ไล่ตามหลัง "พี่เสือ" บาเยิร์น มิวนิค และ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบติดๆแล้วสำหรับทีม "ตราหมี" แอตเลติโก้ มาดริด หลังจากที่โชว์ฟอร์มร้อนแรง ยัดเยียดความปราชัยให้กับ "ออสเตรีย เวียนนา" ผู้น่าสงสารไปด้วยสกอร์ 4-0 เก็บชัยชนะ 4 นัดรวดเข้ารอบน้อคเอาท์ได้สำเร็จหลังห่างหายไป 4 ปีเต็ม
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี
สนาม บิเซนเต้ กัลเดรอน
วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2556
แอตเลติโก้ มาดริด 4-0 ออสเตรีย เวียนนา เปิดฉากเริ่มเกมมาทีมเยือน "ออสเตรีย เวียนนา" เป็นฝ่ายที่ได้ทักทายก่อนในนาทีที่ 5 จากลูกฟรีคิก 30 กว่าหลา ฟลอเรียน มาเดอร์ ซัดเรียดด้วยขวา บอลพุ่งเฉียดเสาไปนิดเดียว แต่จังหวะนี้เหมือนไม่มีอะไรเพราะติโบล์ต กูร์กตัวส์เช็คเสาเรียบร้อยแล้ว
โอกาสครั้งแรกในนาทีที่ 10 ของแอตฯ มาดริดเป็นประตูทันที ลูกเตะมุมจากโกเก้ทางฝั่งขวา บอลตกใส่ตัวคริสเตียน รามเซ็บเนอร์มาเข้าทางเชา มิรันด้ายิงด้วยซ้ายจ่อๆเสียบมุมให้เจ้าบ้านออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0
นาที 16 แอตฯ มาดริดเกือบนำห่างจากจังหวะเคาะกันตามช่อง ดีเอโก้ คอสต้าดีดออกซ้ายให้ฟิลิเป้ หลุยส์จอมลุยหักเรียดเข้ากลางให้ราอูล การ์เซียสอดมาแปด้วยซ้ายเฉียดเสาออกไปนิดเดียว
นาทีถัดมายังเป็นแอตฯ มาดริดได้โอกาสต่อเนื่อง อาเดรียน โลเปซลากขึ้นมาทางขวาแล้วแทงเข้าเขตโทษให้การ์เซียพิงกองหลังแล้วตอกส้นต่อให้คอสต้าโชว์ความใจเย็น หลอกจะยิงด้วยขวาแล้วแตะเข้าซ้าย จากนั้นง้างจะยิงด้วยซ้ายแล้วแตะหนีกองหลังที่พุ่งเข้ามาบล็อคก่อนซัดเต็มแต่ไปตรงตัวไฮนซ์ ลินด์เนอร์เซฟไว้ได้
นาที 21 ออสเตรีย เวียนนาเกือบช็อคแฟนเจ้าถิ่น บอลหยอดเข้าไปในเขตโทษ ดีเอโก้ โกดินโหม่งตัดบอลพลาด บอลถึงโธมัส ม้วร์กจับแล้วพลิกตัววอลเล่ย์สุดพลังด้วยขวา แต่กูร์กตัวส์ออกมาเร็วมากและบล็อคไว้ได้
ขยันโหดสำหรับคอสต้าที่ได้โอกาสอีกครั้งในนาทีถัดมา บอลโยนยาวจากแนวรับทีเดียวถึงเขตโทษฝั่งขวาของคู่แข่ง คอสต้าวิ่งฉีกตัวประกบไปเอาบอลแล้ววอลเลย์ด้วยขวาแบบเอามันส์และเกือบเสียบสามเหลี่ยมเสาสองแต่ลินด์เนอร์โชว์ซูเปอร์เซฟอีกครั้ง โดดปัดปลายมือข้ามคานไปได้ ยอดเยี่ยมทั้งคนยิงและคนเซฟ
ใครไม่ใช่กองเชียร์เฉพาะกิจปิดทีวีได้เลย นาทีสุดท้ายครึ่งแรกแอตฯ มาดริดนำห่าง 3-0 ฆวนฟราน ตอร์เรส แบ็คขวาลอยฟ้าเติมขึ้นมาถึงสุดเส้นหลัง เปิดเรียดเข้ากลางให้อาเดรียนแปด้วยขวาจะเสียบมุมซ้ายมือแต่ลินด์เนอร์ปัดได้ โชคร้ายบอลมาเข้าทางฟิลิเป้เติมขึ้นมาซ้ำนิ่มๆตุงตาข่าย
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่มีโอกาสทำประตูกันอีก จบครึ่งแรก แอตฯ มาดริดนำออกเตรีย เวียนนา 3-0 โอกาสเก็บ 3 คะแนนเข้ารอบสูงเหลือเกิน
กลับเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังมาถึงนาที 51 "ตราหมี" ได้โอกาสเพิ่ม คอสต้าได้บอลริมเส้นฝั่งซ้าย ลากลุยเข้ากลางแล้วทำชิ่งกับโกเก้ก่อนกดด้วยขวาเข้าซองลินด์เนอร์
นึกว่าดราฟต์มาจาก NFL สำหรับโชชูอา กีลาโวกี หลังได้โอกาสในนาที 57 ฆวนฟรานจอมลุยเติมขึ้นมาทางขวา ลากบอลตัดเข้าในหลบแนวรับออสเตรีย เวียนนา 1 คนแล้วป้ายออกให้โกเก้พยายามงัดบอลแต่ติดกองหลัง บอลเด้งออกมาเข้าเท้ากีลาโวกีกดเต็มข้อพุ่งข้ามคานไปเลย
จบเกมนี้คงนอนยาวสำหรับนายทวารลินด์เนอร์ หลังได้ออกแรงอีกครั้งในนาที 64 กาบี้ เฟร์นานเดซหยอดฟรีคิกฝั่งขวาแม่นยำให้การ์เซียโขกเต็มๆแต่ลินด์เนอร์ยืนดีปัดออกมาได้ บอลเข้าทางโกดินจะซ้ำแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปแล้ว
นาที 71 แอตฯ มาดริดทดสอบลินด์เนอร์อีกครั้ง คริสเตียน โรดริเกซตัวสำรองลากจากขวาตัดเข้าในแล้วยิงไกลเน้นๆ บอลพุ่งเป็นจรวดแต่นายทวารลินด์เนอร์บินปัดเอาไว้ไปเข้าทางฆวนฟรานวอลเลย์ซ้ำไม่จับแต่เหมือนยิงเอามันส์ บอลข้ามคานไปแบบสบายๆ
นาที 75 แอตฯ มาดริดได้จุดโทษ โรดริเกซยังป่วนต่อเนื่อง พิงแล้วสลัดหนีมาร์คุส ซุตต์เนอร์เข้าเขตโทษ หลอกจะยิงด้วยซ้ายให้มานูเอล ออร์ตเล็ชเนอร์กัปตันทีมพุ่งเข้ามาเสียบแล้วล็อคหลบจนกลายเป็นโดนทำฟาวล์ และเป็นคอสต้าแปด้วยขวาแต่เหมือนลืมหลอกหน้าเท้า ลินด์เนอร์เลยเห็นและพุ่งปัดไว้ได้อย่างง่ายดาย
นาที 79 คอสต้าได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะรับบอลยาวได้ที่หน้าเขตโทษแล้วคล้องบอลหลบตัวประกบด้วยซ้ายก่อนซัดเต็มๆ บอลพุ่งจะเสียบเสาแรกแต่ลินด์เนอร์วันนี้ยังไงก็ไม่ยอมให้คอสต้า พุ่งปัดออกหลังไปได้
เอาชนะลินด์เนอร์จนได้สำหรับคอสต้า จากจังหวะต่อเกมอันยอดเยี่ยมอีกครั้ง บอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้การ์เซียตบเข้ากลางประตูให้คอสต้าปั่นด้วยขวาเข้าไปนิ่มๆชนิดลินด์เนอร์ไม่ต้องเซฟ แอตฯ มาดริดนำ 4-0 ในนาที 81
จบเกมเป็นอันว่าแอตฯ มาดริด ยังโชว์ฟอร์มเยี่ยม ไล่ถล่มออสเตรีย เวียนนาผู้น่าสงสารไป 4-0 เก็บชัยชนะ 4 นัดรวดและเข้ารอบน็อคเอ้าท์ได้สำเร็จ