แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Topics - Armin

หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 766
61

               "เอดิน เซโก้" หอกบอสเนียโชว์แมนไม่ขอเอาความดีความชอบแต่เพียงผู้เดียวถึงแม้ว่าจะเป็นฮีโณ่ซัดคนเดียวสองประตูแต่ก็ยังไม่วายกล่าวยกย่องเพื่อนร่วมทีมที่เล่นกันอย่างอดทนอดกลั้นจนในที่สุดสามารถปลดล็อคในครึ่งหลังก่อนยำใหญ่ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า 4-0 แต่ยังไม่เหลิงหวังเก็บชัยนัดปิดฤดูกาลเพื่อรับประกันแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่หลุดมือ

ซึ่งในเกมดังกล่าว "เรือใบสีฟ้า" เดินเกมอย่างอึดเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของทีมเยือนไม่เข้าเลยจบครึ่งแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์ กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังต้องรอผ่านหนึ่งชั่วโมงแรกไปแล้ว "เซโก้" ก็สามารถปลดล็อคได้สำเร็จในนาที 64 จากนั้นประตูไหลมาเทมาอีก 3 เม็ดรวดจาก "เซโก้,สเตฟาน โยเวติช และ ยาย่า ตูเร่" ปิดท้ายทดเจ็บ

"เราเล่นฟุตบอลได้ดีในครึ่งแรก พวกเขาแทบไม่มีโอกาสเลย ในขณะที่ผู้จัดการทีมของเราบอกว่าแค่นิ่งๆเข้าไว้และเราก็สามารถทำได้ในสิ่งที่ต้องการ" ดาวเตะทีมชาติบอสเนียให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว "สกาย สปอร์ตส"

"เมื่อทีมนึงรับตั้ง 10 คนในกรอบเขตโทษ เราต้องยิงปลดล็อคประตูแรกให้ได้ก่อน นี่คือสิ่งสำคัญมาก มันทำให้เกมเปิดกว้าง แม้เราชนะ 4-0 แต่จริงๆแล้วมันไม่ง่ายเลยนะ"

"เรายังมุ่งมั่นกันต่อในเกมวันอาทิตย์นี้ เราต้องทำภาระกิจในวันนี้จบไปแล้วแต่เรายังต้องเล่นนัดสุดท้ายอย่างจริงๆจังๆเพราะมันยากสุดๆ เราจะต้องใส่หมดหน้าตักเพราะเราเคยมีประสบการณ์จากสองปีก่อน"

62

             เซ็นเตอร์แบ็คจอมแกร่งของทีม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด "เซร์คิโอ้ รามอส" ออกโรงประกาศชัดเจนว่าทีมของเขาจะยังคงสู้ต่อไปเพื่อลุ้นคว้าแชมป์ลา ลีกา ถึงแม้ว่าจะทำได้เพียงแค่เสมอ "เรอัล บาญาโดลิด" 1-1 โอกาสได้แชมป์เลือนราง

"รามอส" นั้นเป็นผู้ที่ทำประตูให้ "ราชันชุดขาว" เกมที่ 4 ติดต่อกันหลังซัลโวฟรีคิกให้ทีมออกนำในครึ่งแรกแต่สุดท้ายเจอลูกโขกตีเจ๊าของ "อุมเบร์โต้ โอโซริโอ้" ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งหลัง ทำให้เจ้าบ้านได้คะแนนสำคัญลุ้นหนีตกชั้นต่อไป

"มันน่าเสียดายนะเพราะเราได้สู้เต็มที่แล้ว แต่เราก็ผ่อนเกมลงไปในช่วงที่ยังนำ 1-0" รามอส กล่าว

"ในการเจอกับทีมที่กำลังลุ้นหนีตกชั้น คุณจะเล่นแบบนั้นไม่ได้เลย แต่ผมไม่อาจโทษทัศนคติของเราในวันนี้นะ ตราบใดที่ในทางตัวเลขเรอัลมีโอกาส เราก็จะสู้ต่อไป"

"ราชันชุดขาว" ตามหลัง "ตราหมี" แอตเลติโก้ มาดริด ทีมจ่าฝูงอยู่ถึง 4 คะแนน ซึ่งหาก "แอต.มาดริด" ชนะได้สำเร็จในเกมวันอาทิตย์นี้  "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด จะหมดลุ้นแชมป์ร้อยเปอร์เซ็นต์

63

            "มานูเอล เปเญกรินี่" กุนซือชาวชิลีออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าชัยชนะเหนือ "สิงห์ผงาด" แอสตัส วิลล่า 4-0 ช่วยตอกย้ำว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้จะไม่หลุดจากมือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแน่นอนถึงแม้ว่าจะยังเหลือเกมสุดท้ายอยู่ก็ตาม

จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ "ซิตี้" ทวงคืนบัลลังก์จ่าฝูงได้สำเร็จนำห่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อยู่ 2 คะแนนขอแค่เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในนัดปิดฤดูกาลจะคว้าโทรฟี่ไปครองเนื่องจากผลต่างประตูได้-เสีย +13 แล้ว

"แน่นอนตอนนี้ผมคาดหวังแชมป์แล้วเพราะเราเป็นจ่าฝูง ชนะนัดหน้าหมายความว่าเราเป็นแชมป์ทันที " อดีตบอสมาลาก้ามั่นอกมั่นใจผ่านสำนักข่าวชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ สกาย สปอร์ตส หลังจบแมตช์เมื่อคืนวันพุธ

"มันเป็นฤดูกาลที่แปลกนะเพราะเราไม่เคยนำเป็นจ่าฝุงเลย ทว่าใครต่อใครบอกว่าเราเป็นทีมเต็งทั้งๆที่เราตามหลัง ลิเวอร์พูล อยู่ 9 คะแนนและ เชลซี 6 คะแนนแต่มีเกมอยู่ในมือ 3 นัดและเราชนะได้หมด"

"แน่นอนผมยินดีมากด้วยสไตล์แบบนี้แหละ นี่คือการคว้าแชมป์มีสไตล์ ผมเลือกสไตล์นี้ สไตล์การเล่นฟุตบอลเกมรุกและแฟนบอลของเรารู้สึกเชียร์กันอย่างสนุก"

"คุณสามารถคว้าแชมป์ด้วยสไตล์อื่นได้แต่สำหรับผมหลักปรัชญาการเล่นอันสวยงามคือสิ่งที่สำคัญมากเลยนะ"

64

           "หลุยส์ ซัวเรซ" หัวหอกฟันล้ำหน้าออกโรงแย้มเป็นนัยๆว่าเขาอาจไม่อยู่กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไปจนถึงบั้นปลายชีวิตค้าแข้ง อนาคตข้างหน้าขอหวนกลับคืนสู่ทีมเดิม "อาหยักซ์" ไม่วันใดก็วันนึง

แข้งจอมเขมือบเนื้อมนุษย์วัย 37 ปีเคยใช้เวลาค้าแข้งในกรุงอัมสเตอร์ดัม 3 ฤดูกาลครึ่งช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ดัตช์รวมเบ็ดเสร็จซัลโว 81 ประตูจาก 110 เกมซึ่งเจ้าตัวเองก็ได้ยกย่องทีมแห่งแดนกังหันลมว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้เขาพัฒนาฝีเท้าจนถึงทุกวันนี้

"ผมเคยบอกอยู่เสมอว่าสักวันผมจะกลับสู่ อาหยักซ์ แม้ผู้จัดการทีมไม่ต้องการผม ผมก็จะกลับไป ขอให้มั่นใจได้เลย" ซัวเรส บอกผ่านนิตยสารแดนกังหันลม "เฮลเดน แม็กกาซีน"

"อาหยักซ์ ถือเป็นก้าวสำคัญมากๆในชีวิตของผม ภรรยาของผม โซเฟีย และผมคลั่งไคล้อะไรที่เกี่ยวข้องกับ อัมสเตอร์ดัมและการดำเนินชีวิต "

"เราดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างสงบสุข เราสามารถเดินเล่นไปทั่วอัมสเตอร์ดัมได้อย่างสบาย"

65

           "พอล ป็อกบา" มิดฟิลด์ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งค่าย "ไอ้ม้าลาย" ยูเวนตุส ออกโรงยืนกรานถึงแม้จะมีความทรงจำที่แสนเศร้ากับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณต้นสังกัดเก่าที่มอบประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับตน

มิดฟิลด์เลือดน้ำหอมย้ายออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาสิงสถิตในกรุงตูรินแบบไร้ค่าตัวหลังจากที่เขาได้ปฎิเสธต่อสัญญาฉบับใหม่ กระทั่งปัจจุบันกำลังได้ดิบได้ดีกลายเป็นกำลังสำคัญช่วย "เบียงโคเนรี่" คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ 2 ปีซ้อนรวมแล้วเป็น 3 ฤดูกาลติด

"ผมตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอยู่ที่นี่" แข้งวัย 21 ปีเปิดใจผ่าน "บีบีซี สปอร์ต โฟกัส"

"ผมต้องขอบคุณ ยูไนเต็ด ในทุกๆวันเพราะนั่นคือสถานที่ที่ผมได้รับประสบการณ์เพื่อเตรียมตัวผมให้พร้อมร่วมฝึกซ้อมกับยอดนักเตะอย่าง อันเดรีย ปิร์โล่,อาร์ตูโร่ วิดาล,เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ และ จานลุยจิ บุฟ่อน"

"เพราะฉะนั้นผมต้องขอบคุณ ยูไนเต็ด แต่ตอนนี้ผมอยู่ที่ ยูเวนตุส และผมมีความสุขกับที่นี่"

66

            "โรบิน ฟาน เพอร์ซี่" ดาวยิงดัตช์แมนออกมาให้สัมภาษณ์โดยเขายอมรับว่าความคิดแว็บแรกเมื่อได้เห็น "ไรอัน กิ๊กส์" ก้าวขึ้นเป็นกุนซือของทีมทำให้เขาเห็น "ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" อยู่ในร่างของว่าที่ตำนานรุ่นพี่คนนี้ไม่ว่าจะเป็นลักษณะกริยาท่าทางและหลักความคิดแทบเหมือนกันไปซะหมดทุกอย่าง

กุนซือชั่วคราววัย 40 ปีทำผลงานใช้ได้ทีเดียวเมื่อชนะ 2 ใน 3 เกมรวมถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดไล่ถลุง "ตราเสือ" ฮัลล์ ซิตี้ 3-1 เปิดโอกาสดาวรุ่ง "เจมส์ วิลสัน" ลงตัวจริงชุดใหญ่นัดแรกไม่ทำให้ผิดหวังยิง 2 เม็ดก่อนปิดท้าย "ฟาน เพอร์ซี่" ช่วยตอกฝาโลกย้ำชัย

"ผมสามารถเป็นประจักษ์พยานตอนที่เราเจอสองทีมในขณะที่ผมกลับเข้าสู่ทีมสายไปเล็กน้อย" ดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์เปิดใจ

"หนึ่งในนั้นจากนัดที่พบกับ ซันเดอร์แลนด์ และเกมวันอังคารที่ผ่านมานี้ มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อ เขาเหมือนมีท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อยู่ในร่าง เขาถือเป็นสุดยอดเลยล่ะ"

"เมื่อเขาเปลี่ยนตัวเองลงมา เขาผ่านบอลได้อย่างมหัศจรรย์และเกือบพังประตูได้ เขาคือตำนานไปแล้ว และผมคิดว่าเขาแสดงให้เห็นในทุกๆวัน"

67

            เรียกว่าเอาใจเหล่าบรรดาแฟนบอล "เร้ด อาร์มี่" ไปเต็มๆเลยเมื่อ "หลุยส์ ฟาน ฮาล" บอสใหญ่ทีมชาติฮอลแลนด์ออกมายกย่องสรรเสริญ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสุดยอดสโมสรที่ดีสุดในโลกและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับงานนี้

โดยตามรายงานระบุชัดเจนว่า "ทัพผี" จะประกาศแต่งตั้ง "หลุยส์ ฟาน ฮาล" กุนซือมาดเฮี้ยบขึ่้นดำรงตำแหน่งกุนซือในสัปดาห์หน้า หลังตัดสินใจปลดกุนซือหน้าอีที "เดวิด มอยส์" เมื่อวันที่ 22 เมษายนก่อนแต่งตั้ง "ไรอัน กิ๊กส์" ปีกขนดกรักษาการแทนไปจนจบฤดูกาล ถึงกระนั้นบอสวัย 62 กะรัตยังสงวนท่าทีรอการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเสียก่อนแต่แบะท่าพร้อมรับงานแล้ว

"ผมรักงานนี้ ผมหวังผมจะได้เป็นหนึ่ง นี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและมันเป็นความท้าทายที่น่ามหัศจรรย์" ฟาน ฮาล ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าวชื่อดังแห่งเมืองผู้ดี "บีบีซี"

"ตอนนี้บรรดาสื่อทั้งหลายกำลังคิดว่าผมจะได้คุมทีมแต่สิ่งสำคัญก็คือต้องไปดู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังคิดเหมือนกันหรือไม่"

"คุณต้องรอดูสิ่งที่สโมสรตัดสินใจ มันเป็นเหมือนเดิมเสมอ มันเป็นไปตามกระบวนการ คุณต้องรอกระบวนการ แต่สื่อจะเร็วเสมอ"

68

             "อาร์เยน ร็อบเบน" ปีกหัวไข่ของทีม "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ออกโรงหนุนหลังเจ้านายในทีมชาติฮอลแลนด์อย่าง "หลุยส์ ฟาน ฮาล" โดยเชื่อว่า "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงโชคดีน่าดูหากได้กุนซือมากประสบการณ์รายนี้ไปคุมทีม

นอกจากที่ "ร็อบเบน" จะร่วมงานกับ "ฟาน ฮาล" ในทีมชาติฮอลแลนด์แล้วแข้งหัวไข่วัย 30 กะรัตยังเคยร่วมงานกับกุนซือมาดเฮี้ยบที่ "บาเยิร์น มิวนิค" ระหว่างปี 2009 ถึงปี 2011 อีกด้วย

ปีกดัตช์แมนยอมรับว่าตนเป็นหนี้ "ฟาน ฮาล" อยู่มากมายในอาชีพค้าแข้งและเชื่อว่า "เร้ด เดวิลล์" จะได้คนที่ใช่ไปเป็นผู้จัดการทีมอย่างแน่นอน

"ผมเป็นหนี้ฟาน ฮาลล้นเหลือ ในฐานะที่ผมเป็นนักเตะคนหนึ่งเขาช่วยผมไว้จริงๆ ผมไม่ได้ลงเล่นให้บาเยิร์นตลอดแต่เขายังเรียกผมติดทีมชาติอยู่เรื่อยๆ" ร็อบเบน ให้สัมภาษณ์

"ในฐานะที่ผมเป็นนักเตะคนหนึ่งความศรัทธาที่เขามีต่อผมช่วยผมได้ จากนั้นผมก้าวต่อไปเพื่อโชว์เกมลูกหนังที่ดีที่สุดแห่งชีวิตค้าแข้งของผมให้บาเยิร์น"

"มันไม่ใช่กรณีพิเศษ เขาแสดงให้เห็นถึงศรัทธาในตัวนักเตะทุกคน นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมนักเตะถึงอยากเล่นเพื่อเขาและทำไมนักเตะถึงชอบเล่นเพื่อเขา"

"มีอะไรบางอย่างนะในการก้าวเข้าไปในห้องแต่งตัวและช่วงการซ้อมของฟาน ฮาลนั่นคือความรู้สึกในแง่บวกและบรรยากาศอันอบอุ่น"

"เขาสร้างสิ่งแวดล้อมพิเศษขึ้นมาเพื่อนักเตะและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะโชคดีเอามากๆหากได้เขาเป็นโค้ช"

69

             เอเย่นต์ส่วนตัวของ "อั๊ดนาน ยานาไซต์" ปีกวันเดอร์คิดส์ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาให้สัมภาษณ์กล่าวอ้างว่านักเตะในความดูแลของเขานั้นเป็นแข้งดาวรุ่งที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลกและเหนือว่า "ลิโอเนล เมสซี่" และ "คริสติอาโน่ โรนัลโด้" ตอนอายุเท่ากันด้วย

แข้งดาวรุ่งเบลเยี่ยมลงเล่นให้กับ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ไป 33 เกมในซีซั่นนี้หลังจากได้รับโอกาสจากกุนซือหน้าอีที "เดวิด มอยส์" ให้ลงประเดิมสนามและเขาเพิ่งเซ็นสัญญาใหม่ยาว 5 ปีไปเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

"เดิร์ค เด ฟรีส" เอเย่นต์ของ "ยานาไซจ์" กล่าวว่า "ผมสามารถบอกได้เพียงแค่ว่าเขาเป็นนักเตะดาวรุ่งที่รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก"

"ด้วยอายุ 18 ปีนั้นเขามีสัญญาที่มากกว่าคริสติอาโน่ โรนัลโด้และลิโอเนล เมสซี่ในอายุเท่ากันซึ่งมันบอกได้แต่ว่าเยอะมากและผมภูมิใจในสิ่งนี้จริงๆ"

"สโมสรใหญ่ทั้งหมดต้องการตัวของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งปารีส แซงต์-แชร์กแมงที่อยากได้เขาเหลือเกิน"

"5 นาทีก่อนที่เราจะต่อสัญญาออกไปกับยูไนเต็ดนั้นมีที่ปรึกษาของประธานชาวกาตาร์ยื่นข้อเสนอมาให้เราซึ่งมันมหาศาลมากๆ"

"เพราะอั๊ดนานสามารถย้ายออกไปแบบฟรีๆพวกนักลงทุนกาตาร์เลยสามารถทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทั้งกับค่าเหนื่อยของเขาและการเซ็นสัญญากับเขา"

70

             "ราฟาเอล เบนิเตซ" กุนซือมาดบ๋อยของทีม "นาโปลี" ออกมาให้สัมภาษณ์โดยยอมรับว่าเขารู้สึกเห็นใจ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่โหมเกมรุกบุกหนักเข้าใส่ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ หวังลดช่องว่างประตูได้เสียกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่สุดท้ายชีวิตต้องพลิกผันจากเกมสวนกลับของ "พาเลซ"

ในเกมพรีเมียร์ ลีกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา "หงส์แดง" เป็นฝ่ายที่ยิงขึ้นนำ "คริสตัล พาเลซ" ด้วยสกอร์ 3-0 หลังแข่งขันไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนั้นพวกเขายังไม่หยุดยั้งการเปิดเกมรุกเข้าใส่ โดยเมื่อเวลาผ่านไป ประตูที่ 4 ไม่เกิดขึ้น แต่ทาง "ปราสาทเรือนแก้ว" ได้ประตูโชคช่วยตามตีไข่แตก ก่อนสถานการณ์พลิกผัน เจ้าบ้านยิงเพิ่มอีก 2 ประตูสุดท้ายเสมอ 3-3 แบบสุดแสนดราม่า

"ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่โฟกัสกับการเล่นเกมรุกเอามากๆ"

"ผมคิดว่าพวกเขาคาดหวังที่จะยิงประตูให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ว่าจะลดช่องว่างระหว่างประตูได้เสียกับทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้"

"เรื่องแบบนี้แหละที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลอังกฤษ ทุกๆอย่างไม่มีคำว่าจบจนกระทั่งสิ้นเสียงนกหวีด"

"สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการโยนบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และทุกๆอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้"

71

            "โคโล่ ตูเร่" ปราการหลังผ่านตลอดของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกมาฝากคำเตือนไปยัง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ว่าการแข่งขันลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ยังไม่จบสิ้นเพียงเท่านี้แม้ว่าเหล่าบรรดาแฟนบอลจะถอดใจกันไปเกือบหมดแล้วก็ตาม

ยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีไซด์ทำพลาดโดน "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ไล่ตามตีเสมอ 3-3 เพียงเวลาแค่ 9 นาที ในเกมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาทำให้ดูเหมือนว่าโอกาสลุ้นแชมป์ของ "ลิเวอร์พูล" นั้นจะตกไปอยู่ในมือของ "ซิตี้" เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามปราการหลังไอวอรี่ โคสต์ยังยืนยันว่า "หงส์แดง" นั้นยังจะสู้ไปจนสุดเสียงนกหวีดสุดท้ายในเกมพบ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สั่งลงฤดูกาลนี้และจะไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด

"ไม่มีอะไรที่สำเร็จไปแล้วในตอนนี้มันยังเหลืออีกเกมหนึ่งและเราจะได้เห็นผลการแข่งขันระหว่างซิตี้กับแอสตัน วิลล่าคุณไม่มีทางรู้หรอกนะ" โคโล่ ตูเร่ กล่าว

"พวกเขาแข็งแกร่งมากๆและตามปกติแล้วพวกเขาน่าจะชนะเกมได้แต่พรีเมียร์ลีกนั้นมันเป็นการแข่งขันที่แปลกประหลาดคุณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ"

"เราจะทำให้ดีที่สุดผมมีความภูมิใจในสิ่งที่ทีมทำมาตลอดในช่วงเริ่มต้นซีซั่นนั้นไม่มีใครคาดหวังว่าเราจะมาอยู่ในที่ที่เราอยู่ในเวลานี้"

"เราโยนความกดดันไปในเกมสุดท้ายของฤดูกาลสำหรับเราแล้วมันเป็นเรื่องที่เยี่ยมยอดนี่คือทีมที่หนุ่มแน่นมากๆเราจะได้รับประสบการณ์มากมายจากสิ่งนี้"

"เมื่อมันมีเกมสำคัญที่มีความตึงเครียดและความเข้มข้นนั้นคุณจะได้เรียนรู้จากมันและหนทางเดียวที่จะได้เรียนรู้คือการทำผิดพลาด"

"เกมกับพาเลซมันยากเราอยากยิงประตูเยอะๆเราพยายามไล่ล่าเราดันเกมขึ้นไปและพวกเขาก็โต้กลับมาและนี่คือสิ่งที่เราจะเรียนรู้แล้วดูว่าอะไรผิดพลาดและพยายามทำให้ดีขึ้นในปีหน้า"

72

             "เดนิส ลอว์" ตำนานนักเตะของทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงกล่าวยกย่อง "ดาบิด ซิลบา" เพลย์เมกเกอร์เลือดกระทิงดุของทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าเป็นนักเตะที่ดีกว่าเขาเสียอีก

ดาวยิงทีมชาติสเปนวัย 28 ปีกลับมาระเบิดฟอร์มเก่งได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้และมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมของ "มานูเอล เปเญกรินี่" กุนซือชาวชิลีก้าวขึ้นมาเป็นเต็งแชมป์อยู่ในขณะนี้

"เขาสุดยอดมาก เขาเป็นคนที่ผมชอบดูจริงๆ ผมคิดว่าเขามีโอกาสนะ" ลอว์ กล่าว

"ซิลบากำลังก้าวหน้าขึ้น เขาเป็นนักเตะที่ดีแต่นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด"

"เขายิงประตูได้,จ่ายบอลได้ดีและเขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม"

"เขาเป็นนักเตะที่ดีกว่าผมอีกนะ"

73

           "เอียน ฮอลโลเวย์" กุนซือของทีม "มิลวอลล์" ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับความพยายามผลักดันให้ "ไรอัน กิ๊กส์" ปีกขนดกของทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ขึ้นมานั่งแท่นกุนซือในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยชี้ว่าการเป็นสุดยอดนักเตะ ไม่ได้การันตีว่าจะกลายมาเป็นสุดยอดผู้จัดการทีมได้

"ไรอัน กิ๊กส์" กุนซือขัดตาทัพลงประเดิมสนามคุมทีม "ปีศาจแดง" ได้อย่างสวยหรู หลังจากที่พาทีมเปิดบ้านไล่บดขยี้ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้ 4-0 แต่จากนั้นกลับต้องพ่ายให้กับ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์คาถิ่นของตัวเอง

"แน่นอนว่าการเข้ารับงานชั่วคราวของไรอันนั้นเปิดตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเขาพาทีมไล่ถล่มนอริช ซิตี้ 4-0"

"ในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ความพ่ายแพ้ต่อซันเดอร์แลนด์แบบสุดเซอไพรส์กลบรัศมีสิ่งนั้นออกไปบ้าง แต่อนาคตในวันหนึ่ง กิ๊กซี่อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นยอดผู้จัดการทีมก็ได้"

"บางคนเชื่อกันว่าชะตาชีวิตของเขาถูกกำหนดมาแบบนั้น...แต่วงการฟุตบอลมันไม่ใช่แบบนั้นหรอก"

"เพียงเพราะว่าคุณเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกมลูกหนัง พูดกันตรงๆนะ ไรอันถือเป็นหนึ่งในนักเตะพวกนั้น แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าชะตาชีวิตของคุณถูกกำหนดให้มาทำซ้ำความสำเร็จเดิมๆในฐานะผู้จัดการทีม"

74

             "อาร์แซน เวนเกอร์" กุนซือเฟร้นช์แมนของทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ย้อนความหลังว่าเมื่ออดีตเขาเคยเกือบครอบครอง "เอแด็ง อาซาร์" แข้งโปรเตะก่อนที่สุดท้ายจะกลายเป็น "สิงห์บลูส์" เชลซี ที่เป็นฝ่ายคว้าลายเซ็นไป

"อาซาร์" นั้นกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมเมื่อปี 2012 เมื่อเหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ล้วนต้องการตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,แมนฯซิตี้ ,อาร์เซน่อล และ เชลซี แต่สุดท้าย "สิงห์ไฮโซ" ยอมควัก 36.5 ล้านปอนด์ ซึ่ง "เวนเกอร์" เองก็ยอมรับว่าเขาเองก็อยากได้ "อาซาร์" มากถึงขนาดคุยกับตัวแทนนักเตะมาแล้ว

"ผมอยากคว้า เอแด็ง มาร่วมทีม ผมพบเอเยนต์ของเขาที่บ้านของผมแต่ด้วยปัจจัยทางการเงินเป็นกำแพงขวางกั้นและ เชลซี ได้เป็นฝ่ายสมหวัง" เวนเกอร์ ยอมรับผ่านสำนักข่าว "บีอินสปอร์ตส์"

"เขาสามารถกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ก้าวไปสู่ระดับเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ ,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ หากเขาพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง"

75

              กุนซือคนเก่งของทีม "เสือน้อย" ฮัลล์ ซิตี้ "สตีฟ บรูซ" ออกมาให้สัมภาษณ์โดยพูดถึง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าไม่มีทางที่ทีมซึ่งผลิตสุดยอดนักเตะดาวรุ่งอย่าง "อั๊ดนาน ยานาไซจ์" และ "เจมส์ วิลสัน" ได้นั้นจะอยู่ในช่วงที่กำลังตกต่ำ

"เจมส์ วิลสัน" แข้งดาวรุ่งวัย 18 ปีได้รับโอกาสลงประเดิมสนามครั้งแรกให้กับทีมชุดใหญ่ โดยเขาเปิดตัวได้อย่างสวยหรู เมื่อยิงคนเดียวถึง 2 ประตู ในขณะที่ขาประจำอย่าง "อั๊ดนาน ยานาไซจ์" ก็โชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน

"มันไม่ใช่ยุคมืดอย่างแน่นอน เมื่อทีมของคุณมีนักเตะอย่างยานาไซจ์" บรูซ กล่าว

"เขามีอายุแค่เพียง 18 ปี แต่ดูสมกับเป็นนักเตะระดับท็อป นอกจากนี้ไอ้หนุ่มคนที่ยิงประตูได้นั้นก็อีกคนหนึ่ง"

"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะปั้นดาวรุ่งขึ้นมาเสมอ มันเป็นดีเอ็นเอของพวกเขา พวกเขาต้องการทำแบบนั้นและพวกเขาก็จะทำอยู่เสมอ"

"สำหรับในรายของยานาไซจ์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีหนึ่งในดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดของยุโรป ในวัย 18 ปี เขาดูเก๋ากว่านั้นโคตรๆ"

หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 766