แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - Armin

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 766
76

          มิดฟิลด์ตัวยืมของทีม "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด "อันโตนิโอ โนเชริโน่" ออกโรงเปิดเผยผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เตรียมเก็บข้าวของลาจากต้นสังกัดปัจจุบัน กลับไปอยู่กับ "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน เมื่อจบสิ้นฤดูกาล

แข้งวัย 29 ปีถูก "ขุนค้อน" ยืมตัวมาจาก "เอซี มิลาน" เมื่อช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมาโดยมีสัญญาระยะสั้นถึงเพียงแค่ช่วงสิ้นสุดซีซั่นนี้เท่านั้น

ก่อนหน้านี้แม้ "โนเชริโน่" ได้เปรยว่ามีความประสงค์ที่จะอยู่ค้าแข้งในพรีเมียร์ ลีกต่อไป และ "เวสต์แฮม" ก็คือตัวเลือกอันดับแรกของเขาที่จะย้ายมาร่วมทีมแบบถาวร แต่ล่าสุดดูเหมือนเจ้าตัวจะเปลี่ยนใจ โดยเปิดเผยข่าวผ่านทางโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค

"ผมจะกลับไปค้าแข้งในอิตาลี" โนเชริโน่ เผย

"ขุนค้อน...ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม"

77

           อดีตเจ้าของทีม "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม "โมฮาเหม็ด อัล ฟาเย็ด" ออกมาให้สัมภาษณ์โดยบอกว่าที่ทีมของเขาต้องร่วงตกชั้นลงไปนั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาตัดสินใจเอารูปปั้นของ "ไมเคิ่ล แจ๊คสัน" ที่ตั้งอยู่หน้าสนามออกนั่นเอง

รูปปั้นของ "ไมเคิ่ล แจ๊คสัน" นักร้องซุปเปอร์สตาร์ตลอดกาลซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ "อัล ฟาเย็ด" ถูกเปิดตัวที่หน้าสนามคราเว่น คอตเทจเมื่อปี 2011 และหลัง "ซาฮิด ข่าน" ซึ่งเข้ามาเป็นเจ้าของทีมคนใหม่เมื่อไม่นานนี้ตัดสินใจว่าจะไม่เก็บรูปปั้นนี้เอาไว้ทำให้ถูกส่งคืนไปหา "อัล ฟาเย็ด" เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ถึงแม้ว่า "เจ้าสัวน้อย" จะตั้ง "เฟลิกซ์ มากัธ" มากู้สถานการณ์ของทีมที่ดิ่งลงไปอยู่ท้ายตารางแต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ซึ่ง "อัล ฟาเย็ด" ก็เชื่อว่าการที่ "ข่าน" ไม่เก็บรูปปั้นเพื่อนสนิทของเขาที่สูง 7 ฟุต 6 นิ้วไว้ถือเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว

"รูปปั้นนี้เป็นเหมือนเครื่องรางและเราก็เอาความโชคดีออกไปจากสโมสรซึ่งตอนนี้เราก็รู้ซึ้งกันแล้วล่ะ" อัล ฟาเย็ด บอก
"เมื่อตอนที่ข่านขอให้ผมย้ายออก ผมตอบว่า 'นายบ้าไปละ' นี่เป็นรูปปั้นอันมหัศจรรย์ซึ่งแฟนๆเรียกร้องเลยนะ"

"แต่ตอนนี้เขาต้องมารู้ซึ้งเพราะสโมสรตกชั้นแล้ว เขาโทรหาผมเพราะเขาบอกผมว่าอยากได้ไมเคิ่ลคืน ผมบอกเขา ฝันไปเหอะ"

โดยปัจจุบันรูปปั้นของ "ไมเคิ่ล แจ๊คสัน" นี้ถูกส่งมอบให้ไปตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติในเมืองแมนเชสเตอร์เรียบร้อยแล้ว

ในการเปิดตัวรูปปั้นที่พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติ "อัล ฟาเย็ด" ได้กล่าวว่า "นี่เป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมซึ่งมีคนนับพันมาเยี่ยมชมและผมก็ภูมิใจมากที่ได้นำเสนอพวกเขาด้วยหนึ่งในศิลปินและนักร้องที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"

"ไมเคิ่ลเป็นตัวอย่างที่น่าวิเศษสำหรับทุกคนนะ เขามาจากไหนไม่รู้และแสดงความตั้งใจอันยอดเยี่ยมที่จะเป็นซูเปอร์สตาร์ให้เห็น ผมยินดีมากที่ตอนนี้เขาอยู่ในสถานที่อันยอดเยี่ยมให้ทุกคนได้มาชื่นชม"

78
"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขยับเข้าใกล้แชมป์เข้าไปทุกทีหลังจากที่ขยี้ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า อยู่นานสองนานสุดท้าย "เอดิน เซโก้" ที่ฟอร์มกำลังขึ้นมายิงคนเดียวสองตุงบวกประตูจาก "ยาย่า ตูเร่" และ "สเตฟาน โยเวติช" อีกลูกพาทีมเอาชนะ 4-0 ทิ้งห่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 2 แต้มขอเพียงแค่นัดสุดท้ายมีแต้มติดมือก็รับถ้วยได้เลย



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันที่ 7 พฤษภาคม 2557
กรรมการ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 แอสตัน วิลล่า

               ออกสตาร์ทเกมช่วงแรกมา "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ค่อยเป็นค่อยไปค่อยทำเกมบุกตามสไตล์ของตัวเองมีโอกาสได้ทักทายก่อนจากเซโก้จ่ายให้โคลารอฟเติมเข้ามาถึงในเขตโทษเลือกเปิดได้แต่ไม่เอาลองยิงอัดเสาแรกหน่อยโดนทุบออกมา

นาที 12 เกือบจะเป็นประตูออกนำให้กับเจ้าบ้านแล้วจากบอลอยู่กับมิลเนอร์หน้าเขตโทษทางขวาล็อกหลอกเข้าซ้ายแต่เลือกจ่ายออกไปทางขวาสุดมีซาบาเลต้าสอดเข้าเขตโทษมา ก่อนจะปาดเรียดไปเสาไกลมียาย่าวิ่งกลับมายิงแต่ยังมีฟลาร์ยืนขวางเลยแฉลบออกหลังแทน

นาที 19 แมนฯ ซิตี้ยังครองบอลนวดไปเรื่อยหนนี้อาศัยบอลของนาสรี่จ่ายให้โคลารอฟที่เติมมาสุดเส้นหลังเปิดโค้งเรียดไปหน้าประตูผ่านซิลบาไปแต่ชนแนวรับวิลล่าเด้งมาหากูซาน ซิลบาพยายามจะหันกลับมาเล่นต่อแต่กูซานยังล้มรับเอาไว้ทัน

นาที 23 "เรือใบ"มาเรื่อยเลยหนนี้บอลข้ามจากขวามาซ้ายถึงนาสรี่ที่ริมเส้นลากหาเขตโทษแล้วฝากให้กับซิลบาข้างในก่อนเบิ้ลคืนกลับมาให้นาสรี่หน้าเขตโทษได้ลองส่องไกลแต่ยังหลุดกรอบออกหลัง

นาที 28 ฝั่งวิลล่าเป็นฝ่ายตั้งรับซะส่วนมากกว่าแทบไม่ค่อยได้โงหัวขึ้นไปบุกเท่าไหร่และเพิ่งได้ลองยิงไปหนแรกจากการจ่ายบอลพลาดของแมนฯ ซิตี้เข้าทางเบอร์ทรานด์เลยเลือกวางยาวเข้าเขตโทษให้ไวมันน์วิ่งฉีกไปพยายามยิงอัดจังหวะแรกแต่โดนไม่ดีบอลเบากระเด้งกระดอนเข้าซองฮาร์ท

นาที 32 "สิงห์ผงาด"เหมือนจะได้ลุ้นเหมือนกันอาศัยการฉวยจังหวะได้ขึ้นมาจบ จากที่แมนฯ ซิตี้บุกอยู่ดีๆเจอสกัดบอลได้เข้าทางไวมันน์แดนหน้าพาบอลควบขึ้นมาคนเดียวแล้วจนถึงหน้าเขตโทษแมนฯ ซิตี้ก่อนจะเลือกซัดทันทีแฉลบบล็อกนิดนึงบอลพุ่งออกหลังไป

นาที 39 บอลตามช่องของแมนฯ ซิตี้ยังอันตรายทำเอาเกือบมีออกนำอีกแล้วจากบอลอยู่กับยาย่าก่อนแทงเข้าเขตโทษให้ซาบาเลต้าวิ่งฉีกไปเอาบอลไม่ล้ำหน้าก่อนหักไปตรงกลางให้ซิลบาจับทีแรกบอลกระดอนเลยต้องตามไปยิงด้วยขวาแต่ยังโดนแหย่ขาดักไว้อีก

นาที 45+2 ท้ายครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้บดอยู่หน้าเขตโทษของวิลล่านานสองนานเลยเคาะไปมาหาช่องอย่างยากสุดท้ายการ์เซียให้มิลเนอร์ว่างทางขวามีเวลาเปิดไปเสาแรก จบด้วยนาสรี่โฉบมาเข้าชาร์จแต่น่าเสียดายบอลหลุดเสาแรกออกไปเองทำให้ยังเสมออยู่

              เข้าสู่เกมช่วงครึ่งหลังแทบจะไม่ต่างจากครึ่งแรกเลย "ซิตี้" ต้องนวดไปเรื่อยๆกับการเจอเกมรับ 11 คนในแดนตัวเอง ก่อนได้ลุ้นอีกจังหวะเป็นเตะมุมเข้ามาโดนสกัดออกไป บอลโดนโหม่งสวนกลับมาในเขตโทษเข้าทางกอมปานีกระโดดตีลังกายิงเลยแต่ตรงตัวกูซานเลยรับได้

นาที 57 ยังเป็นแมนฯ ซิตี้ที่ตามหาประตูออกนำต่อไป หนนี้เปลี่ยนมาเป็นฟรีคิกบ้างระยะราว 30 หลารับหน้าที่โดยโคลารอฟวิ่งเข้ามาซัดข้ามกำแพงพุ่งมาทางเสาแรกแต่กูซานยังไม่ยอมบินทุบออกหลังไปก่อน

นาที 64 แล้วอดทนบุกันมาเป็นชั่วโมงในที่สุด"เรือใบสีฟ้า"ก็ได้เฮกันซักทีได้ออกนำแล้วจากบอลที่เคาะอยู่หน้าเขตโทษนานสองนานก่อนซิลบาพลิกมาแล้วจ่ายตามช่องเข้าเขตโทษให้ซาบาเลต้าวิ่งตัดจากทางขวาเข้ามาปาดบอลไปตรงกรอบ 6 หลาจบลงที่เซโก้วิ่งมายิงเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ออกนำซักที 1-0

นาที 72 พอนำแล้วผ่อนเกมได้ตามสบายแถมเจ้าบ้านบวกตุงสองได้ด้วยจากตรงกลางออกไปให้ซิลบาทางขวาแล้วจ่ายให้ซาบาเลต้าวิ่งระวังขวาโฉบเข้ามาเปิดเรียดในเขตโทษเหมือนลูกแรกเลย หนนี้นาสรี่ยิงก่อนไปติดเซฟแต่เด้งเข้าทางเซโก้ก็ซ้ำเข้าไปไม่เหลือ แมนฯ ซิตี้นำห่าง 2-0 งานเบาลงเยอะ

นาที 74 เกือบจะมีตุงสามตามมาให้"เรือใบอีก"จากฟรีคิกหน้าเขตโทษแทบจะอยู่บนเส้นแล้ว ยาย่ารับหน้าที่สังหารให้ยิงเข้าไปหากำแพงเลยสุดท้ายยังมีแฉลบหัวเปลี่ยนทางหลุดกรอบออกหลัง

นาที 78 เกมสบายค่อยเป็นค่อยไปสำหรับแมนฯ ซิตี้หนนี้เป็นบอลจากนาสรี่ไปให้กับโยเวติชขอลงยิงบ้างมาสับไกหน้าเขตโทษแต่กูซานยังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ติดมือ

นาที 83 นึกว่าจะมีประตูตีเสมอให้วิลล่าซะแล้วจากบอลทางขวาเปิดยาวเข้าเขตโทษมีโรบินสันขยับไปโหม่งสุดเส้นหลังกลับมาตรงกลางและไวมันน์ได้โขกไปชนคานจังๆเด้งลงพื้นแต่บอลมันยังไม่ข้ามเส้นก่อนจะกอมปานีจะหวดทิ้งออกมาเลย

นาที 89 แมนฯ ซิตี้ส่งท้ายไปอีกลูกด้วยจัหงะที่บอลมาฝากอยู่กับยาย่าหน้าเขตโทษแล้วยึกยักเลี้ยงไปมาเข้าเขตโทษแต่สุดท้ายไหลกลับมาตรงหัวกะโหลกวิ่งมาแปเน้นๆส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปหมดจดกลายเป็นประตู 3-0 ปิดกล่องเกมนี้

นาที 90+3 เท่านั้นไม่พอจังหวะโต้กลับช่วงทดเจ็บแมนฯ ซิตี้เอาอีกลูกจากการพาบอลโซโล่เดี่ยวของยาย่าที่ยังกะมีถังอีเติมพลังสำรองตะลุยขึ้นมาเองตั้งแต่กลางสนามเจอขวางหน้าก็ยังลากผ่านมาได้ก่อนเข้าเขตโทษ เจอเบียดไม่มีสะเทือนแล้วค่อยซัดผ่านกูซานกลายเป็น 4-0

จบเกมแมนฯ ซิตี้เอาชนะวิลล่าไป 4-0 กลายเป็นชัยชนะสำคัญทำให้พวกเขาขยับเข้าใกล้แชมป์สุดๆ ขออย่างต่ำแต้มเดียวในเกมนัดปิดซีซั่นก็จะคว้าแชมป์ไปเลย

79

              "แบรนแดน ร็อดเจอร์ส" กุนซือหนุ่มชาวไอร์แลนด์เหนือของทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกมายืนยันว่าถึงแม้จะทำพลาดยกแชมป์ให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว แต่ขอรับประกันเลยว่าเหล่านักเตะในทีมยังไม่ยอมยกธงง่ายๆจะพยายามอย่างเต็มที่คว้าชัยชนะเหนือ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ในนัดปิดฤดูกาลไม่แน่อาจมีปาฎิหาริย์ไม่คาดฝันก็ได้

ผลเสมอที่เรียกว่าช็อคโลกต่อ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ 3-3 ทำให้ "หงส์แดง" แม้กลับขึ้นนำจ่าฝูงแต่นำห่างแค่คะแนนเดียวเท่านั้นเหลืออีกนัดเดียวทำให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กุมความได้เปรียบมีเกมอยู่ในมือ 2 เกมขอแค่เสมอและชนะจะซิวแชมป์ลีกสมัย 2 ในรอบ 3 ปี

"เรามีนักเตะที่เหลือเชื่อ พวกเขาทำให้แฟนบอลมีความฝัน และตอนนี้สโมสรนำเป็นจ่าฝูงอยู่หนึ่งคะแนนเหลือเกมนัดสุดท้าย แต่อะไรๆไม่แน่เสมอไปหรอกในวงการฟุตบอล " ร็อดเจอร์ส ยืนยัน

"สิ่งเดียวที่ผมสัญญากับคุณได้ก็คือ เมื่อผมมาอยู่ที่นี่ เราทุกคนสู้สุดชีวิต แน่นอนฤดูกาลนี้ของเรายังไม่สิ้นสุดกว่าเราจะเล่นกับ นิวคาสเซิล ในวันอาทิตย์นี้ให้จบเสียก่อน"

80

            มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี "อันเดร ชูร์รเล่" ออกมาให้สัมภาษณ์โดยเขายอมรับว่าผลการแข่งขันที่ไม่ค่อยดีนักยามเจอกับทีมครึ่งล่างของตารางจะทำให้พวกเขาพลาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองอย่างเป็นทางการในซีซั่นนี้

"สิงห์บลูส์" ภายใต้การทำงานของ "โจเซ่ มูรินโญ่ "ชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แบบไปกลับในฤดูกาลนี้และยังไม่แพ้ อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ด้วย

อย่างไรก็ตามพวกเขาทำแต้มหาย 17 คะแนนยามเล่นกับทีมครึ่งล่างของตารางรวมถึงการพ่าย แอสตัน วิลล่า, คริสตัล พาเลซ และ ซันเดอร์แลนด์ นับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมาด้วย

ห้องเครื่องอินทรีเหล็ก กล่าวว่า "เราเล่นได้ดีมากๆกับทีมใหญ่แต่ในบ้านนั้นคุณต้องเอาชนะทีมอย่างซันเดอร์แลนด์และนอริชให้ได้"

"เราทำไม่ได้และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงจะไม่ได้แชมป์ลีกในปีนี้"

"เรามีโอกาสมันมีโอกาสอีกนิดเดียวแต่เราก็อยากชนะในเกมพบนอริชเพื่อที่ว่าเราจะยังได้มีลุ้นในวันสุดท้ายเพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

"เราผิดหวังมันเป็นเกมในบ้านนัดสุดท้ายของเราและกับชัยชนะนั้นเรายังคงมีหวังลุ้นแชมป์ตอนนี้เราอยู่อันดับ 3 และเราอาจจะจบฤดูกาลด้วยอันดับนี้"

81

           "ราดาเมล ฟัลเกา" ดาวยิงตีนระเบิดของ "โมนาโก" ออกโรงเปิดเผยว่าในหัวสมองของเขาตอนนี้คิดหวังแต่ว่าจะสามารถเรียกความฟิตกลับมาทันเวลาติดทีมชาติโคลอมเบียไปเล่นในฟุตบอลโลก 2014 ช่วงซัมเมอร์นี้

อดีตหัวหอกตัวเทพของ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด มีอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่ารุนแรงในช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาและนั่นทำให้เขาต้องพักยาวจนจบซีซั่นนี้

อย่างไรก็ตามมีการอ้างว่าเขาอาจกลับมาทันเวลาลงสนามในทัวร์นาเมนต์ที่บราซิลและ "ฟัลเกา" ก็ยังคงมีความหวังเล่นให้บ้านเกิดในเวลานี้

"การพักฟื้นเป็นไปด้วยดีผมมีความสุขกับกระบวนการที่ผ่านมามันดีกว่าที่คาดหมายเอาไว้และผมหวังว่าจะสามารถรักษาแนวทางนี้เอาไว้ต่อไป" ฟัลเกา กล่าว

"มันต้องใช้เวลาผมยังเหลือกระบวนการในการพักฟื้นเมื่อถึงเวลาผมจะต้องตัดสินใจว่าผมจะพร้อมหรือเปล่าผมคิดถึงหัวเข่าของตัวเองไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลยจริงๆผมคิดถึงแต่การพักฟื้น, ทุกอย่างเป็นไปได้สวยและการลงเล่นในฟุตบอลโลก"

82

           นายใหญ่ชาวชิลีของทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ "มานูเอล เปเญกรินี่" ออกโรงเตือนบรรดาลูกทีมอย่าประมาทเด็ดขาดไม่งั้นอาจจะน้ำตาตกในเหมือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เจอทีเด็ด "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ไล่ตามตีเสมออย่างเหลือเชื่อ

ผลการแข่งขันของยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีไซด์ทำได้แค่เสมอกับ "ปราสาทเรือนแก้ว" 3-3 ทั้งๆที่นำขาด 3-0 แทบจะทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ลอยลำคว้าแชมป์ขอแค่ 4 คะแนนจาก 2 นัดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม "เปเญกรินี่" อยากให้ทีมอย่ามองข้ามความปลอดภัย

"มันเป็นบทเรียนที่ดีเสมอสำหรับทุกคน ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวงการฟุตบอล และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมกีฬาชนิดนี้จึงเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก" เปเญกรินี่ กล่าว

"บางที ลิเวอร์พูล นิ่งนอนใจเกินไป พวกเขากำลังจะชนะ 3-0 แต่การยิงเพียง 3 ครั้งสามารถพลิกผันเพียงชั่วพริบตา นี่ไม่บทเรียนเดียวในตอนนี้ ในวงการฟุตบอลเราเคยเจอบทเรียนมาหลายๆครั้ง"

83
       

             กุนซือหนวดงามของทีมชาติสเปน "บิเซนเต้ เดล บอสเก้" ออกมายอมรับว่ารู้สึกหวั่นเกรง "ฮอลแลนด์" โดยถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวเสมอและมักจะสร้างความยากลำบากใจตลอดทุกครั้งที่เจอกันโดยเฉพาะการโคจรมาเจอกันนัดเปิดสนามเดือนมิถุนายนถือเป็นงานหนักที่สุดเลยก็ว่าได้

นับเป็นการรีแมตช์กันอีกครั้งของคู่ชิงชนะเลิศระหว่าง "กระทิงดุ" ปะทะ "กังหันลมสีส้ม" บทสรุปเมื่อ 4 ปีก่อนทีมของ "เดล บอสเก้" เฉือนชัยในช่วงทดเจ็บจากลูกยิงของ "อันเดรส อิเนียสต้า" ซึ่งทั้งคู่ดวงสมพงษ์จับสลากอยู่ร่วมกลุ่ม บี แถมเตะเป็นคู่เปิดสนาม

"เรานับถือทีมดัตช์และสไตล์ที่พวกเขาใช้ แม้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายตลอด 4 ปีที่ผ่านไป" เดล บอสเก้ ยืนยันผ่านหนังสือพิมพ์ชื่อดัง "มาร์ก้า"

"พวกเขาเป็นทีมที่เราต้องระมัดระวังที่สุดและเราต้องพยายามเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับพวกเขา"

"พวกเขามีนักเตะเจ๋งๆหลายคนที่เล่นให้สโมสรระดับชั้นนำ มันจึงเป็นงานหนักอึ้งสำหรับเรา"

84

           นานๆทีจะออกปากชมใครไม่ใช่ง่ายเลยสำหรับ "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" แข้งซุปตาร์จอมสับของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เออกปากชม "เนย์มาร์" แข้งสตาร์แซมบ้าของคู่ปรับสำคัญอย่าง "ต่างดาว" บาร์เซโลน่า ว่ามีโอกาสที่จะก้าวไปเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก

แข้งบราซิลเลี่ยนวัย 22 ปีย้ายจาก "ซานโตส" มาอยู่กับทีม "ต่างดาว" ด้วยค่าตัว 87.2 ล้านยูโรและจนถึงตอนนี้ทำประตูในลีกไปแล้วทั้งสิ้น 9 ลูกกับอีก 8 แอสซิสต์จากการลงสนาม 25 เกม

"ผมมองเนย์มาร์ในฐานะนักเตะชั้นยอด" โรนัลโด้ ให้สัมภาษณ์กับ "SporTV News."

"ผมคิดว่าช่วงไม่กี่เดือนมานี้เขาได้พิสูจน์แล้วว่าตัวเองมีอนาคตสดใสแค่ไหน"

"การปรับตัวของเขาที่บาร์เซโลน่าไม่ดีนัก เขามีปัญหาในช่วงเริ่มต้น แต่ผมไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถพอที่จะก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกหรือแม้กระทั่งยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"

นอกจากนั้นดาวยิงพันล้านยังได้พูดถึงสถานการณ์ทีมชาติของเขาในศึกฟุตบอลโลก 2014 ด้วยว่า

"พวกเราไม่ใช่ตัวเต็ง แต่เราจะพยายามเอ็นจอยกับมัน พวกเรารู้ดีว่าเราอยู่ในสายที่ค่อนข้างแข็ง ในความคิดผมผมว่าแข็งสุดในเวิร์ลคัพก็ว่าได้"

"พวกเราต้องก้าวไปเกมต่อเกม เราต้องเจอกับบิ๊กเนมอย่างเยอรมันในเกมแรกจากนั้นก็ต่อด้วยกาน่าและปิดท้ายด้วยสหรัฐ จะผ่านเข้ารอบได้ไหมแล้วเราจะได้เห็นกัน"

85

             กุนซือคนเก่งของทีม "ตราหมี" แอตเลติโก้ มาดริด "ดิเอโก้ ซิเมโอเน่" ออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความเชื่อมั่นในความสามารถของลูกทีมว่าจะสามารถเอาชนะเส้นทางอันท้าทายท้ายฤดูกาลคว้าแชมป์ลา ลีกาไปครองได้ในที่สุด

"ตราหมี" เพิ่งจะพลาดท่าพ่ายแพ้เกมแรกในรอบ 11 นัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาบุกไปพ่ายต่อ "ค้างคาวน้อย" เลบานเต้ 0-2 ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์ลา ลีกาหนแรกตั้งแต่ปี 1996 ยังต้องลุ้นต่อไป

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า "ตราหมี" จะพ่ายแพ้แต่พวกเขายังได้กุมชะตาของตัวเองใน 2 นัดสุดท้ายซึ่งกุนซือชาวอาร์เจนติน่าก็เชื่อมั่นว่าทีมของเขาสนุกกับเส้นทางการลุ้นที่แชมป์ที่น่าตื่นเต้นนี้โดยบอกว่าการคว้าแชมป์นั้นเป็นความรับผิดชอบมากกว่าความกดดัน

"เรากำลังอยู่ในช่วงสามสัปดาห์ของความน่าตื่นเต้น เราต้องทำหน้าที่ของเราตามปกติและรักษาผลงานที่ดีไว้ มันจะลดฮอร์โมนอดรีนาลีนที่กระตุ้นความเครียดและเพิ่มความรู้สึกหัวหมุนมากขึ้น" ซิเมโอเน่ กล่าว

"ผมเคยเจอประสบการณ์แบบนี้มาเยอะในช่วงที่ผมค้าแข้งอยู่และมันเป็นความรู้สึกที่ผมชอบและสนุกนะ คุณควรมีความเชื่ออยู่เสมอและเรามีมันแน่นอน"

"สิ่งที่เรากำลังทำคือความรับผิดชอบหน้าที่ ผมไม่คิดเลยว่าช่วงสัปดาห์จากนี้คือความกดดัน พวกเราทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นความท้าทายที่เราต้องขึ้นไปถึงจุดสูงสุดนั้นให้ได้"

ทีม "ตราหมี" จะลงเล่นในเกมสัปดาห์รองสุดท้ายเปิดบ้านพบ "มาลาก้า" ในวันอาทิตย์นี้

86

            "คริสโต๊ป เอนโรเทย์" เอเยนต์ส่วนตัวของ "ธิโบต์ คูร์ตัวส์" นายทวารจอมหนึบของทีม "ตราหมี" แอตเลติโก้ มาดริด ออกมาเปิดเผยว่า "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ต้นสังกัดเก่าของนักเตะเตรียมที่ดึงตัวนักเตะในความดูแลของเขากลับไปใช้งานในถิ่นแสตมฟอร์ด บริดจ์

ถึงแม้ว่าทีม "ตราหมี" จะต้องการคว้าตัวมือกาวดาวรุ่งวัย 21 ปีรายนี้มาร่วมทัพแบบถาวรให้ได้หลังจากที่ยืมใช้งานมา 3 ฤดูกาลติดต่อกันแล้วแต่ดูเหมือนว่าทางต้นสังกัดของนักเตะจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น

"เขาเป็นของเชลซี" เอนโรเทย์ กล่าว

"ดังนั้นลึกๆในใจของเขานั้นอยากกลับไปเล่นที่นั่น แต่มันก็มีหลายอย่างที่รบกวนจิตใจเขา"

"มูรินโญ่ไม่ได้ติดต่อเขา แต่เขายังมีสัญญาเหลืออีก 2 ปีและเชลซีก็เป็นสโมสรที่ผมและธิโบต์มีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย"

"เห็นได้ชัดเลยว่าเชลซีต้องการขยายสัญญาเพื่อเก็บธิโบต์เอาไว้"

87

             อยู่ยาวๆจนขึ้นแท่นตำนานไปเลยสำหรับ "ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่" ฟูลแบ็คตัวแกร่งของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล หลังจากที่เจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตนได้เคลียร์ปัญหาส่วนตัวเรียบร้อยแล้วและจะอยู่ค้าแข้งในถิ่นเซนต์เจมส์ ปาร์คต่อไป

ปราการหลังวัย 32 กะรัตออกมายอมรับว่าก่อนหน้านี้เขามีปัญหาส่วนตัวก็จริงแต่ตอนนี้ได้เคลียร์ไปหมดเรียบร้อยแล้วและพร้อมอยู่เล่นให้ "สาลิกาดง" ต่อไปในฤดูกาลหน้า

"แน่นอน ผมจะอยู่ที่นี่ต่อ" โคลอชชินี่ เปิดเผยกับ "Shields Gazette."

"ผมเคยมีปัญหาส่วนตัว บางครั้งมันก็ยากเวลาที่คุณต้องตัดสินใจระหว่างเรื่องงานกับปัญหา"

"บางครั้งมันก็ยากเกินไป แต่ตอนนี้่มันจบแล้วและฤดูกาลถัดไปผมจะอยู่ที่นี่ ผมพร้อมที่จะก้าวต่อไป"

"พวกเราต้องการสิ่งดีที่สุดสำหรับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด"

"ในฤดูกาลนี้เราจบท็อปเทนและบางทีเราได้นักเตะเพิ่มในช่วงซัมเมอร์"

"เราจะพยายามอย่างดีที่สุดในการจบอันดับ 8 หรืออะไรประมาณนั้น เราพยายามจะพัฒนาอยู่เสมอ"

88

            บิ๊กบอสจอมเก๋าของทีม "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ "ทิม เชอร์วู้ด" ออกมาแนะนำสโมสรให้ยึดมั่นกับแข้งดาวรุ่งอย่าง "แดนนี่ โรส" และไม่จำเป็นต้องหาแบ็คซ้ายคนใหม่

มีข่าวลือจากสื่อในประเทศอังกฤษว่าหลายทีมสนใจคว้าตัว "แอชลีย์ โคล" ที่จะหมดสัญญากับ "สิงห์บลูส์" เชลซี หลังจบฤดูกาลนี้มาร่วมทีมแบบฟรีๆและหนึ่งในนั้นคือ "ไก่เดือยทอง"

แต่ล่าสุด "เชอร์วู้ด" ที่น่าจะถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังจบฤดูกาลนี้มองว่าทีมควรยึดมั่นกับ "โรส" ซึ่งน่าจะเจริญรอยตาม "โคล" เหมือนเมื่อครั้งค้าแข้งกับ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลได้

"แฟนบอลอยากให้เกิดการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่มีอะไรรับประกันว่าใครบางคนจะย้ายเข้ามาและทำได้ดีกว่า "แดนนี่ โรส" หรือผู้เล่นคนอื่นๆ" เชอร์วู้ด บอกกับ "ทอล์คสปอร์ต"

"แดนนี่เล่นได้ดี เขาแค่ยังหนุ่มและยังต้องเรียนรู้ ซีซั่นที่แล้วเขาถูกปล่อยยืม(ให้ซันเดอร์แลนด์)และพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกกับคู่แข่งของเราทีมอื่นๆแล้ว"

"เขาต้องออกไปและทำผลงานที่ซันเดอร์แลนด์ให้ได้ มันเป็นช่วงเวลาแห่งพัฒนาการที่ดีต่อเขาแต่ยังมีอะไรให้เขาเรียนรู้อีกเยอะและเขาเองก็ตระหนักดี"

"เขาทำงานหนักเพื่อเป็นผู้เล่นที่เก่งกว่าเดิม เขาต้องพัฒนาปัจจัยที่แตกต่างทั้งหมดในเกมลูกหนังของเขา"

"อย่าลืมว่าแดนนี่เพิ่งเล่นแบ็คซ้ายได้ไม่กี่ซีซั่นเอง ผมได้คุยกับเขาสัก 3 หรือ 4 ปีก่อนมั้งและบอกไปว่าในความเห็นของผมแล้วเขาต้องเปลี่ยนตำแหน่งเป็นแบ็คซ้ายหากหวังจะเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ถึงระดับท็อป ทีแรกเขาหวั่นๆอยู่นะแต่สุดท้ายก็ยอมรับ"

"ผมแค่คิดว่าเขาควรได้เจริญรอยเส้นทางเดียวกับแอชลีย์ โคล เมื่อโคลยังเป็นดาวรุ่งที่อาร์เซน่อลเขาเคยเป็นปีกจากนั้นถูกถอยไปเล่นแบ็คซ้ายและเล่นได้วิเศษ"

"และผมว่าแดนนี่กำลังก้าวไปบนเส้นทางเดียวกัน"

89

            มิดฟิลด์ระดับตำนานของ "ไอ้ม้าลาย" ยูเวนตุส "อันเดรีย ปิร์โล่" ออกมาให้สัมภาษณ์โดยเขายอมรับว่าอยากจะลองไปค้าแข้งในต่างแดนดูสักครั้งแต่คงไม่ใช่กับ "เปแอชเช" ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เพราะคิดว่าตัวเองแก่เกินไปสำหรับยอดทีมเมืองน้ำหอม

แข้งวัย 34 กะรัตระสบความสำเร็จมาอย่างมากมายรวมไปถึงการคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติอิตาลีเมื่อปี 2006 แต่เขายังไม่เคยได้ลองสัมผัสประสบการณ์การค้าแข้งในต่างแดนเลยสักหน

"มันเป็นเรื่องจริง ผมอยากจะลองดูเหมือนกัน ผมเคยมีโอกาสที่จะไปเล่นต่างแดนในอดีต มีข้อเสนอเข้ามาเสมอ แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะอยู่อิตาลีต่อ"

"ในอนาคตเราจะได้รู้กัน ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ? PSG น่ะเหรอ ? ไม่หรอก ผมแก่เกินไปสำหรับ PSG ตอนนี้ผมอยากจะอยู่ยูเวนตุสไปอีกสักพักเพราะผมมีความสุขมากที่อยู่ที่นี่"

"วันที่ผมมาถึงสโมสรแห่งนี้ผมรับรู้ได้ถึงแรงปรารถนาที่จะก้าวไปข้างหน้า สโมสรมีความทะเยอทะยานและมันช่วยพาเรามาถึงจุดนี้"

มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลียังเปิดเผยด้วยว่าเขายังรู้สึกสนุกสนานกับการเล่นฟุตบอลอยู่แม้อายุจะปาเข้าไป 34 ปีแล้วก็ตาม

"สิ่งหลักที่คอยกระตุ้นผมก็แค่ความอยากเล่นฟุตบอล เพราะมันเป็นอะไรที่ผมหลงไหล" ปิร์โล่ กล่าว

"ผมรู้สึกสนุกยามที่ได้ลงสนามและเอ็นจอยกับมันเป็นอย่างมาก โชคดีที่แม้แต่ตอนนี้ทุกครั้งที่ผมไปถึงสนามซ้อมหรือทุกครั้งที่ผมไปถึงสนามเพื่อลงแข่งผมยังรู้สึกยินดีเสมอ ผมไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลย มันยังสนุกอยู่"

"เมื่อถึงวันที่ผมไม่มีความรู้สึกแบบนี้อีกแล้วผมจะไม่ลังเลที่จะเลิกและไปทำอย่างอื่นแทน"

นอกจากนั้น "ปิร์โล่" ยังได้พูดถึง "พอล พ็อกบา" แข้งรุ่นน้องร่วมทีมว่าในอนาคตจะก้าวไปเป็นแข้งระดับโลกได้อย่างแน่นอน

"ในอนาคตเขาจะเป็นแชมเปี้ยน เขาแค่ต้องการเวลาอีกนิดที่จะเติบโตและไปถึงจุดสุดยอดของอาชีพนักเตะ"

"เช่นเดียวกับมาร์โก แวร์รัตติ เขาเล่นคนละสไตล์กับผม เขาจ่ายบอลระยะสั้นได้ดีมาก เขามีพรสวรรค์สูงมากและอายุก็ยังน้อยแต่เขาได้ลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีกแล้วและอยู่กับทีมที่มีความทะเยอทะยานอย่าง PSG อนาคตเป็นของเขาแล้ว"

90

            หอกตัวเก่งของ "ไอ้ม้าลาย" ยูเวนตุส "เฟร์นานโด ญอเรนเต้" ออกโรงยอมรับว่าการที่ทีมสามารถคว้าแชมป์สกูเดตโต้ได้ในปีแรกที่เขาย้ายมานั้นเปรียบเสมือนความฝันของเขาเลยทีเดียว

เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาแข้งวัย 29 ปีย้ายจาก "แอธเลติก บิลเบา" มาร่วมทัพ "เบียงโคเนรี่" แบบไร้ค่าตัวโดยยิงไปแล้วทั้งสิ้น 15 ประตูในฤดูกาลนี้

"มันเป็นอะไรประทับใจผมมากที่มาที่นี่แล้วคว้าสกูเดตโต้ได้ในซีซั่นแรก" ญอเรนเต้ เผยกับ Sky Sport Italia.

"มันน่าทึ่งมากเหมือนฝันเลยสำหรับผม และหลังจากพยายามกันมาอย่างหนักตอนนี้เราก็ได้เวลาฉลองกันแล้ว"

"เรายังสิ่งที่ต้องปรับปรุงอยู่แต่การทำงานของเรามาถูกทางแล้ว เรามีอันโตนิโอ คอนเต้อยู่กับเราและหวังว่าเราจะพัฒนายิ่งๆขึ้นไปในทุกปี"

"เรายังต้องเล่นเพื่อชัยชนะเพราะเรามีโอากสที่จะทำลายสถิติแต้มสูงสุดในหนึ่งฤดูกาลอยู่"

"ผมมีความสุขจริงและอย่างที่ผมบอกตลอดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผมเลยกับการเล่นในอิตาลีปีแรกแต่ผมก็แฮปปี้กับสิ่งที่ผมทำให้ทีมนะ"

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 766