แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Topics - Soccer

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 114
46
ซันเดอร์แลนด์ - แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 13 พฤษภาคม 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 2, Astro Supersports 3

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

ซันเดอร์แลนด์ :
''แมวดำ'' ภายใต้การคุมทีมของ มาร์ติน โอนีล ฟอร์มตกต่ำต่อเนื่องในระยะหลัง ล่าสุดไปแพ้ ฟูแล่ม ตามคาด 1-2 รวมแล้วไม่ชนะเลย 7 เกมล่าสุด เวลานี้โค้ชชาวไอริชยังไม่มี เวส บราวน์ (หัวเข่า), คีแรน ริชาร์ดสัน และ เซบาสเตียน ลาร์สสัน (ใส้เลื่อนทั้งคู่) แต่ข่าวดีคือ ไตตัส บรัมเบิ้ล หายเจ็บเอ็นร้อยหวายกลับมาเป็นสำรองในเกมล่าสุด มีลุ้นคืนตัวจริงเกมสุดท้ายอาจจะได้เล่นแทน แม็ทธิว คิลกัลลอน
นอกนั้นตำแหน่งอื่นๆ น่าจะจัดชุดที่ดีที่สุด แนวรุกจัด สเตฟาน แซสเซอญง ทำเกมรุกอยู่หลัง นิคลาส เบนท์เนอร์ ที่ลงเป็นหน้าเป้าในเวลานี้
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :

''ปีศาจแดง'' ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เอาชนะสวอนซี 2-0 ในเกมล่าสุด นัดนี้ต้องเก็บแต้มให้มากกว่า แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นถึงจะเป็นแชมป์ เพราะประตูได้-เสียเป็นรองถึง 8 ลูก อย่างไรก็ตาม เกมนี้ คริส สมอลลิ่ง กับ แดนนี่ เวลเบ็ค สองดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษจะชวดเกมนี้อย่างแน่นอน โดยรายแรกเจ็บโคนขาหนีบต้องผ่าตัดทำให้พลาดยูโร 2012 ไปด้วย ส่วนเวลเบ็คยังไม่หายเจ็บข้อเท้าจากเกมดาร์บี้แมตช์ฟิตไม่ทัน ทำให้ ฟิล โจนส์ จะได้จับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ในแนวรับ

นอกจากนี้ อันแดร์สัน (เอ็นหลังหัวเข่า), ปอล ป็อกบา (ข้อเท้า), ไมเคิ่ล โอเว่น (ต้นขา), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ (ลำไส้อักเสบ), เนมานย่า วิดิช (เอ็นหัวเข่า) และ เฟเดริโก้ มาเคด้า (หัวเข่า) ต่างยังชวดทั้งหมด แนวรุกจัดหน้าคู่ ฮาเวียร์ ''ชิชาริโต้'' เอร์นานเดซ จะได้จับคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ ในแดนหน้า
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ซันเดอร์แลนด์ :
(4-4-1-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - จอห์น โอเช, ไตตัส บรัมเบิ้ล, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ - เคร็ก การ์ดเนอร์, ลี แคตเทอร์โมล, แจ็ค โคลแบ็ค, เจมส์ แม็คคลีน - สเตฟาน แซสเซอญง - นิคลาส เบนท์เนอร์
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-4-2) : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ฟิล โจนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, หลุยส์ นานี่ - เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ ''ชิชาริโต้'' เอร์นานเดซ

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ทีมแมวดำ หลังจากไม่มีลุ้นอะไร ฟอร์มก็แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด และไม่ชนะใครมา 7 นัดแล้ว ขณะที่ แมนฯ ยู มาเต็มอัตราศึกแน่ ยังไงเกมนี้ก็ขอชนะเอาไว้ก่อน เชื่อว่าแรงจูงใจ ปีศาจแดง เหนือกว่าอยู่แล้ว น่าจะทุบเอาชนะได้แน่

47
แมนฯ ซิตี้ - ควีนส์ปาร์ค (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 13 พฤษภาคม 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1, ESPN Astro

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แมนฯ ซิตี้ :
''เรือใบสีฟ้า'' จ่าฝูงของกุนซืออิตาเลียน โรแบร์โต้ มันชินี่ ขอแค่เอาชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ให้ได้ในนัดปิดฤดูกาล ก็จะได้แชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี โดยไม่ต้องสนอะไร หลังบุกไปกำราบ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ในนัดที่แล้ว สำหรับเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม วันอาทิตย์นี้ ถือว่าจ่าฝูงไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเลย โดย มันโช่ พร้อมจัดทัพชุดใหญ่ลงสนามเต็มที่ ระบบการเล่นน่าปรับมาใช้เหมือนตอนที่ มันชินี่ แก้เกมในครึ่งหลังที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค จนเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ได้โดยส่ง ไนเจล เด ยองก์ ลงสนาม พร้อมกับขยับ ยาย่า ตูเร่ เล่นเกมบุกเต็มตัว ดาบิด ซิลบา ปั้นเกมรุกให้กองหน้าอันตรายจาก อาร์เจนตินา อย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' และ คาร์ลอส เตเวซ เช่นเดิม โดยมี มาริโอ บาโลเตลลี่ รอเป็นทีเด็ดบนม้านั่งสำรอง หลังไม่ได้มีเอี่ยวที่ นิวคาสเซิ่ล
   
ควีนส์ปาร์ค :
ทหารเสือราชินีของ มาร์ค ฮิวจ์ส จะเจอทีมเก่าโดยมีความกดดันไม่น้อย หากชนะเกมนี้จะรอดตกชั้นทันที แต่ถ้าเสมอในเกมนี้ก็น่าจะรอดแน่ เพราะประตูได้-เสียดีกว่าโบลตันเยอะ อย่างไรก็ตามเกมนี้ข่าวร้ายคือ แซมบ้า ดิยากิเต้ ห้องเครื่องตัวหลักจะชวดลงเล่นแน่ เพราะป่วย ขณะที่ อเลฮานโดร ฟาอูร์ลิน (หัวเข่า) กับ คีรอน ดายเออร์ (เท้า) ก็ยังชวด ที่เป็นปัญหาใหญ่เพิ่มเติมคือ ฌอน เดอร์รี่ เจ็บขา กับ อากอส บุสซากี้ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าต้องรอเช็กฟิต แต่น่าจะเข็นลงเล่น เชื่อว่าเกมนี้ทีมเยือนจะมารับเต็มที่แน่ แดนหน้า บ็อบบี้ ซาโมร่าจะลงเป็นหน้าเป้าตัวเดียว ขณะที่ ฌิบริล ซิสเซ่ น่าจะนั่งสำรองรอเสียประตูก่อนถึงจะได้โอกาสลงเล่น

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ :
(4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, โจลีออน เลสค็อตต์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, กาแอล กลิชี่ - แกเร็ธ แบร์รี่, ไนเจล เด ยองก์ - ดาบิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่, คาร์ลอส เตเวซ - เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' 
   
ควีนส์ปาร์ค :
(4-5-1) : แพ็ดดี้ เคนนี่ - เนดุม โอนูโอฮา, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, คลินท์ ฮิลล์, ไต ตาอิโว - เจมี่ แม็คกี, โจอี้ บาร์ตัน, ฌอน เดอร์รี่, อากอส บุสซากี้, อเดล ตารับต์ - บ็อบบี้ ซาโมร่า   

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

มาร์ค ฮิวจ์ส แม้จะสู้เพื่อหนีตกชั้น แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะมาต้านทาน แมนฯ ซิตี้ ได้เลย เจ้าถิ่นนัดนี้มีแรงกระตุ้นสูงมาก ดูแล้วช่วงแรกอาจจะดูกดดันตัวเอง แต่เชื่อว่าถ้าจับจังหวะได้แล้ว น่าจะเดินเครื่องเจาะแนวรับ คิวพีอาร์ ที่มักจะเป๋เมื่อมาเป็นทีมเยือนได้ไม่ยาก

48
แมนฯ ยูไนเต็ด - สวอนซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 06 พฤษภาคม 2555
เวลา : 22:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 2, Astro Supersports 3

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด :
''ปีศาจแดง'' จ่าฝูงของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือมือเก๋า หวังเก็บชัยชนะเพื่อรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์ต่อไป หลังออกไปโดน แมนฯ ซิตี้ หั่น 1-0 จนเสียบัลลังก์จ่าฝูง เพราะประตูได้เสียเป็นรอง ความพร้อมก่อนเกมนัดสุดท้ายที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฤดูกาลนี้ ปรากฏว่า กองหลัง จอนนี่ อีแวนส์ และกองหน้า แดนนี่ เวลเบ็ค หมดสิทธิ์แน่นอน อีแวนส์ พลาดเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม หลังเจ็บจากเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ส่วน เวลเบ็ค มีปัญหาเจ็บข้อเท้าจากการโดน ไนเจล เด ยองก์ มิดฟิลด์ แมนฯ ซิตี้ หวดข้อเท้า
อันเดอร์ส ลินเดการ์ด (ข้อเท้า) พร้อมเป็นตัวเลือกครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม หลังหายเจ็บแล้ว โดยเชื่อว่า เฟอร์กูสัน คงปรับทัพบางตำแหน่งจากชุดที่แพ้ศึกดาร์บี้ ราฟาเอล ดา ซิลวา ฟูลแบ็กบราซิลเลี่ยน น่ากลับมาเล่นแทน ฟิล โจนส์ เพราะถนัดในการเติมเกมรุกมากกว่า ส่วน คริส สมอลลิ่ง พร้อมจับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ต่อไป ส่วนแดนกลาง อันโตนิโอ วาเลนเซีย คืนตัวจริงแน่ เพื่อเปิดป้อนให้กองหน้าอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ซึ่งต้องเปลี่ยนคู่ขาเป็น ฮาเวียร์ ''ชิชาริโต้'' เอร์นานเดซ ที่เคยยิงดับ สวอนซี ที่ ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม มาแล้ว
   
สวอนซี :
หงส์ขาว จากการทำงานของกุนซือ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส หวังลบความเซ็งที่โดน วูล์ฟส์ บดตีเสมอ 4-4 ในนัดล่าสุด ทั้งๆ ที่นำห่างถึง 3-0 ในครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ว่า ลีออน บริตตัน มิดฟิลด์ตัวรับ จะไหวหรือไม่ หลังจากที่มีอาการเจ็บหัวเข่า ขณะที่ฟูลแบ็ก อังเคล รังเคล แบ็กขวาจอมบุกชาวสแปนิช พร้อมกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง หลังสลัดอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทิ้งเรียบร้อย

นอกเหนือไปจากพวกที่เดี้ยงยาวอย่าง เคมี่ อกุสติน (ข้อเท้า), เฟอร์รี่ บ็อดเด้ (หัวเข่า) และ อันเดรีย ออร์ลันดี้ (น่อง) ถือว่า ร็อดเจอร์ส มีขุมกำลังชุดใหญ่ให้เลือกใช้งาน ระบบการเล่น 4-2-3-1 ตามถนัด โดยมี กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน กองกลางไอซ์แลนด์ ที่ตกเป็นข่าวว่า เฟอร์กูสัน จับตามองอยู่ รับหน้าที่ตัวรุกหลังหอกเป้าอย่าง แดนนี่ เกรแฮม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-4-2) : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, คริส สมอลลิ่ง, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, หลุยส์ นานี่ - เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ ''ชิชาริโต้'' เอร์นานเดซ
   
สวอนซี :
(4-2-3-1) : มิเชล ฟอร์ม - อังเคล รังเคล, สตีเว่น คอลเกอร์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, นีล เทย์เลอร์ - ลีออน บริตตัน, โจ อัลเลน - เนธาน ดายเออร์, กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน, สกอตต์ ซินแคลร์ - แดนนี่ เกรแฮม

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

สวอนซี ไม่มีอะไรให้กังวลแล้ว ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต้องดิ้นรนหนักใน 2 เกมที่เหลือ ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เหนือกว่าสวอนซี ทุกอย่าง ทีมผีแดง ไม่มีอะไรต้องให้คิดมากในนัดนี้ นอกจากเดินหน้าบดคู่แข่งอย่างเดียว แถมต้องยิงประตูให้เยอะๆไว้ก่อน ดูแล้ว ทีมหงส์ขาว ไม่น่าต้านอยู่แน่นอน
 

49
นิวคาสเซิ่ล - แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 06 พฤษภาคม 2555
เวลา : 19:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1, ESPN Astro

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

นิวคาสเซิ่ล :
''สาลิกาดง'' จากการทำงานของ อลัน พาร์ดิว ต้องชนะเพื่อรักษาความหวังในการคว้าตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากที่ออกไปซัด เชลซี 2-0 เมื่อมิดวีก มีข่าวดีเมื่อ ชีค ติโอเต้ กองกลางจอมบู๊ทีมชาติไอเวอรี่โคสต์ ฟิตพร้อมลุยในเกมสำคัญ แม้ศีรษะแตกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ จนต้องเย็บเจ็ดเข็มเมื่อกลางสัปดาห์ หลังปะทะกับ จอห์น โอบี มิเคล กลางอากาศ

อย่างไรก็ตาม แดนนี่ ซิมพ์สัน แบ็กขวาจอมบุก ยังไม่แน่ว่า จะฟิตทันหรือไม่ หลังได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า โดยหากอดีตเด็กปั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ไหว ทางด้านของ เจมส์ เพิร์ช จะทำหน้าที่ต่อเช่นเดิม เท่ากับว่าเหลือแค่ สตีเว่น เทย์เลอร์ (เอ็นร้อยหวาย) และ แซมมี่ อเมโอบี้ (หัวเข่า) เท่านั้นที่ต้องพักยาว พาร์ดิว น่าจะยังยึดทีมชุดแกร่งเป็นแกนหลักต่อไป นำโดยคู่หัวหอกอันตราย เดมบา บา กับ ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ่ ที่กำลังร้อนแรงสุดๆ   
   
แมนฯ ซิตี้ :
''เรือใบสีฟ้า'' จ่าฝูงของกุนซืออิตาเลียน โรแบร์โต้ มันชินี่ ยึดบัลลังก์จ่าฝูงมาเป็นของตัวเองได้สำเร็จ หลังจากเปิดบ้านชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อคืนวันจันทร์ ในเกมที่ต้องชนะเพื่อขยับเข้าใกล้แชมป์พรีเมียร์ลีกนัดนี้ ''มันโช่'' ถูกคาดหมายว่า จะมีขุมกำลังหน้าเดิมๆ จากชุดที่กำชัยในเกมชี้แชมป์ให้เลือกใช้งานเหมือนเคย

มีรายงานว่า กุนซืออิตาเลียนจะยึดมั่นใจ 11 ตัวจริงที่ใช้ดับ ''ปีศาจแดง'' ต่อไป แม้สองแข้งทีมชาติอังกฤษอย่าง ไมกาห์ ริชาร์ดส์ และ เจมส์ มิลเนอร์ หวังมีเอี่ยวด้วยก็ตาม กัปตันทีม แว็งซ็องต์ ก็องปานี ฮีโร่โขกนำชัยในศึกดาร์บี้ ดูแลแนวรับ ปล่อยให้ ซามีร์ นาสรี่ รวมถึง ดาบิด ซิลบา ปั้นเกมรุกให้กองหน้าอันตรายจากอาร์เจนตินา อย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' และ คาร์ลอส เตเวซ โดยมี มาริโอ บาโลเตลลี่ รอเป็นทีเด็ดบนม้านั่งสำรอง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

นิวคาสเซิ่ล :
 (4-4-2) : ทิม ครูล - เจมส์ เพิร์ช, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, ดาวิเด้ ซานตอน - ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, ชีค ติโอเต้, โยอัน กาบาย, โฮนาส กูเตียร์เรซ - เดมบา บา, ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ่
   
แมนฯ ซิตี้ :
(4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, โจลีออน เลสค็อตต์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, กาแอล กลิชี่ - แกเร็ธ แบร์รี่, ยาย่า ตูเร่ - ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ, ซามีร์ นาสรี่ - เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน''

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แม้ นิวคาสเซิ่ล ดูน่ากลัวมากในตอนนี้ แต่ แมนฯ ซิตี้ ก็อยู่ในสภาพฟื้นกลับมาได้เหมือนกัน ทีมเรือใบ มีผู้เล่นฝีเท้าจัดจ้านที่สามารถพลิกเกมเองได้หลายคน ขณะที่นายทวารอย่าง โจ ฮาร์ท ก็น่าจะเหนียวพอที่จะหยุด ปาปิสส์ ซิสเซ่ รวมทั้งดาวยิงคนอื่นของ นิวคาสเซิ่ล ได้ เชื่อว่าทีมเรือใบสีฟ้า มีลุ้นที่จะบุกมาเบียดชนะได้
 

50
เรอัล มาดริด - เซบีย่า (ลาลีกา สเปน)
วันที่ : 29 เมษายน 2555
เวลา : 17:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เรอัล มาดริด :
''ราชันชุดขาว'' เพิ่งตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ หลังพ่ายจุดโทษต่อ บาเยิร์น มิวนิค กระนั้นสถานการณ์ในลีกสดใส โดยนัดที่แล้วบุกคว่ำ บาร์เซโลน่า ถึงถิ่น 2-1 ทำแต้มห่างทัพ ''อาซูลกราน่า'' ถึง 7 แต้มและไม่แพ้ในลีก 19 นัดติดต่อกันแล้ว สภาพทีม เรอัล มาดริด ไม่มีปัญหาผู้เล่นเจ็บเพิ่ม นอกจาก ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กองหลังตัวเก๋าที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และพักยาวมาต่อเนื่อง แต่ไม่มีปัญหาเนื่องจาก เซร์คิโอ รามอส และ เปเป้ จับคู่กันลงตัว เกมนี้คาดว่า มูรินโญ่ จะโรเตชั่นบางตำแหน่งเพื่อรักษาความสดของผู้เล่นโดย กอนซาโล่ อิกวาอิน และ ริคาร์โด้ กาก้า มีโอกาสเป็นตัวจริงสูง ขณะที่ เอสเตบาน กราเนโร่ ก็มีลุ้นเบียดแย่งตำแหน่งกับ ซามี่ เคดิร่า ด้วย
   
เซบีย่า :
เซบีย่า ของกุนซือ มิเชล กอนซาเลซ มีลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีกอยู่ลึกๆ โดยตอนนี้มีแต้มห่างแค่ 6 คะแนน แม้ว่านัดที่แล้วได้แค่เสมอเลบันเต้ 1-1 ในบ้านตัวเองก็ตาม เกมนี้ เซบีย่า มีปัญหาในการจัดทัพไม่น้อย โดย การี เมเดล และ มานู เดล โมรัล สองตัวหลักติดโทษแบนพร้อมกันทั้งคู่ โดยคาดว่าในตำแหน่งดังกล่าว อิวาน ราคิติช และ โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส จะทำหน้าที่แทน ขณะที่ตัวรุกอย่าง ดีเอโก้ เปร็อตติ และ เฟเดริก กานูเต้ ยังไม่หายเจ็บชวดบู๊ต่อไป ส่วนรายของ เอเมียร์ สปาอิช และ อันเดรส ปาล็อป ต้องเช็กความฟิตไม่แน่ว่าจะลงสนามได้หรือไม่

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เรอัล มาดริด :
(4-2-3-1) : อีเกร์ กาซียาส - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ (ฟาบิโอ โกเอนเตรา) - ซามี่ เคดิร่า (เอสเตบาน กราเนโร่), ชาบี อลอนโซ่ - อังเคล ดิ มาเรีย, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ริคาร์โด้ กาก้า (เมซุต โอซิล) - กอนซาโล่ อิกวาอิน (คาริม เบนเซม่า)
   
เซบีย่า :
(4-2-3-1) : ฆาบี บาราส - กาล่า, ฌูเลียง เอสกูเด้, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, เฟร์นานโด นาบาร์โร่ - ปีโอเตอร์ โทรชอฟสกี้, อีวาน ราคิติช - เฆซุส นาบาส, โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส, อันโตนิโอ ลูน่า - อัลบาโร่ เนเกรโด้

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แม้ชื่อชั้น เซบีย่า จะสู้ได้ แต่เจอกันทีไรเสร็จ เรอัล มาดริด ตลอด ยิ่งราชันชุดขาว ไม่มีถ้วยอื่นให้ต้องกังวลด้วย เกมนี้ลื่นเป็นปลาไหลแน่ เซบีย่า ขาดทีเด็ดในแนวรุกอีกต่างหาก ราชัน ต้อนสบายแน่ เรตเปิดมาแพงไปนิด แต่ยังไงก็ต้องต่อ เรอัล มาดริด สถานเดียว

51
ราโย บาเยกาโน่ - บาร์เซโลน่า (ลาลีกา สเปน)
วันที่ : 29 เมษายน 2555
เวลา : 02:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

ราโย บาเยกาโน่ :

"ราโย่" ช่วงหลังฟอร์มย่ำแย่หนัก 7 เกมหลังสุดแพ้ถึง 6 นัดที่แล้วพ่ายต่อ สปอร์ติ้ง คิฆอน 1-2 แต่โอกาสรอดตกชั้นยังเปิดกว้าง ต้องการอีกแค่ 4 แต้มจาก 4 นัดที่เหลือ ข่าวดีของ ราโย่ คือเกมนี้ได้ ตีโต้ แบ็กขวาตัวเก่ง, อเลฆานโดร อาร์รีบาส เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักและ ราอูล ตามูโด้ ดาวยิงตัวเก๋า พ้นโทษแบนกลับมาพร้อมช่วยทีมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทีมหมดสิทธิ์ใช้บริการ โฆเซ่ กาซาโด้ และ มิเกล ลาบาก้า ที่โดนไล่ออกในเกมที่แล้วพร้อมกันทั้งคู่
 
จากปัญหาดังกล่าวทำให้ ราอูล บราโบ มีโอกาสลงสนามในตำแหน่งแบ็กซ้าย ส่วน ฆาบี ฟวยโก้ และ มิเชล ยังเจ็บลงเล่นไม่ได้เหมือนเดิม กระนั้น เอมิเลียโน่ อาร์เมนเตรอส ปีกตัวเก่งกลับมาฟิตทันเวลา พร้อมลงเล่นริมเส้นอีกครั้ง
   
บาร์เซโลน่า :
"เจ้าบุญทุ่ม" พบกับช่วงเวลาที่หดหู่ภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ หลังถูก เรอัล มาดริด บุกอัดคว่ำ 1-2 ถึงถิ่น โดน ราชันชุดขาว ทิ้งห่างเป็น 7 แต้มแล้ว ก่อนตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อได้แค่เสมอ เชลซี 2-2 ตามติดด้วยการลาออกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ข่าวร้ายคือ ชาบี เอร์นานเดซ มิดฟิลด์จอมทัพได้รับบาดเจ็บน่อง ต้องพักราว 15 วัน ขณะที่ เคราร์ด ปิเก้ ซึ่งโดนกระแทกที่ศีรษะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ยังต้องพักต่อไป แต่ทีมได้ อิบราฮิม อเฟลลาย กลับมาฟิตปั๋ง มีชื่อติดทีมนัดนี้ด้วย
 
โดยคาดว่า เป๊ป จะปรับทัพบางตำแหน่ง โดยแดนกลาง เซย์ดู เกอิต้า และ ติอาโก้ อัลกานตาร่า ต่างมีลุ้นลงสนามทั้งคู่ ขณะที่แดนหน้า ลิโอเนล เมสซี่ และ อเล็กซิส ซานเชส จะเป็นตัวยืน นอกจากนั้น ในทีมชุดนี้ เป๊ปได้เรียกผู้เล่นจากทีมชุดบีมาติด 3 รายนั่นคือ มาร์ก บาร์ตร้า, มาร์ติน มอนโตย่า และ คริสเตียน เตโย่

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ราโย บาเยกาโน่ :
(4-2-3-1) : โรเบลส - ตีโต้, ฆอร์เก้ ปูลิโด้, อเลฆานโดร อาร์รีบาส, ราอูล บราโบ - โฆเซ่ มาเรีย โมบีย่า, โรเบร์โต้ ทราชชอร์ราส - ปิติ, มิชู, เอมิเลียโน่ อาร์เมนเตรอส - ดีเอโก้ คอสต้า
   
บาร์เซโลน่า :
(4-3-3) : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, การ์เลส ปูโยล, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อาเดรียโน่ กอเรียอา - เซร์คิโอ บุสเก็ตต์ (เซย์ดู เกอิต้า), ติอาโก้ อัลกานตาร่า, อันเดรส อีเนียสต้า - อเล็กซิส ซานเชส (เชส ฟาเบรกาส), ลิโอเนล เมสซี่, เปโดร โรดริเกซ

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ราโย บาเยกาโน่ ช่วงหลังฟอร์มไม่ดีเลย ขณะที่ บาร์ซ่า เพิ่งตกรอบมาหมาดๆ เกมนี้ความคึกคักลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เทียบกันตัวต่อตัว บาร์ซ่า ศักยภาพเหนือกว่ามาก เรตเปิดมาแพงไปนิด กลั้นใจต่อ บาร์ซ่า

52
สเปอร์ส - แบล็คเบิร์น (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 29 เมษายน 2555
เวลา : 22:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

สเปอร์ส :
ไก่เดือยทอง ของกุนซือประสบการณ์สูง แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ต้องลุ้นตัวโก่งในการคว้าตั๋วไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากที่โดน ควีนส์ปาร์ค หั่น 1-0 ในลอนดอนดาร์บี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนเกมที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน วันอาทิตย์นี้ กองหลัง ยูเนส กาบุล และกองหน้า เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หายเจ็บหัวเข่า และเอ็นหลังหัวเข่าตามลำดับ กลับมาเป็นตัวเลือกให้ เร้ดแน็ปป์ ได้อีกครั้ง ปราการหลังจอมเก๋า เล็ดลี่ย์ คิง ยังไม่แน่ว่า เพราะอาการเจ็บหัวเข่าที่เรื้อรังยังเกาะกิน แต่ในรายของแบ็กซ้าย เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ พักทั้งฤดูกาล เพราะไหล่หลุดในเกมกับ คิวพีอาร์ ส่วน นิโก้ ครานชาร์ (หัวเข่า), ทอม ฮัดเดิลสตัน (ข้อเท้า) และ ไมเคิ่ล ดอว์สัน (ข้อเท้า) เร้ดแน็ปป์ อาจส่ง แดนนี่ โรส แบ็กซ้ายดาวรุ่งลงสนาม เพื่อให้ แกเร็ธ เบล ใช้ความเร็วโจมตีในเกมรุกต่อ ส่วนแดนหน้า อเดบายอร์ คงเบียด เจอร์เมน เดโฟ เป็นสำรองเช่นเดิม
   
แบล็คเบิร์น :
กุหลาบไฟ ภายใต้การนำของกุนซือหนุ่ม สตีฟ คีน ต้องลุ้นหนีตกชั้นตัวโก่งทีเดียว แม้หยุดสถิติพ่ายห้านัดรวดด้วยการเปิดบ้านขย้ำ นอริช 2-0 ในนัดล่าสุด มีรายงานว่า กุนซือชาวสกอตติช มีขุมกำลังชุดใหญ่เต็มสูบให้เลือกใช้งาน ในการเยือนลอนดอนเหนือ เพื่อทำศึกนัดสำคัญที่จะชี้เป็นชี้ตายชะตากรรมในพรีเมียร์ลีก ซิมอน วุคเซวี่ กองกลางชาวมอนเตเนโกร หายป่วยจากการติดเชื้อไวรัส กลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง เช่นเดียวกับ เจสัน ลอว์ ที่หายเจ็บหัวเข่าแล้ว เท่ากับว่าเหลือแค่ แกรนท์ แฮนลี่ย์ กองหลังแค่คนเดียวที่ต้องพัก เพราะมีปัญหาเจ็บข้อเท้า
คีน คงยึดเอาทีมชุดที่ชนะ นอริช ต่อไป เท่ากับว่า สตีเว่น เอ็นซอนซี่ จะต้องนั่งสำรองเช่นเดิม ปล่อยให้ ลอว์ ทำหน้าที่แดนกลาง และ แบร็ดลี่ย์ ออร์ ยืนแบ็กขวา ส่วนแนวรุกเป็น จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ ปั้นเกมให้ ไอเย็กเบนี่ ยาคูบู ดาวซัลโวประจำทีม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สเปอร์ส :
(4-4-1-1) : แบรด ฟรีเดล - ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, ยูเนส กาบุล, แดนนี่ โรส - อารอน เลนน่อน, สกอตต์ พาร์เกอร์, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล - ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท - เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
   
แบล็คเบิร์น :
(4-4-1-1) : พอล โรบินสัน - แบร็ดลี่ย์ ออร์, สกอตต์ แดนน์, กาแอล ชิเว่ต์, มอร์เตน โอลส์สัน - เมาโร ฟอร์มิก้า, เจสัน ลอว์, เดวิด ดันน์, มอร์เตน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น - จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ - ไอเย็กเบนี่ ยาคูบู

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

สเปอร์ส ไม่ได้กุมชะตาตัวเองในการคว้าอันดับสี่เพื่อไป ชปล. แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาต้องชนะ และการเล่นในบ้านเจอทีมท้ายตารางอย่าง แบล็คเบิร์น คือโอกาสอันดีในการเรียกความมั่นใจ เฉพาะอย่างยิ่ง กุหลาบไฟ ชนะแค่สองเกมนอกบ้านในฤดูกาลนี้ แถมการพบกันแปดครั้งที่ผ่านมา เก็บแต้มได้จาก ไก่เดือยทอง แค่สี่แต้ม

53
เชลซี - ควีนส์ปาร์ค (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 29 เมษายน 2555
เวลา : 19:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

เชลซี :
สิงโตน้ำเงินคราม เพิ่งผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อมิดวีก ด้วยการโค่น บาร์เซโลน่า ส่วนผลงานในพรีเมียร์ลีกของพวกเขา ยังต้องลุ้นจบในฐานะท็อปโฟร์ หลังออกไปเสมอ อาร์เซน่อล 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว กุนซือชั่วคราว โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ต้องคิดหนักทีเดียวเมื่อเจอปัญหาขาดแคลนนักเตะในแนวรับ สำหรับการเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกลอนดอนดาร์บี้ฉะ คิวพีอาร์ เมื่อ แกรี่ เคฮิลล์ และ ดาวิด ลุยซ์ ต่างเจ็บ

นอกจากสองเซนเตอร์แบ็กอาชีพดังกล่าว มีอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าพร้อมกันแล้ว บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่ถูกใช้งานในบทบาทปราการหลังตัวกลางประจำ ยังต้องชดใช้โทษแบนในประเทศเป็นนัดสุดท้ายจากทั้งหมดสามนัดด้วย
เท่ากับว่า ดิ มัตเตโอ เหลือแค่กัปตันทีม จอห์น เทอร์รี่ คนเดียวที่เป็นเซนเตอร์แบ็กอาชีพ ทำให้ฟูลแบ็กอย่าง โชเซ่ โบซิงวา หรือ เปาโล แฟร์เรยร่า ส่อแววถูกปรับให้มาทำหน้าที่ตัวกลางเฉพาะกิจ ในส่วนอื่นๆ ถือว่า ดิ มัตเตโอ ไม่มีปัญหาอะไรให้กังวล โดยอาจมีการสลับสับเปลี่ยนผู้เล่นบ้าง เมื่อมีโปรแกรม เอฟเอ คัพ รออยู่ในสัปดาห์หน้า โดยแนวรุก เฟร์นานโด ตอร์เรส ฮีโร่ที่เปลี่ยนลงมาซัดตีเสมอ บาร์ซ่า เมื่อกลางสัปดาห์ พร้อมเป็นตัวจริง
   
ควีนส์ปาร์ค :
ทหารเสือราชินี ของกุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส ยังต้องดิ้นรนหนีตายต่อไป แม้นัดล่าสุดจะเปิดบ้านกำราบ สเปอร์ส อริร่วมกรุงลอนดอนอีกทีมไป 1-0 อย่างไรก็ดี ฮิวจ์ส ส่อแววต้องปราศจากนักเตะตัวสำคัญหลายต่อหลายรายทีเดียว ในการกลับไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ บ้านเก่าอีกหลังสมัยค้าแข้ง อเดล ตารับต์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโมร็อกโก ติดโทษแบนจากใบแดงในเกมกับ สเปอร์ส ทำให้ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ เด็กเก่า เชลซี เตรียมได้โอกาสลากเลื้อยแทน แซมบ้า ดิยากิเต้ มิดฟิลด์ตัวรับ ป่วยจนไม่ได้ซ้อมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่กองหน้า ฌิบริล ซิสเซ่ ที่เป็นสำรองไม่ได้ลงสนามในเกมกับ สเปอร์ส เพราะเจ็บหัวเข่า หลังเพิ่งพ้นโทษแบนยาวสี่นัดกลับมา มีปัญหาเจ็บหัวเข่า เชื่อว่า สปาร์กี้ จะยึดทีมที่เก็บชัยชนะเหนือ ไก่เดือยทอง เป็นแกนหลักต่อไปในการย้ำแค้น เชลซี หลังเคยชนะ 1-0 ที่ลอฟตัส โร้ด เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี :
(4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์เรยร่า, โชเซ่ โบซิงวา, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, โอริโอล โรเมอู - ซาโลมง กาลู, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ฆวน มาต้า
   
ควีนส์ปาร์ค :
(4-5-1) : แพ็ดดี้ เคนนี่ - เนดุม โอนูโอฮา, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, คลินท์ ฮิลล์, ไต ไตโว่ - ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, แซมบ้า ดิยากิเต้, ฌอน เดอร์รี่, โจอี้ บาร์ตัน, เจมี่ แม็คกี - บ็อบบี้ ซาโมร่า 

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

คิวพีอาร์ มาเน้นรับเต็มที่ แต่ฟอร์มนอกบ้านของพวกเขา ไม่ดีเลย เมื่อแพ้ห้านัดหลังสุดนอก ลอฟตัส โร้ด แม้ว่า เชลซี อาจดร็อปตัวหลักบางราย ทว่า พวกที่เหลือ ก็ยังดีพอจะเก็บสามแต้มเหนืออริร่วมกรุงลอนดอน ซึ่งไม่เคยยิงประตูที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เลยตั้งแต่ปี 1996 เชื่อว่า หนึ่งประตูมีแน่ และน่ามีเม็ดสองตามมาสำหรับเจ้าบ้านที่ไม่แพ้มาห้าเกมแล้ว
 

54
นอริช ซิตี้ - ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 28 เมษายน 2555
เวลา : 23:30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

นอริช ซิตี้ :
นกขมิ้นเหลืองอ่อน ของผู้จัดการทีม พอล แลมเบิร์ต ต้องการเรียกขวัญและกำลังใจกลับมา หลังสัปดาห์ก่อนถูก แบล็คเบิร์น สอย 2-0
อย่างไรก็ตาม มาร์ค เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายจอมแกร่ง จะไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมด้วย เพราะได้รับการยืนยันว่า ต้องพลาดสามนัดสุดท้ายของฤดูกาล หลังขึ้นเขียงผ่าโคนขาหนีบ

ส่วนอดีตเซ็นเตอร์แบ็ก ลิเวอร์พูล อย่าง ดาเนียล อยาล่า ไม่ได้เล่นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพราะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า แต่เด็กเก่า หงส์แดง อีกรายอย่าง แซ็ค วิทเบรด มีลุ้นหายเจ็บน่องทันเวลา เจมส์ วอห์น อดีตกองหน้า เอฟเวอร์ตัน กลับมาอย่างสุดเซอร์ไพรส์ในนัดล่าสุด แต่ผลงานไม่ค่อยเข้ากับกัปตันทีม แกรนท์ โฮลท์ เท่าไหร่ จึงส่อโดนดร็อป ส่วน ไคล์ นอตัน มีลุ้นกลับมาเสียบแทน อดัม ดรูรี่ ทางแบ็กซ้ายบ้าง
   
ลิเวอร์พูล :
''หงส์แดง'' จากการทำงานของ เคนนี่ ดัลกลิช หวังแก้ตัวให้ได้ หลังจากที่นัดล่าสุดเล่นใน แอนฟิลด์แท้ๆ แต่กลับโดน เวสต์บรอมฯ บุกงับ 1-0 มีข่าวดีให้ เดอะ ค็อป เริงร่าเมื่อกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด กลับมาลงซ้อมได้อีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังได้พักในการฉะ แบ็กกี้ส์

อย่างไรก็ตาม จากการที่มี เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศรออยู่ในสัปดาห์หน้า และมีโปรแกรมลีกอีกสองนัดก่อนลุย เวมบลีย์ ทำให้ ดัลกลิช อาจตัดสินใจนำระบบหมุนเวียนผู้เล่นมาใช้ เพื่อให้แกนหลักสดเต็มที่ในนัดสำคัญ แอนดี้ แคร์โรลล์ กองหน้าค่าตัวแพง ส่อแววได้เป็นตัวจริงต่อ หลังสร้างปัญหาให้กองหลัง เวสต์บรอมฯ ได้มากทีเดียว ขณะที่ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง และ เคร็ก เบลลามี่ ต่างหวังได้มีส่วนร่วมด้วย แต่กองกลาง ชาร์ลี อดัม เจ็บหัวเข่า และพักทั้งฤดูกาลแน่แล้ว
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นอริช ซิตี้ :
(4-4-2) : จอห์น รัดดี้ - รัสเซลล์ มาร์ติน, เอลเลียตต์ วอร์ด, ไรอัน เบนเน็ตต์, ไคล์ นอห์ตัน - เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์, เดวิด ฟ็อกซ์, จอนนี่ ฮาวสัน, แอนโธนี่ พิลคิงตัน - สตีฟ มอริสัน, แกรนท์ โฮลท์
   
ลิเวอร์พูล :
(4-4-2) : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดน แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เจย์ สเพียริง, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - หลุยส์ ซัวเรซ, แอนดี้ แคร์โรลล์ 

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ลิเวอร์พูล ชั่วโมงนี้ วางใจไม่ค่อยได้ เหมือนกับหัวใจลอยไปที่ เวมบลีย์ แล้ว ขณะที่ นอริช อาจชนะแค่สองเกมจาก 10 นัดหลัง แต่การเล่นในบ้าน ถือเป็นความได้เปรียบเล็กๆ รวมถึงสไตล์การผ่านบอลสั้น สลับโยนยาว งานนี้ หงส์แดง คงชนะยาก

55
วีแกน - นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 28 เมษายน 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 5

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

วีแกน :
เดอะ ลาติกส์ จากการทำงานของกุนซือสแปนิช โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ อดเก็บชัย สามนัดรวดเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากที่ออกไปโดน ฟูแล่ม กะซวก 2-1 อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ว่า กองหน้า ฟรังโก้ ดิ ซานโต (น่อง) จะไหวหรือไม่ในเกมฉะ นิวคาสเซิ่ล ที่ ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้ แต่ในรายของศูนย์หน้าอีกราย ฮูโก้ โรดาเยก้า (หัวเข่า) หวังจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความฟิต หลังกลับมาลงซ้อมได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่หายหน้าไปเมื่อเจ็ดสัปดาห์ก่อน กองหลัง รอนนี่ สตัม (เอ็นหลังหัวเข่า) ไม่น่าได้มีเอี่ยว แต่กองกลาง อัลเบิร์ต กรูซาต (น่อง) กลับมาอยู่ในข่ายการพิจารณาอีกครั้ง โดยเชื่อว่า มาร์ติเนซ คงไม่เปลี่ยนแปลงทีมมากนัก ขณะที่ ฌอน มาโลนี่ย์ มีลุ้นออกสตาร์ต
   
นิวคาสเซิ่ล :
สาลิกาดง จากการทำงานของ อลัน พาร์ดิว ลุ้นตั๋วไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป หลังชนะมาหกเกมรวดในพรีเมียร์ลีก โดยล่าสุดคือการเปิดรังขย้ำ สโต๊ค 3-0 ยึดที่สามของตาราง ในการยกพลไปเยือน วีแกน วันเสาร์นี้ ทางด้านของกุนซือ พาร์ดิว ไม่ได้รับรายงานว่ามีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ปีกจอมเลื้อย กาเบรียล โอแบร์กต็อง (ข้อเท้า) และ ซิลแว็ง มาร์กโวซ์ (โคนขาหนีบ) ต่างสามารถกลับมาลงซ้อมได้ทั้งคู่ แม้ยังไม่พร้อมคืนทีมก็ตาม จึงเหลือแค่ สตีเว่น เทย์เลอร์ (เอ็นร้อยหวาย) และ แซมมี่ อเมโอบี้ (หัวเข่า) เท่านั้นที่ต้องพักยาว พาร์ดิว น่าจะยังยึดทีมชุดที่ทำได้ดีในพักหลังเป็นแกนหลักต่อไป นำโดยคู่หัวหอกอันตราย เดมบา บา กับ ปาปิสส์  ซิสเซ่ ซึ่งมี ฮาเต็ม เบนอาร์กฟา ปั้นเกมรุกให้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

วีแกน :
(4-3-3) : อาลี อัล ฮับซี - เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, อันโตลิน อัลการาซ, แกรี่ คัลด์เวลล์, มายเนอร์ ฟิเกรัว - เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, ฌอง โบเซฌูร์ - ฆอร์ดี้ โกเมซ, ฟรังโก้ ดิ ซานโต, วิคเตอร์ โมเซส
   
นิวคาสเซิ่ล :
(4-4-2) : ทิม ครูล - แดนนี่ ซิมพ์สัน, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, ดาวิเด้ ซานตอน - ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, ชีค ติโอเต้, โยอัน กาบาย, โฮนาส กูเตียร์เรซ - เดมบา บา, ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ่

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แม้เป็นเรื่องหนักสำหรับ วีแกน ในการหยุด นิวคาสเซิ่ล แต่เดอะ ลาติกส์ ก็เคยชนะ แมนฯ ยู ที่นี่มาแล้ว วีแกน ดวลกับทีมใหญ่กว่าได้อย่างสูสีในระยะหลังจนไม่น่าแพ้ นิวคาสเซิ่ล ลูกทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ มีลุ้นถึงล้มลูกทีมของ อลัน พาร์ดิว ได้เลย

56
สโต๊ค ซิตี้ - อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 28 เมษายน 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

สโต๊ค ซิตี้ :
ช่างปั้นหม้อ ของกุนซือ โทนี่ พูลิส ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วในฤดูกาลนี้ นอกจากศักดิ์ศรี หลังจากที่ชนะแค่นัดเดียวจากเจ็ดเกมหลัง โดยผลงานล่าสุดคือการออกไปโดน นิวคาสเซิ่ล ถล่ม 3-0 ในการเปิด บริทานเนีย สเตเดี้ยม ทำศึกวันเสาร์นี้ ทางด้านของ แอนดี้ วิลกินสัน (โคนขาหนีบ) จะอดประจำการในแนวรับแน่นอน หลังเจ็บจากนัดล่าสุด จนต้องโดนเปลี่ยนในนาทีที่ 33

นอกจากนี้ มีรายงานว่า วิลกินสัน ยังไม่แน่ด้วยว่า จะฟิตทันเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ในวันอังคารหน้าหรือไม่ด้วย แต่กระนั้น คงฟิตพอสำหรับสองนัดสุดท้ายของฤดูกาล ในรายของ เจอร์เมน เพนแนนท์ ปีกจอมเลื้อย กลับมาอยู่ในข่ายการพิจารณาอีกครั้ง หลังโดนเชื้อไวรัสเล่นงานจนงอม และหวังได้เจอทีมเก่า
   
อาร์เซน่อล :
เดอะ กันเนอร์ส ของผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส อาร์แซน เวนเกอร์ ทีมอันดับสาม นำอันดับสี่อย่าง นิวคาสเซิ่ล แค่ 4 แต้ม หลังจากที่ทำได้แค่เสมอกับ เชลซี 0-0 ในนัดล่าสุด

มีรายงานว่า ปืนใหญ่ ยังต้องรอประเมินความฟิตของ อาบู ดิยาบี้ กองกลางชาวฝรั่งเศสก่อนเกมวันเสาร์นี้ หลังจากที่โดนเชื้อไวรัสเล่นงาน
ขณะที่ โทมัส โรซิชกี้ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก สลัดอาการป่วยทิ้งได้ทัน ส่วน ยอสซี่ เบนายูน ก็จะกลับมาเป็นตัวเลือกได้ หลังจากที่ไม่สามารถเจอต้นสังกัดแม่ของตัวเองได้เมื่อสัปดาห์ก่อน

ปีก ธีโอ วัลค็อตต์ (เอ็นหลังหัวเข่า) น่าได้กลับมามีเอี่ยวก่อนปิดฤดูกาลนี้ แต่ มิเคล อาร์เตเต้า (ข้อเท้า) พักยาว เช่นเดียวกับ แจ็ค วิลชียร์ (ข้อเท้า) และเซนเตอร์แบ็กร่างใหญ่ แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ (ข้อเท้า) แชร์วินโญ่ พร้อมลงแย่งตำแหน่งกับ เบนายูน จากการขาดหายไปของ วัลค็อตต์ ส่วนดาวซัลโวประจำทีม โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ พร้อมออกสตาร์ตเช่นเดิม
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สโต๊ค ซิตี้ :
(4-4-2) : อัสเมียร์ เบโกวิช - ไรอัน ชอตตั้น, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, มาร์ค วิลสัน - เจอร์เมน เพนแนนท์, ดีน ไวท์เฮด, เกล็น วีแลน, แม็ทธิว เอเธอริงตัน - โจนาธาน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์
   
อาร์เซน่อล :
(4-2-3-1) : วอยเชียค เชสนี่ - บาการี่  ซาญ่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส - อเล็กซ์ ซง, อารอน แรมซี่ย์ - ธีโอ วัลค็อตต์, โทมัส โรซิชกี้, ยอสซี่ เบนายูน - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

สโต๊ค เล่นเหมือนรอให้ฤดูกาลจบ ไม่มีแรงจูงใจ ผิดกับ อาร์เซน่อล ที่ต้องเร่งสปีดตัวเอง หลังฟอร์มแผ่วในพักหลัง แม้ฟอร์มนอกบ้านจะไม่ค่อยดีในฤดูกาลนี้ เมื่อแพ้ถึงเจ็ดนัด ทว่าความร้ายกาจในแนวรุก ยังพอฝากความหวังได้ว่าจะเจาะ ช่างปั้นหม้อ ได้ และคว้าสามแต้มสำคัญ

57
สเปอร์ส - นอริช ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 09 เมษายน 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

สเปอร์ส :
แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือ ''ไก่เดือยทอง'' เริ่มเจอบททดสอบหนักในการรักษาพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังล่าสุดก็ทำได้แค่เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0 ในเกมที่สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกมนี้ เล็ดลี่ย์ คิง กองหลังกัปตันทีมที่เจ็บหัวเข่าเรื้อรังยังน่าจะได้พักต่อ รอเล่นเกมเอฟเอ คัพ ตัดเชือกสุดสัปดาห์นี้ แต่ อารอน เลนน่อน ที่เจ็บ และกลับมาเป็นสำรองตั้งแต่เกมกับ สวอนซี น่าจะได้โอกาสเป็นตัวจริงเต็มตัวเพื่อเรียกความฟิตไปด้วย แต่กลุ่มที่เจ็บยาวอยู่ก่อนอย่าง ไมเคิ่ล ดอว์สัน (ข้อเท้า), เอเรลโญ่ โกเมส (หัวเข่า) และกองกลาง ทอม ฮัดเดิลสตัน (ข้อเท้า) ยังหมดสิทธิ์ คาดว่าเกมนี้อาจจะมีการปรับเล็กน้อย หลุยส์ ซาฮา อาจจะได้กลับมาจับคู่กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในแดนหน้า
   
นอริช ซิตี้ :
นกขมิ้นเหลืองอ่อน ภายใต้การคุมทีมของ พอล แลมเบิร์ต ไล่ตีเสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 ใกล้อยู่รอดอย่างเป็นทางการเต็มทน
เกมนี้คาดว่าจะมีการหมุนเวียนนักเตะแน่ แต่ แอนโธนี่ พิลคิงตัน ปีกที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าอยู่ก่อนยังต้องเช็กฟิต คาดว่าน่าจะได้เล่น เช่นกันกับ ซิโมน แจ็คสัน, แอนดรูว์ ครอฟท์ส และ แซ็ค วิทเบรด ที่ได้พักมาจะกลับมาเป็นตัวจริง อย่างไรก็ตาม  มาร์ค เทียร์นี่ย์ (โคนขาหนีบ) และ ดาเนี่ยล อยาล่า (หัวเข่า) ยังอยู่ระหว่างฟื้นฟูร่างกาย เช่นเดียวกับ เจมส์ วอห์น (หัวเข่า) นอกนั้นทีมมีปัญหาเพิ่มอีกนิดเมื่อ ไคล์ นอห์ตัน ที่ยืมตัวจากสเปอร์สอดลงเล่นตามกฎยืมตัว แนวรุก แกรนท์ โฮลท์ ที่กำลังผลงานดีจะเป็นตัวยืนมี ซิโมน แจ็คสันเป็นคู่ขา
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สเปอร์ส :
(4-4-2) : แบรด ฟรีเดล - ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, ยูเนส กาบุล, เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ - อารอน เลนน่อน, สกอตต์ พาร์เกอร์, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล - หลุยส์ ซาฮา, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
   
นอริช ซิตี้ :
(4-4-2) : จอห์น รัดดี้ - รัสเซล มาร์ติน, เอลเลียตต์ วอร์ด, แซ็ค วิทเบรด, ไรอัน เบนเน็ตต์ - เวส ฮูลาแฮน, เดวิด ฟ็อกซ์, แอนดรูว์ ครอฟท์, แอนโธนี่ พิลคิงตัน -  แกรนท์ โฮลต์, ซิโมน แจ็คสัน

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ไก่เดือยทอง ฟอร์มตื้อๆไประยะหลัง เกมรุกไม่ค่อยต่อเนื่อง นัดนี้ยังต้องคิดถึงเกมดาร์บี้ แมตช์ ภาคพิเศษในเอฟเอ คัพ สุดสัปดาห์ แต่ในลีกก็ต้องเน้นเพื่อพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ต้องส่งตัวหลักเล่นต่อเนื่อง สภาพก็อ่อนล้ามาก นอริช เป็นบอลขยัน บี้ทุกตัว นักเตะก็หมุนเวียนสลับพักได้มากกว่า ไก่เดือยทอง เจองานไม่ง่ายแน่อาจจะได้แค่เฉือน
 

58
นิวคาสเซิ่ล - โบลตัน (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 09 เมษายน 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

นิวคาสเซิ่ล :
สาลิกาดง จากการทำงานของ อลัน พาร์ดิว กำลังไล่ล่าชัยชนะนัดที่ห้าติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก หลังออกไปทุบ สวอนซี 2-0 เมื่อวันศุกร์ รักษาความหวังในการไปลุยแชมเปี้ยนส์ ลีกต่อไป เป็นที่คาดหมายว่า พาร์ดิว คงยึดทีมที่กำลังเล่นได้ดีในเกมล่าสุดเป็นแกนต่อไป นำโดยหัวหอกอันตราย ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ่ ที่กำลังท็อปฟอร์ม หลังเหมาอีกสองลูกกับ สวอนซี ขณะที่ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา พร้อมปั้นเกมรุกให้เช่นเดิมเจมส์ ทาเวอร์เนียร์ เพิ่งที่ถูกเรียกตัวกลับมาจากสัญญายืมตัวที่เอ็มเค ดอนส์ ใน ลีก วัน เพื่อมาเพิ่มทางเลือกในแนวรับจากการที่ ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ (เอ็นหลังหัวเข่า) และ สตีเว่น เทย์เลอร์ (เอ็นร้อยหวาย) ส่วนกองกลาง แดนนี่ กัทธรี (น่อง) ต้องลุ้น ขณะที่ ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส (ต้นขา), ลีออน เบสต์, แซมมี่ อเมโอบี้ (หัวเข่าทั้งคู่) และ ซิลแว็ง มาร์กโวซ์ (โคนขาหนีบ) ยังชวด
   
โบลตัน :
เดอะ ทร็อตเตอร์สภายใต้การนำของกุนซือ โอเว่น คอยล์ ยังต้องดิ้นหนีตายต่อไป หลังจากเมื่อวันเสาร์ โดนเจ้าสัวน้อย บุกยำ 3-0 คาบ้าน  เกรตาร์ สไตน์สสัน แบ็กจอมลุยมีอาการเจ็บหัวเข่า จนได้เป็นแค่สำรองในเกมล่าสุด และลุ้นได้ออกสตาร์ตตั้งแต่นาทีแรก เพื่อเพิ่มความสดให้กับทีม เควิน เดวิส กองหน้ากัปตันทีม, คริส อีเกิ้ลส์ ปีกจอมเลื้อย และ อิวาน คลาสนิช ดาวยิงโครแอต ลุ้นคืนตัวจริง ขณะที่ เกร็กก์ ไวล์ด พร้อมเป็นตัวเลือก หากทางสโมสรจัดการเคลียร์เอกสารเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาได้ทันเวลา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

นิวคาสเซิ่ล :
(4-3-3) : ทิม ครูล - แดนนี่ ซิมพ์สัน, ไมค์ วิลเลียมสัน, เจมส์ เพิร์ช, ดาวิเด้ ซานตอน - ชีค ติโอเต้, โฮนาส กูเตียร์เรซ , โยอัน กาบาย - ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ่, เดมบา บา
   
โบลตัน :
(4-4-1-1) : อดัม บ็อกดาน - เกรตาร์ สไตน์สสัน, เดวิด วีเทอร์, แซ็ต ไนท์, มาร์กอส อลอนโซ่ - คริส อีเกิ้ลส์, ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, ดาร์เรน แพร็ตลี่ย์, มาร์ติน เปตรอฟ - เควิน เดวิส - อิวาน คลาสนิช

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

นิวคาสเซิ่ล กำลังท็อปฟอร์ม แถมได้เล่นในบ้าน จึงเตรียมเปิดเกมลุยใส่ โบลตัน เต็มที่ แนวรับทีมเยือนหลวมมาก ขีดความมั่นใจตกต่ำ เจอ ซิสเซ่ ที่คมสุดๆไม่น่ารอด

59
ฟูแล่ม - เชลซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 09 เมษายน 2555
เวลา : 02:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

ฟูแล่ม :
เจ้าสัวน้อย ของกุนซือ มาร์ติน โยล ทำผลงานสุดยอดในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ออกไปยำ โบลตัน 3-0 มาร์ติน โยล จะต้องอดใช้งาน ไบรอัน รุยซ์ กองหน้าตัวเก่ง หลังจากที่มีอาการกระดูกเท้าหักที่ โบลตัน ส่วนกองกลางจอมเก๋า แดนนี่ เมอร์ฟี่ (ป่วย) ลุ้นคืนทัพ ขณะที่หัวหอก พาเวล โพเกร็บเนี้ยค (ข้อเท้า) และ ออร์ลันโด้ ซา (เอ็นหลังหัวเข่า) ยังต้องรอทดสอบความฟิต ส่วนกองหน้าอีกรายอย่าง แอนดี้ จอห์นสัน วืดแน่ เพราะเจ็บต้นขา เช่นเดียวกับ ซเดเน็ก กรีเกร่า (หัวเข่า), สตีฟ ซิดเวลล์ (ไส้เลื่อน) และ ออร์ลันโด้ ซา (เอ็นหลังหัวเข่า) และ นีล เอเธอริดจ์ (ข้อมือ)
   
เชลซี :
สิงโตน้ำเงินคราม จากการทำงานของกุนซือชั่วคราว โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เพิ่งเปิดบ้านเชือด วีแกน 2-1 รักษาความหวังในการจบท็อปโฟร์เชลซี จะต้องรอทดสอบความฟิตสี่คีย์แมนทั้ง จอห์น เทอร์รี่ (ซี่โครง) กัปตันทีมจอมแกร่ง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด (หัวเข่า) กองกลางประสบการณ์สูง, รามิเรส (ป่วย) มิดฟิลด์แซมบ้า และ แอชลี่ย์ โคล (ข้อเท้า) แบ็กซ้ายจอมลุย ทั้งสี่รายพลาดเกมเมื่อวันเสาร์ โดยเชื่อว่า ในรายของเทอร์รี่คงไม่ถูกเสี่ยงใช้งานแน่ เพราะมีโปรแกรม เอฟเอ คัพ รอบตัดเชือกกับ สเปอร์ส รออยู่ รวมถึงแมตช์ยุโรปกับ บาร์เซโลน่า ดิ มัตเตโอ น่าจะนำระบบหมุนเวียนผู้เล่นมาใช้ โดย จอห์น โอบี มิเคล, รามิเรส รวมถึง เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าค่าตัว 50 ล้านปอนด์ น่าได้ลุยตั้งแต่นาทีแรก หลังไม่ได้เป็นตัวจริงในนัดล่าสุด

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ฟูแล่ม :
(4-4-1-1) : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - สตีเฟ่น เคลลี่, อารอน ฮิวจ์ส, เบรเด้ ฮันเกลันด์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ - เดเมี่ยน ดัฟฟ์, มาฮามาดู ดิยาร์ร่า, แดนนี่ เมอร์ฟี่, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ - มูสซ่า เดมเบเล่ - พาเวล โพเกร็บเนี้ยค
   
เชลซี :
(4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์, แอชลี่ย์ โคล - จอห์น โอบี มิเคล, โอริโอล โรเมอู - แดเนียล สเตอร์ริดจ์, ราอูล เมยเรเลส, รามิเรส - เฟร์นานโด ตอร์เรส

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

ถือเป็นง่ายไม่ง่ายของ เชลซี แม้พักหลังผลงานดีขึ้น แต่นี่คือดาร์บี้แมตช์ที่ ฟูแล่ม จะใส่เต็มเหนี่ยวกับทีมที่อยู่ห่างกันไม่กี่ป้ายรถเมล์ เจ้าสัวน้อย พอหวังได้ในบ้าน ขณะที่ทีมเยือนยังมีอาการฝืดๆล้าๆไม่ไหลลื่น เชื่อว่าเด็กๆของ เฮียโยล คงเอาอยู่

60
แบล็คเบิร์น - แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 02 เมษายน 2555
เวลา : 02:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

เปรียบเทียบความพร้อมของทีม

แบล็คเบิร์น :
กุหลาบไฟ ภายใต้การนำของกุนซือหนุ่ม สตีฟ คีน ยังต้องดิ้นสุดตัวเพื่อหนีห่างจากโซนแดงให้ไกลที่สุด หลังจากที่สัปดาห์ก่อนออกไปโดนโบลตัน อริร่วมแคว้น แลงคาเชียร์ สอย 2-1 สำหรับความพร้อมก่อนเกมมันเดย์ไนท์ที่ อีวู้ด พาร์ค คืนวันจันทร์นี้ คีน ยังลุ้นแค่ให้ กาแอล ชิเว่ต์ กองหลังชาวฝรั่งเศสพร้อมช่วยทีมแค่คนเดียว ชิเว่ต์ ได้รับบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเล็กน้อย ระหว่างการอบอุ่นร่างกายของเกมที่เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ ต้นเดือนมีนาคม และการตอบสนองต่อการรักษาช้ากว่าที่ควรจะเป็น คีน ตัดสินใจใช้ทีมหน้าเดิมๆ ติดต่อกันมาสามเกมแล้วในนัดที่ชนะ ซันเดอร์แลนด์, วูล์ฟส์ และเจอ โบลตัน ซึ่งคาดว่า กุนซือชาวสกอตติช คงไม่เปลี่ยนแปลงอะไร โดย คู่ฝาแฝดอย่าง มาร์ติน โอลส์สัน และ มาร์คัส โอลส์สัน จะประสานงานทางกราบซ้าย ส่วนแนวรุกมี จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ ประสานงานกับ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
ปีศาจแดง จ่าฝูงของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือมือเก๋า หวังเก็บชัยชนะเพื่อหนี แมนฯ ซิตี้ อริร่วมเมืองที่สะดุดเมื่อวันเสาร์ หลังจากที่สัปดาห์ก่อนชนะ ฟูแล่ม หวุดหวิด 1-0 มีข่าวดีเมื่อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังแข้งพันล้าน ฟิตพร้อมใช้ประสบการณ์ช่วยทีมทำศึกดาร์บี้ท้องถิ่นที่ อีวู้ด พาร์ค หลังจากที่มีอาการเจ็บหลังระหว่างเกมกับ ฟูแล่ม จนโดนเปลี่ยนตัวออก

อย่างไรก็ตาม ในรายของปีก หลุยส์ นานี่ (ข้อเท้า) ยังเจ็บอยู่ เช่นเดียวกับพวกที่ลาป่วยยาวทั้ง หลุยส์ นานี่ (ข้อเท้า), อันแดร์สัน (หัวเข่า), มือกาว อันเดอร์ส ลินเดการ์ด (ข้อเท้า), ศูนย์หน้า ไมเคิ่ล โอเว่น (ต้นขา), กัปตันทีม เนมานย่า วิดิช และมิดฟิลด์ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 
นอกเหนือไปจากนั้น ถือว่าพร้อมสมบูรณ์ โดย เฟอร์กูสัน น่าจะยึดทีมที่ชนะในนัดล่าสุดเป็นแกนหลัก ซึ่งมี แอชลี่ย์ ยัง กับดาวเด่นที่กำลังท็อปฟอร์มอย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลากเลื้อยป้อนให้ดาวยิง เวย์น รูนี่ย์ ที่จะจับคู่ล่าตาข่ายกับ แดนนี่ เวลเบ็ค
แต่อาจมีปรับตรงกลางโดยให้ พอล สโคลส์ ที่ไม่ได้เป็นตัวจริงในนัดล่าสุดสลับลงแทน ไรอัน กิ๊กส์ เพื่อนซี้
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แบล็คเบิร์น :
(4-4-1-1) : พอล โรบินสัน - เจสัน โลว์, แกร้นท์ แฮนลี่ย์, สกอตต์ แดนน์, มาร์ติน โอลส์สัน - เมาโร ฟอร์มิก้า, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, มอร์เตน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น, มาร์คุส โอลส์สัน - จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ - ยาคูบู ไอเย็กเบนี่   
   
แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-4-2) : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, แอชลี่ย์ ยัง - เวย์น รูนี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็ค

วิจารณ์เกมการแข่งขัน

แมนฯ ยู ดูเหมือนจะเล่นแบบเน้นผลการแข่งขันมากขึ้น เอาความแน่นอนไว้ก่อน เจอทีมแบล็คเบิร์น แม้จะดูเหนือกว่าเยอะ แต่มองว่าไม่ง่ายเช่นกัน เพราะเจ้าถิ่นยังต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น และระยะหลังเกมในบ้านก็ดีขึ้นมาก บวกกับ ปีศาจแดง มาเยือนที่อีวู้ด พาร์ค หืดจับตลอด แต่ดูแล้วลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ จะบุกมาชนะได้ แต่สกอร์ไม่น่าขาด

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 114