พิมพ์

[Armin]

"ติโม ฮิลเดอบรันด์" ทำพลาดอย่างแรงที่เตะบอลไปติดบล็อคของ "ซามูเอล เอโต้" กองหน้าจอมฉกกดลูกแรกก่อนที่จะซัดอีกลูก ต่อมาอีกไม่นาน "เด็มบา บา" ก็มายิงลูกตอกฝาโลงช่วยให้ "สิงห์บลูส์" เชลซี ถล่ม "ราชันบลูส์" ชาลเก้ 3-0 พร้อมขึ้นเป็นจ่าฝูงเดี่ยว



ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี
วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2556
เชลซี 3-0 ชาลเก้ 04
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์

             ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกเล่นกันผ่านมา 5 นาที "ราชันบลูส์" เกือบได้ประตูเลยในจังหวะที่ขึ้นเกมมาทางด้านขวาก่อนที่จะตบเข้ามาตรงกลางบริเวณหน้าปากเขตโทษเป็นแดร็กซ์เลอร์วิ่งเข้ามายิงเลียดทันทีโดยเป้าหมายอยู่ที่เสาสองทว่าบอลกลับบานเฉี่ยวโคนเสานิดเดียวเท่านั้น

ถัดมาไม่นานนักเป็นทีมเยือนที่มีโอกาสอีกแล้วและเป็นแดร็กซ์เลอร์คนเดิมที่กระชากลากบอลในจังหวะโต้กลับมาเองพร้อมดูดแผงกองหลังเข้าหาหมดทำให้เขาตัดสินใจผ่านมาให้ซาไลที่อยู่ด้านขวามือได้ยิงทันทีซึ่งบอลก็ออกไปทางมุมเดิม

เชลซีพยายามเดินเกมบุกบ้างโดยผ่านเข้านาทีที่ 15 วิลเลี่ยนลากบอลจากแดนตัวเองในจังหวะโต้กลับจนมาถึงระยะ 35 หลาแล้วผ่านไปให้เอโต้ที่อยู่ด้านซ้ายลากตัดเข้ามาพยายามหาช่องก่อนฝืนยิงนอกกรอบไปติดบล็อคกองหลังชาลเก้ในตอนสุดท้าย

นาทีที่ 20 เชลซีเกือบได้ประตูจริงๆในจังหวะเตะฟรีคิกระยะราว 25 หลาเป็นชูร์เล่ที่รับอาสายิงเองโดยซัดบอลผ่านกำแพงก่อนโค้งเข้าทางเสาแรกซ้ายมือทว่าฮิลเดอบรันด์ยังพุ่งมาปัดเอาไว้ได้อย่างสวย

หลังจากนั้นไม่นานชูร์เล่ก็มาได้ลุ้นยิงอีกโดยลากบอลตัดเข้ามาจากริมเส้นด้านซ้ายก่อนอัดด้วยขวาบอลพุ่งไปที่เสาไกลแต่ออกไปนิดเดียว

เกมผ่านไปครบ 30 นาทีแล้วอยู่ดีๆเชลซีก็ขึ้นนำเฉยเลยในจังหวะที่ฮิลเดอบรันด์ทำพลาดเต็มๆเมื่อเดินเตะบอลเอ้อระเหยแบบสบายใจก่อนที่จะโดนเอโต้วิ่งเข้ามาบีบทำให้ต้องรีบถอยหลังเตะแต่ก็ไปโดนขาของดาวยิงแคเมอรูนที่ยื่นมาบล็อคแล้วกระดอนกลับหลังเข้าประตูไปชนิดงงกันทั้งสนาม

เอโต้มาได้จังหวะลุ้นอีกครั้งเมื่อกองหลังของชาลเก้โขกสกัดลูกเปิดจากกลางสนามออกมาไม่ขาดทำให้อดีตดาวยิงอินเตอร์ มิลานวิ่งเข้ามายิงทันทีด้วยขวาตรงเส้นเขตโทษแต่คราวนี้ฮิลเดอบรันด์ไม่พลาดรับบอลเอาไว้ได้

             ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง "เช็ก" ต้องออกแรงเซฟบ้างแล้วในจังหวะที่ซาไลไหลบอกไปให้แดร็กซ์เลอร์นอกกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนล็อคเข้าซ้ายแล้วยิงเต็มเหนี่ยวทว่ามือกาวเฮดการ์ดยังพุ่งปัดทิ้งออกหลังไปหวุดหวิด

เมื่อทำประตูไม่ได้ก็มาโดนเลยในจังหวะสวนกลับนาทีที่ 54 เมื่อวิลเลี่ยนตัดบอลได้จากกลางสนามก่อนไหลไปให้เอโต้แต่งหนึ่งจังหวะเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนยิงสวนตัวของฮิลเดอบรันด์ที่ออกมาปิดมุมเข้าไปทางเสาไกลสบายๆ

โอกาสยิงของเจ้าบ้านเริ่มมาติดๆกันแล้วโดยคราวนี้เป็นทีของชูร์เล่ที่รับบอลมานอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนลากเข้ากลางพยายามหาช่องส่องผ่านกองหลังไปแล้วทว่าเข้าซองของฮิลเดอบรันด์

เกมผ่านไปแล้ว 65 นาทียังคงเป็นเชลซีที่คุมเกมได้หมดแล้วแต่จังหวะหาโอกาสยิงยังไม่มีมากเท่าไหร่ส่วนชาลเก้ก็ยังแทบไร้จังหวะลั่นไกทำให้เช็กต้องเซฟในช่วงที่ผ่านมา

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายแล้วทั้งสองทีมไม่มีโอกาสยิงกันเลยก่อนที่เด็มบา บาที่เพิ่งจะลงมาใหม่ได้บอลทะลุช่องมาจากรามิเรสเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วพยายามยิงให้ตรงกรอบก็ยังเข้ามือของฮิลเดอบรันด์

และแล้วบาก็มายิงได้เลยโดยเขาพักอกลงให้วิลเลี่ยนเตะบอลไปให้แลมพาร์ดเขี่ยอีกทีให้หัวหอกเซเนกัลเอี้ยวตัววอลเล่ย์ผ่านมือของฮิลเดอบรันด์เข้าไปกองก้นตาข่ายเป็นประตูแรกของเขาในรอบเกือบ 7 เดือน

จบเกม 90 นาทีเชลซีเก็บได้อีก 3 แต้มสำคัญทำให้ขึ้นไปมี 9 แต้มจากการแข่งขัน 4 นัดเป็นจ่าฝูงส่วนชาลเก้ยังรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงเหมือนเดิม