หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
 81 
 เมื่อ: มกราคม 26, 2016, 12:03:44 AM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ถือได้ว่าเป็นข่าวคราวที่ดึงความสนใจจากแฟนบอลในช่วงนี้ได้ไม่น้อยเลยเหมือนกัน สำหรับข่าวคราวของกองหน้าฉายาเอลนินโญ่ “เฟร์นานโด ตอร์เรส” ที่ถูกสื่อดังในสเปนอย่าง 'อาส' เชื่อมโยงเข้ากับยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลัน “บาร์เซโลน่า” เพราะแม้ว่าผลงานของนักเตะในปัจจุบัน จะไม่ได้ร้อนแรงเหมือนสมัยที่เล่นให้ทีมหงส์แดงใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้ว แต่ชื่อของนักเตะก็ยังคงเป็นที่จดจำของแฟนบอลทั่วโลกได้อย่างขึ้นใจ ทั้งคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นและรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลา ก็ยังคงทำให้แฟนบอลจำนวนมากติดตามผลงานนักเตะอยู่อย่างเหนียวแน่นเหมือนเดิม

       ทั้งนี้ 'อาส' รายงานออกมาว่าทาง บาร์เซโลน่า ของกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ นั้นเล็งเห็นความสำคัญในการเสริมทัพในแดนหน้าของทีม แม้ว่าทีมจะมีสามตัวรุกระดับเทพอย่าง ซัวเรซ, เนย์มาร์ และเมสซี่อยู่ในทีมแล้วก็ตาม เพราะอย่างน้อยทีมก็ยังต้องการตัวสแตนบายที่เหมาะสม ไว้เผื่อช่วงที่มีรายใดไม่พร้อมลงสนาม  ซึ่ง เอ็นริเก้ มองว่า ตอร์เรส จะเป็นตัวสแตนบายที่เหมาะสมที่สุด

       สำหรับสถานการณ์ของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ตอนนี้ก็ถือว่าเปิดกว้างในการย้ายทีมพอสมควร เนื่องจากนักเตะเล่นอยู่กับทีมตราหมีแค่ในฐานะของนักเตะตัวยืมโดยที่สัญญายืมตัวนั้นจะสิ้นสุดลงในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งก็เป็นช่วงที่นักเตะจะหมดสัญญากับ เอซี มิลาน ต้นสังกัดที่แท้จริงเช่นเดียวกัน

       อย่างไรก็ตามนอกจากทีม บาร์เซโลน่า แล้วก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาว่ามีหลายทีมสนใจในตัวของตอร์เรสเช่นกัน  โดยเฉพาะทีมจากนอกลีกยุโรป เช่นใน เมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา ในจีน ถึงขนาดแว่วๆว่ามีบางทีมพร้อมทุ่มเงินค่าเหนื่อยให้นักเตะเป็นสถิติโลกเลย

       ดังนั้นแล้วหวยจะไปออกที่ไหนก็ต้องอยู่ที่ตอร์เรสเองแล้วล่ะว่า เจ้าตัวอยากที่จะเล่นฟุตบอลในสเปนต่อไปหรืออยากออกไปหาความท้าทายใหม่ๆนอกยุโรป เหมือนกับนักเตะดาวดังหลายราย

 82 
 เมื่อ: มกราคม 22, 2016, 10:31:52 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       เรียกว่าลือกันไปเรื่อยไม่ได้มีมูลความจริงแต่อย่างใดสำหรับข่าวคราวของทางด้าน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตนายใหญ่ทีมหงส์แดงที่สื่อเชื่อมโยงเข้ากับทีม สิงโตคำราม อังกฤษ ทำนองว่าเป็นเขานี่แหละที่จะได้เป็นตัวแทนของ รอย ฮ็อดจ์สัน ในการกุมบังเหียนทัพสิงโตคำรามหลังจากเสร็จสิ้นศึก ยูโร 2016 รอบสุดท้ายที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตรงกับกำหนดครบสัญญาและหลายคนก็คาดกันไว้ว่าสมาคมฟุตบอลอังกฤษจะไม่มีการต่อสัญญากับรอย ฮ็อดจ์สันเพิ่มออกไปอีกแล้ว

       ทั้งนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โดนปลดลงจากตำแหน่งกุนซือ หงส์แดง เมื่อช่วงต้นของซีซั่นนี้หลังจากพาทีมทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในช่วงออกสตาร์ทซีซั่น โดยเป็นทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันที่ได้เข้ามารับตำแหน่งแทน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ด้วยฝีมือและผลงานที่ผ่านมาของเจ้าตัว ก็ยังทำให้สื่อพากันคาดการณ์ว่าเป็นหนึ่งในคนที่เหมาะสมลำดับต้นๆของทีมสิงโตคำราม ที่กำลังเฟ้นหากุนซือรายใหม่มาแทนที่ รอย ฮ็อดจ์สัน หลังจบศึกยูโร 2016 ตามกล่าวข้างต้น

       ทว่าล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมากล่าวปฏิเสธเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว โดยบีร็อดจ์กล่าวเผยกับสื่อว่าคุณจะต้องได้รับข้อเสนอเข้ามาจากพวกเขาซะก่อนมันจึงจะหมายถึงว่าคุณต้องเตรียมไปทำงานที่นั่น (แต่ ณ ตอนนี้มันยังไม่มีเลย) อย่างไรก็ช่างอนาคตระยะยาวของผม ผมยังแพลนที่จะเป็นกุนซือต่อไปอีกสัก 20 ปี

       แต่ตอนนี้ผมก็ยังมีความสุขดีกับการได้ใช้เวลาไปในการพักผ่อน มันเป็นเพียงการพักผ่อนในช่วงสั้นๆนะ เมื่อถึงซัมเมอร์ผมจะกลับไปรับงานคุมทีมอีกครั้งมันจะเป็นที่ไหนก็ได้อาจเป็นในบ้านเกิดหรือประเทศอื่น

       สรุปสิ่งที่บีร็อดจ์กล่าวเผยออกมาก็ชัดเจนว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางเอฟเอ หรือได้รับข้อเสนอเข้ามาเหมือนกับที่สื่อพูดถึงกันแต่อย่างใด แต่ที่แน่ๆคือช่วงซัมเมอร์เจ้าตัวจะกลับมารับงานทำทีมต่อ เพียงแต่จะเป็นทีมไหนในลีกไหนนั้นก็ต้องรอลุ้นกันหน่อย


 83 
 เมื่อ: มกราคม 22, 2016, 03:27:49 AM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ต้องบอกว่ายังดีพอที่จะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปเหมือนกันสำหรับทางด้านของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ใน ศึกเอฟเอคัพ ฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ของอังกฤษ แม้ว่าในเกมแรกจะทำได้เพียงแค่เสมอกับทีมต่างดิวิชั่นอย่าง เอ็กเซเตอร์ จนต้องมาเล่นนัดรีเพลย์ก็ตาม เพราะที่สุดแล้วหงส์แดงชุดสองที่ประกอบไปด้วยผู้เล่นสำรองและผู้เล่นดาวรุ่งก็สามารถแสดงความเหนือชั้นออกมาด้วยการไล่ยำทีมเยือนไป 3-0 ตีตั๋วเข้ารอบสี่ไปพบกับทีมขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่สร้างความเจ็บช้ำให้พวกเขาไปในรายการลีกซีซั่นนี้สองเกมแล้ว

       ทั้งนี้การจัดตัวเกมนี้ของคล็อปป์ก็ดังที่กล่าวไปเป็นผู้เล่นชุดสองเต็มๆจะมีตัวจริงก็เพียงแค่ในรายของผู้รักษาประตู ซิมง มิโญเล่ต์
- แผงแบ็กโฟร์มี โจเซ่ เอ็นริเก้, ติอาโก้ อิลอรี่, แบรด สมิธ และคอนนอร์ แรนดอล
- แผงมิดฟิลด์สามรายมี บรานาแกน, เควิน สจ๊วต และโจ อัลเลน
- เกมรุกมี คริสเตยอง เบนเทเก้, จอร์ดอน ไอบ์ และเจา คาร์ลอส

       สำหรับสามประตูของทางฝั่งหงส์แดงที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ประตูแรกได้จากโจ อัลเลน นาทีที่ 10 ประตูที่สองได้จากโอโจ้ ตัวสำรองนาทีที่ 74 และประตูปิดท้ายได้จากเจา คาร์ลอส นาทีที่ 82

       อย่างไรก็ตามนอกจากผลการแข่งขันอันสวยงามที่ถือเป็นไฮไลท์ของหงส์แดงในเกมนี้แล้ว ระหว่างเกมก็ยังมีเรื่องที่นับว่าเป็นไฮไลท์อันน่าจดจำในเกมนี้อีกเช่นกันนั่นคือการกลับคืนสนามของ จอห์น ฟลานาแกน กองหลังดาวรุ่งที่เคยทำผลงานอันยอดเยี่ยมไว้ในยุคของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แต่ต้องร้างสนามไปนานร่วม 20 เดือนจากอาการบาดเจ็บ

       โดยระหว่างที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัวส่งนักเตะลงไปสนามนาทีที่ 51 แฟนบอลทั้งสนามแอนฟิลด์ต่างพากันปรบมือต้อนรับ แบบชนิดที่เรียกว่าเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจและน่าจดจำสำหรับตัวนักเตะมากๆเลย

 84 
 เมื่อ: มกราคม 17, 2016, 11:26:09 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       เรียกว่าเห็นดีเห็นงามไปตามๆกันสำหรับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอนาคตตัวเองของเจ้าถั่วน้อย ฮาเวียร์ เอร์นานเดซชิชาริโต้” กองหน้าความหวังยุคใหม่ของทีมจังโก้ เม็กซิโก เมื่อเป็นทางด้าน ฮวน คาร์ลอส โอโซริโอ กุนซือทีมชาติเม็กซิโกที่ได้ออกมากล่าวในเชิงชื่นชมผลงานปัจจุบันของลูกทีมรายนี้ และการตัดสินใจในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ปีที่แล้ว

       ทั้งนี้ดังที่ทราบกัน ชิชาริโต้ ไม่มีพื้นที่ที่ดีพอในทีมปีศาจแดงนับตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แม้ว่าจะย้ายไปทำผลงานได้ดีในการเล่นแบบยืมตัวกับทีมราชันชุดขาวเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาก็ตาม

       เนื่องจากเป็นนักเตะที่มีสไตล์การเล่นที่ไม่ตรงตามความต้องการของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ทีมปีศาจแดงคนปัจจุบัน แต่ทว่าหลังจากที่นักเตะย้ายไปเล่นให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมดังใน บุนเดสลีกา เยอรมัน นักเตะก็สามารถแสดงศักยภาพอันยอดเยี่ยมของตัวเองออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ โดยยิงประตูให้กับทีมได้ต่อเนื่อง และกลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมห้างขายยาไปเรียบร้อยแล้ว

       ทำให้ล่าสุดนายใหญ่ทีมชาติเม็กซิโกออกมากล่าวถึงเจ้าตัวว่า การที่เขาย้ายมาอยู่กับเลเวอร์คูเซ่นนั้นมันคือการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมเลยล่ะมันแสดงถึงประสิทธิภาพการตัดสินใจของเขา และทั้งสโมสรกับแฟนบอลของเลเวอร์ฯต่างก็รู้สึกพึงพอใจในตัวเขา ตัวผมเองมั่นใจมาตั้งแต่เขาอยู่กับแมนฯยูไนเต็ดและมาดริดแล้วล่ะว่าเขาคือกองหน้าชั้นยอด

       ดูสิมีกองหน้าธรรมชาติไม่กี่คนหรอกที่ทำประตูได้ดีเหมือนกับเขา นี่คือกองหน้าที่มีสัญชาตญานการพังประตูที่ดีที่สุดคนนึงเลย จริงๆเขาได้แสดงศักยภาพของเขาออกมาแล้วล่ะตอนที่เขาเลือกมุ่งหน้าสู่การค้าแข้งในยุโรปครั้งแรก (กับทีมปีศาจแดง) เขาทำให้เราเห็นแล้วว่าเขาเป็นนักเตะที่ทำอะไรได้มากมายจริงๆ


 85 
 เมื่อ: มกราคม 17, 2016, 11:11:43 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       งานนี้ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับทีมปีศาจแดงแล้วล่ะว่าต้องการตัวนักเตะไปร่วมทีมจริงหรือเปล่า หากว่าข่าวคราวจากสื่อดังในแดนฝอยทองรายงานออกมานั้นเป็นความจริง เพราะตามเนื้อข่าวนั้นระบุชัดเจนเลยว่าทาง เรอัล มาดริด นั้นพร้อมขาย โทนี่ โครส กองกลางตัวเก่งชาวเยอรมันแล้ว และได้แจ้งไปทางปีศาจแดงที่เคยแสดงความสนใจนักเตะอย่างจริงจังแล้วด้วยว่า ให้นำเงินมาซื้อนักเตะไปได้เลยที่ราว 40.5 ล้านปอนด์

       นอกจากนี้สื่อก็ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ บิ๊กบอสของสโมสรราชันชุดขาวนั้นต้องการรวบรวมเงินนำไปซื้อกองหน้าทีมชาติอุรุกวัย “เอดิสัน คาวานี่” ของเปแอสเช ทีมดังในลีกเอิง ให้ได้ทันตลาดซื้อขายรอบนี้ เนื่องจากพวกเขาจะไม่สามารถเสริมทัพปรับทีมได้ในตลาดซื้อขายนักเตะสองรอบหน้า ที่โดนทางฟีฟ่าสั่งแบนไปเรียบร้อย

       อย่างไรก็ตามแม้ว่าปีศาจแดงจะเคยตกเป็นข่าวสนใจห้องเครื่องทีมชาติเยอรมันอย่างจริงจังอยู่ช่วงนึง แต่เมื่อไม่นานมานี้พวกเขากลับตกเป็นข่าวกำลังเตรียมเงินราว 60 ล้านปอนด์เพื่อยื่นให้ทาง เรอัล มาดริด พิจารณาแลกกับการปล่อยตัว ฮาเมส โรดริเกซ เพลย์เมกเกอร์โคลอมเบีย

       ดังนั้นจึงไม่แน่เหมือนกันว่าทางปีศาจแดงจะตอบรับคำเสนอขาย โทนี่ โครส จากทีมชุดขาวหรือไม่ ว่ากันง่ายๆคือตอนนี้ดูเหมือนว่าความจำเป็นและความต้องการเสริมทัพของปีศาจแดงนั้น จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เป็นนักเตะมิดฟิลด์ตัวกลางไปเป็นนักเตะในตำแหน่งเกมรุกซะแล้วนั่นเอง

       เพราะทางกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล ก็เคยได้กล่าวย้ำมาตลอดว่าต้องการนักเตะเกมรุกฝีเท้าดีที่มีความเร็วมาเติมเต็มทีมเพื่อให้ทีมได้มีประสิทธิภาพเกมรุกที่เฉียบคมขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ตำแหน่งอื่นๆเจ้าตัวมองว่าเป็นอะไรที่ลงตัวดีอยู่แล้ว หลังมีการปรับเปลี่ยนมาในช่วงตลาดซื้อขายสามรอบที่ผ่านมาจึงไม่มีความจำเป็นต้องไปเปลี่ยนแปลงอะไร

 86 
 เมื่อ: มกราคม 15, 2016, 12:19:25 AM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman
   3 - 3   

       เรียกว่าเป็นบิ๊กแมทที่ไม่ทำให้คอบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องผิดหวังกันเลยทีเดียวสำหรับคู่ระหว่างหงส์แดง  ลิเวอร์พูล พบกับปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ตามโปรแกรมการแข่งขันลีกนัดที่ 21 ของซีซั่น เพราะทั้งสองทีมนั้นเล่นกันได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์และมีประตูรวมเกิดขึ้นถึง 6 ประตูเลย  โดยแบ่งเป็นของเจ้าบ้านสามประตูและทีมเยือนสามประตูได้ผลเสมอกันไปแบบยุติธรรม

       ทั้งนี้เกมนี้ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อทั้งสองทีมพอสมควร ทีมเยือนปืนโตนั้นต้องการมีแต้มเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงและความหวังในการลุ้นคว้าแชมป์เอาไว้ ขณะที่เจ้าบ้านหงส์แดงก็ต้องการแต้มเพื่อรักษาความหวังในการกลับไปลุ้นจบท็อปโฟร์เช่นกัน แม้เวลานี้จะยังรั้งอยู่กลางๆตารางคะแนนเท่านั้นก็ตาม ทำให้ทั้งสองทีมเตรียมตัวมาสู้กันแบบถวายหัวชนิดไม่มีใครยอมใคร

       อย่างไรก็ตามเริ่มต้นเกมไปในช่วงต้นเกมเป็นเจ้าบ้านหงส์แดงที่ทำได้ดีกว่าได้ประตูออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 10 จากลูกยิงของโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ แต่แฟนบอลเจ้าบ้านก็ได้เฮกันไม่นานนักอีกสี่นาทีถัดมาอารอน แรมซี่ย์ก็มายิงตีเสมอให้ทีมเยือนเป็น 1-1 กระนั้นอีกห้านาทีถัดมาเฟอร์มิโน่คนเดิมก็มาซัดประตูสุดสวยให้หงส์แดงพลิกนำอีกครั้งเป็น 2-1 ก่อนที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จะมาโหม่งเช็ดตีเสมอให้กับปืนโตเป็น 2-2 ในนาทีที่ 25 เกมทำท่าว่าจะเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่า

       แต่แล้วครึ่งเวลาหลังก็ดันกลายเป็นทีมเยือนที่มายิงแซงนำเป็น 3-2 จากชิรูด์คนเดิม นาทีที่ 55 ก่อนที่นาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขันจะเป็นโจ อัลเลน ตัวสำรองที่ถูกส่งสนามไปแทนเอ็มเร่ ชานซัดประตูกู้ทีมให้กลับมาเสมอได้เป็น 3-3 คว้าหนึ่งแต้มสำคัญไปได้อย่างหวุดหวิด ส่วนภาพรวมตลอดเกม 90 นาทีเจ้าบ้านหงส์แดงทำได้ดีกว่า โดยครองบอลมากกว่าถึง 59%-41% และสร้างโอกาสยิงประตูได้รวม 16 ครั้ง ทีมเยือนทำได้ 12 ครั้ง

 87 
 เมื่อ: มกราคม 12, 2016, 09:11:50 AM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลต่ออนาคตการค้าแข้งของนักเตะไปซะแล้วงานนี้ สำหรับปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังของหัวหอกจอมแดนซ์ “แดเนียล สเตอร์ริดจ์” เพราะเวลานี้มีรายงานข่าวออกมาจากสื่อดังของอังกฤษอย่างเดอะ มิร์เร่อร์แล้วว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่จอมบู๊ของหงส์แดงกำลังมีแผนที่จะโละแข้งกระดูกยุงรายนี้พ้นทีม เพื่อเปิดโอกาสให้กองหน้ารายใหม่เข้ามาในทีม และเพิ่มสมดุลขุมกำลังทีมในแดนหน้า เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บที่เรื้อรังของนักเตะนั้นส่งผลต่อการเลือกใช้งานผู้เล่นในแต่ละนัดอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาที่ทีมต้องมีโปรแกรมลงเล่นชุกอย่างนี้

        ทั้งนี้ในซีซั่นนี้สเตอร์ริดจ์ทำท่าว่าจะหายกลับมาจากอาการบาดเจ็บสองถึงสามครั้งแล้ว ทว่าการกลับมาแต่ละครั้งของนักเตะก็เป็นเพียงกลับมาแบบชั่วครู่โดยลงเล่นได้เพียงเกมสองเกมก็เจ็บซ้ำอีก และถึงแม้ว่านักเตะจะอยากกลับมาลงเล่นให้ทีมไวๆ มีการออกมายืนยันด้วยตนเองว่าพร้อมคืนสนามแล้ว

       แต่ด้วยความเข้มงวดเรื่องสภาพความฟิตนักเตะของกุนซือชาวเยอรมัน จึงทำให้นักเตะยังไม่อาจกลับคืนสนามได้อยู่ดี หน่ำซ้ำล่าสุดยังลามไปถึงขั้นอาจจะโละออกจากทีมเลยทีเดียว หากว่ามีข้อเสนอที่เหมาะสมเข้ามา

       ดังกล่าวข้างต้นตามรายงานของเดอะ มิร์เร่อร์ ซึ่งระบุว่าคล็อปป์พร้อมปล่อยกองหน้าทีมชาติอังกฤษรายนี้ออกจากทีมในทันทีเลยถ้าหากว่าได้ค่าตัวราว 25 ล้านปอนด์

       ส่วนนักเตะกองหน้าที่มีข่าวเชื่อมโยงกับหงส์แดงว่า อาจจะย้ายสวนทางสเตอร์ริดจ์เข้ามาก็เป็นทางด้านของ อเล็กซานเดร ปาโต้ กองหน้าบราซิเลี่ยนของทีมโครินเธียนส์ ที่เคยโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมสมัยที่เล่นให้ทีมปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน ทีมในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี โดยสื่อรายงานว่าหงส์แดงอาจใช้เงินราว 11-12 ล้านปอนด์ในการคว้าปาโต้มาเสริมทัพเพื่อแก้ปัญหาปืนฝืดอย่างน้อยๆก็ในช่วง 1-2 ปีต่อจากนี้

 88 
 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2015, 10:58:36 AM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

      ดูท่าจะอยู่ยากซะแล้วสำหรับทางด้านของ ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ชาวสแปนิชของทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เพราะแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะเคยได้มีการออกมายืนยันจากทาง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ บิ๊กบอสของสโมสรชุดขาวแล้วว่าสโมสรยังคงให้การสนับสนุนกุนซือรายนี้ได้ทำหน้าที่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาบิวต่อไป

       แต่ล่าสุดสื่อในประเทศสเปนหลายรายกลับพร้อมใจกันตีข่าวออกมาในทิศทางเดียวกันว่า เวลานี้บอร์ดบริหารทีมกำลังพิจาณาอย่างจริงจังถึงการสั่งปลดอดีตกุนซือนาโปลีรายนี้ลงจากตำแหน่ง และบางทีมันก็อาจจะเกิดขึ้นก่อนปีใหม่นี้เลย

       ทั้งนี้สื่ออย่าง เกเดน่า เอสอีอาร์ เรดิโอ้ โกเป้ ให้เหตุผลรายงานข่าวนี้ว่าเป็นเพราะผู้บริหารหลายรายไม่พอใจที่ทางราฟาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการทำงานร่วมกับนักเตะตัวเก่งของทีมหลายรายได้จนส่งผลกระทบต่อฟอร์ม และผลงานโดยรวมของทีม
 
       ส่วนตัวแทนกุนซือที่ถูกพูดถึงว่าอาจจะได้มาทำหน้าที่ต่อจากราฟาเอล เบนิเตซก็แน่นอนว่าหนีไม่พ้นในรายของ โจเซ่ มูริญโญ่ ที่เพิ่งโดนเชลซีปลด กับ ซีเนอดีน ซีดาน อดีตตำนานนักเตะของพวกเขาเองที่ปัจจุบันทำหน้าที่โค้ชของทีมสำรอง

       โดยในรายของซีดานนั้นมีการพูดถึงกันมาสักพักแล้วล่ะ ว่าเจ้าตัวจะได้ก้าวขึ้นมาทำทีมชุดใหญ่ของมาดริดในอนาคตแน่นอน แต่ปัญหาในปัจจุบันคือเรื่องของฝีมือ และประสบการณ์อาจยังไม่เพียงพอที่จะนำพาชุดขาวสู้ศึกใหญ่อันเข้มข้นทั้งในรายการลีก และบอลถ้วยยุโรป

      แนวโน้มจึงน่าจะเป็นทางโจเซ่ มูริญโญ่มากกว่าที่จะได้กลับมายืนคุมทัพลอสบลังกอสข้างสนามอีกครั้ง แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็เช่นกันว่าทางมูริญโญ่เองก็เคยมีปัญหาในการทำงานร่วมกับบรรดานักเตะสตาร์ของทีมชุดขาว อาทิเช่นในรายของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และจะว่าไปปัญหาเหล่านี้เองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวต้องแยกทางกับชุดขาวก่อนที่จะกลับไปคุมเชลซีที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษเป็นคำรบที่สองด้วย

 89 
 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2015, 12:35:14 AM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ต้องบอกว่าอาจเป็นข่าวคราวที่ทำเอาแฟนบอลหงส์แดงซึมไปได้ไม่น้อยเลยเหมือนกันงานนี้ สำหรับการออกมาเผยเกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะช่วงเดือนมกราคมนี้ จากปากของกุนซือคนเก่งชาวเยอรมันเอง เพราะสิ่งที่กล่าวออกมาจับใจความได้ว่าเขาอาจจะไม่ลงไปลุยตลาดนักเตะรอบนี้ด้วยเห็นว่านักเตะที่มีอยู่ในทีมตอนนี้ก็ล้นมากจนแทบจะไม่มีที่ยืนกันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบรรดานักเตะตัวหลักๆทยอยหายจากอาการบาดเจ็บกันกลับมา

       ทั้งนี้ทีมหงส์แดงภายใต้การนำทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถือได้ว่ามีผลงานที่ยอดเยี่ยมทีเดียว โดยเรียกได้ว่าพลิกโฉมจากยุคของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไปถึงขนาดหลายคนยกให้ก้าวขึ้นมาเป็นทีมลุ้นแชมป์เลยด้วยซ้ำ แต่กระนั้นก็ยังมีการพูดถึงกันในเรื่องของการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเสริมทัพกันอยู่เรื่อยๆ ตามธรรมชาติของทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือ

       โดยที่ผ่านมาก็มีหลายสื่อพยายามนำเสนอข่าวเชื่อมโยง ลิเวอร์พูล เข้ากับนักเตะของทีมอื่นๆ โดยเฉพาะในทีมเยอรมันแบบอ้างอิงความต้องการเสริมทัพของนายใหญ่ชาวเยอรมัน ซึ่งรวมถึงนักเตะดาวดังบางรายของทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ ที่เดอะค็อปจำนวนมาหวังอยากจะให้ดีลเกิดขึ้นจริงๆด้วย

       อย่างไรก็ตามดังที่กล่าวข้างต้นล่าสุดอดีตนายใหญ่ทีมเสือเหลืองออกมาเผยแพลนการทำงานชัดเจนแล้วว่า ถ้าหากมันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำจริงๆ (ดึงนักเตะรายใหม่เข้าทีม) เราก็จะทำมันนั่นแหละ แต่ ณ ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นจริงๆ ไอ้เรื่องแบบนี้เราทำงานกันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว พวกเราศึกษาการเล่นของนักเตะจากวีดีโอตลอดเวลานั่นแหละแต่เราจะดึงเขาเข้ามาในทีมตลาดหน้าหนาวนี้เลยหรือเปล่า  หรือจะไปดึงเข้ามาตอนซัมเมอร์มันก็เป็นอีกเรื่องนึง ตอนนี้นักเตะเรากำลังหายเจ็บกลับมารายคนทั้ง ฟลานาแกน ซาโก้ เฮนเดอร์สัน ดังนั้นผมคิดว่าเรายังไม่จำเป็นต้องไปมองคนอื่น

 90 
 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2015, 05:17:14 AM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman
       เรียกว่าทำลายสถิติของ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ไปแบบเรียกเสียงฮือฮาปนขำได้เหมือนกัน สำหรับทางด้านของ จูลิโอ มิยาชโช่ มิดฟิลด์ตัวเก๋าของทีมอตาลันต้า ทีมใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อในเกมที่อตาลันต้าเปิดบ้านเอาชนะปาร์แลโม่ไปได้ 3-0 เจ้าตัวลงสนามไปได้เพียงแค่ 32 วินาทีก็ถูกผู้ตัดสินควักใบแดงตะเพิดออกจากสนามไปซะแล้ว

       ทั้งนี้สถิติโดนไล่ออกจากสนามเร็วที่สุดเดิมเป็นของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่โดนตะเพิดในเกมแดงเดือดซีซั่นที่แล้ว หลังถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส สั่งเปลี่ยนตัวลงสนามไปได้เพียงแค่ 36 วินาที โดยภายหลังจากที่เจอร์ราร์ดย้ายไปเล่นใน เมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกาแล้วเจ้าตัวก็ได้เคยออกเปิดเผยไปแล้วด้วยว่า ส่วนนึงที่ลงสนามไปและมีจังหวะเล่นเกมหนักใส่นักเตะปีศาจแดงในทันที กระทั่งโดนใบแดงไล่ออกอย่างรวดเร็วนั้นเป็นเพราะรู้สึกไม่พอใจ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ของทีมที่ไม่ยอมส่งตนลงเล่นเป็นตัวจริงๆ ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าตนเองอยู่กับสโมสรนี้มานาน เป็นกัปตันทีมและเกมแดงเดือดหนนั้นก็จะเป็นหนสุดท้ายก่อนที่จะอำลาทีม

       แต่ถึงอย่างนั้นอดีตกัปตันทีมหงส์แดงก็ได้กล่าวขอโทษด้วยเช่นกัน กับการเล่นหนักครั้งนั้นโดยมีอารมณ์ติดค้างก่อนลงสนามมาเป็นต้นเหตุ พร้อมกับยอมรับตามตรงว่าตนเองควรที่จะควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่านี้ และช่วยทีมได้มากกว่า กล่าวคือควรจะต้องมีสปิริตนั่นเองแม้ว่าจะถูกเปลี่ยนลงไปเป็นตัวสำรองก็ตาม

       อย่างไรก็ตามสำหรับสถิติ 32 วินาทีของทางแข้งอตาลันต้าที่ทำลายสถิติเดิมของเจอร์ราร์ดไปนั้นก็ไม่ได้นับเป็นสถิติที่รวดเร็วที่สุดซะทีเดียว ต้องบอกว่าเป็นเวลาที่เร็วที่สุดนับแต่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มเกมและแข้งที่โดนไล่ออกอยู่ในเกม เพราะหากนับรวมใบแดงทุกเคสแล้วที่เร็วที่สุดจริงๆเป็นของ คีธ กิลเลสพี ที่เมื่อปี 2007 เล่นกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดยตอนนั้นนักเตะถูกเปลี่ยนตัวลงสนามไปและทะเล่อทะล่าไปฟาดแขนใส่นักเตะทีมคู่แข่งทันที โดยที่ผู้ตัดสินยังไม่เป่าให้เริ่มเกมเลยจึงโดนใบแดงไล่ออกไปแบบไม่ได้อยู่ในเกมการแข่งขันแม้แต่วินาทีเดียว


หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10