงเส้นหลังก่อนผ่านบอลมาหน้าปากประตูที่มีดานี่ อัลเวสยืนปักหลักอยู่แต่เจ้าตัวสกัดบอลไม่ดีตุงตาข่ายของตัวเองเฉยเป็นสกอร์ 1-1 นาทีที่ 29

หลังจากเสียประตูบาร์ซ่าก็กลับมาพับสนามบุกอีกครั้งหวังยิงประตูขึ้นนำให้ได้และเป็นจังหวะที่ซาบี เอร์นานเดซเห็นเชสก์ ฟาเบรกาสแอบไปอยู่ในกรอบเขตโทษก่อนบรรจงชิพเข้าหัวอย่างเหมาะเจาะแต่อังเดร ดายคานจะโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งสุดตัวปัดบอลข้ามคานออกไปได้
 
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกเหล่านักเตะของสปาร์ตัก มอสโกทั้ง 11 คนต่างลงไปตั้งกำแพงขึงเกมรุกของเจ้าถิ่นกันอย่างหนาแน่นทำให้ทัพนักเตะต่างดาวหาช่องไม่เจอได้แต่ป้ายบอลไปมาหน้ากรอบเขตโทษและยังไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ก่อนเกม 45 นาทีแรกจะจบลง

                กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังเพียงแค่ไม่กี่นาทีบาร์ซ่าเดินเกมบุกอย่างต่อเนื่องและเป็นดานี่ อัลเวสวิ่งเติมเกมขึ้นมาตรงขอบเขตโทษด้านขวาก่อนจับบอลหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งวาบเข้าไปกองก้นตาข่ายแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

แฟนบอลในถิ่นคัมป์ นูถึงกับตะลึงจากจังหวะที่ลิโอเนล เมสซี่ได้ยิงจ่อๆไปติดเซฟนายทวารทีมเยือนบอลเด้งมาเข้าเท้าของนักเตะสปาร์ตัก มอสโกทำชิ่งแค่ 3 จังหวะบอลไหลมาที่โรมูโล่ที่เติมขึ้นมาก่อนหลอกอาเดรียโน่หนึ่งจังหวะทำให้หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าวิคตอร์ บัลเดสก่อนบรรจงแปบอลเข้าประตูแบบเลือดเย็นทำให้ทีมพลิกแซง 2-1 หน้าตาเฉยในนาทีที่ 58

เมื่อเห็นลูกทีมโดนยิงแซงแบบไม่คาดฝันทำให้ตีโต้ บีลาโนบาต้องส่งอเล็กซิส ซานเชซดาวยิงชิลีลงสนามมาล่าตาข่ายและเป็นดานี่ อัลเวสที่ดวงซวยต้องออกจากสนามให้เพื่อนลงมาเติมเกมบุกแทน

คริสเตียน เตโญ่ที่วันนี้โชว์ฟอร์มกระชากได้อย่างโดดเด่นด้านซ้ายของสนามลากบอลหลบกองหลังสปาร์ตักเข้ามาถึงเส้นหลังในกรอบเขตโทษก่อนผ่านบอลให้เมสซี่ที่ยืนรออยู่โล่งๆซัดด้วยอีซ้ายเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงามเป็นประตูตีเสมอ 2-2

น. 74 ดาบิด บีญ่าได้โอกาสลงสนามมาแทนเตโญ่และเขาก็ได้จังหวะลุ้นทำสกอร์ทันทีเมื่อวิ่งเข้าหาลูกที่กระฉอกออกมาก่อนแปด้วยซ้ายแต่กองหลังของสปาร์ตักพุ่งตัวมาบล็อกได้ในจังหวะสุดท้าย

อเล็กซิส ซานเซสได้บอลที่ครอสมาจากฝั่งขวาของสนามก่อนมองหาเพื่อนหน้าปากประตูพร้อมโยนบอลอย่างเหมาะเหม็งไปเข้าหัวของเมสซี่ที่ทะยานขึ้นโขกเหนือกองหลังสปาร์ตักในระยะเผาขนเป็นประตูทำให้ต่างดาวกลับมาขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 80

หลังจากได้ประตูนำบาร์ซ่าพยายามต่อบอลไว้กับเท้าด้วยความแน่นอนเป็นการปิดเกมก่อนกำชัยคว้า 3 แต้มประเดิมศึกแชมเปี้ยนส์ ลีกแบบหืดจับ