แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - Newsman

หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 37
106

       ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของการรับงานคุมทีมเชลซีหรือเปล่านะงานนี้สำหรับการไปปรากฏตัวที่กรุงลอนดอนของทางด้าน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตนายใหญ่ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลที่มีการลือออกมาในช่วงนี้

       ทั้งนี้มีรายงานออกมาว่า ร็อดเจอร์ส ที่โดนหงส์แดงตะเพิดพ้นจากตำแหน่งไปเมื่อราวสองเดือนก่อน ได้เดินทางไปที่กรุงลอนดอน  และมีคนจับภาพได้ขณะที่เจ้าตัวนั่งอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงลอนดอนด้วย จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าเจ้าตัวจะเข้าไปคุยกับบอร์ดบริหารสโมสรเชลซีเพื่อรับงานคุมทีมต่อจาก โจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่ชาวโปรตุกีสที่พาทีมทำผลงานได้แย่สุดๆในซีซั่นนี้

       อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะไปปรากฏตัวในลอนดอนก่อนหน้านี้ก็มีการลือกันออกมาจากสื่อต่างๆ บ้างแล้วเหมือนกันว่า ทางเชลซีมีแพลนที่จะให้ร็อดเจอร์สรับงานคุมทีมชั่วคราว ไปจนจบซีซั่นก่อนที่พวกเขาจะไปดึงเอา ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายใหญ่ทีมตราหมีมารับงานกุนซือตัวจริงหลังจบซีซั่นนี้ หากว่าพวกเขาตัดสินใจเด้ง โจเซ่ มูริญโญ่ ลงจากตำแหน่ง

       กระนั้นก็เป็นไปได้เช่นเดียวกันว่าการเดินทางไปลอนดอนของ ร็อดเจอร์ส ครั้งนี้จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับทีม เชลซี เพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีสื่อใดกล้าออกมาชี้ชัดซะทีเดียวว่า ร็อดเจอร์ส เตรียมเข้าคุยกับทีมเชลซีจริงมีแต่เพียงการคาดการณ์กันเท่านั้น

       สำหรับ ร็อดเจอร์ส กับ เชลซี ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ด้วยว่าตัวของร็อดเจอร์สนั้นเคยทำงานให้กับทีมเยาวชนของเชลซีเมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่จะเจ้าตัวจะขึ้นเป็นกุนซือใหญ่เต็มตัวและไปโด่งดังสร้างชื่อกับการทำทีม สวอนซี ซิตี้ ต่อด้วยการย้ายมารับงานคุมทีมใหญ่อย่าง หงส์แดง และประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่สองเมื่อสามารถพาทีมลิเวอร์พูลจบอันดับที่สองของลีกได้

107

       ยังคงคอนเซ็ปป์ช้าๆได้พล้าเล่มงามเหมือนเดิม สำหรับทางด้านของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเครางามของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ยอดทีมขวัญใจมหาชนแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะแม้ว่าในเกมลีกสัปดาห์ล่าสุดจะโชว์ฟอร์มเทพด้วยการบุกไปยัดเหยียดความปราชัยให้กับทีมแชมป์เก่า เชลซี ถึงถิ่น 3-1 แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าเป็นอะไรที่เร็วเกินไปหากจะพูดถึงการลุ้นแชมป์ของหงส์แดงในซีซั่นนี้ตามกระแสที่ออกมาหลังเกมการแข่งขัน

       ทั้งนี้หงส์แดงในเกมดังกล่าวก่อนเกมพวกเขามีสภาพทีมที่ไม่พร้อมนัก โดยขาดนักเตะตัวหลักหลายรายที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บ ทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมตัวจริง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าตัวเก่ง แดนนี่ อิงส์, โจ โกเมซ แม้แต่ในรายของ คริสเตยอง เบนเทเก้ ก็ยังไม่ฟิตสมบูรณ์พอที่จะลงเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง

       แต่ทว่าด้วยแท็คติกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ยังอุตส่าห์พาหงส์แดงคว้าชัยชนะกลับออกมาอย่างสวยสดงดงาม ทั้งที่โดนเจ้าบ้านยิงนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกมด้วย

       อย่างไรก็ตามหลังเกมการแข่งขัน คล็อปป์ ออกมากล่าวว่าสมควรแล้วที่ลูกทีมของตนเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะเหนือเจ้าถิ่น แต่ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องโอกาสลุ้นแชมป์ของหงส์แดงเวลานี้ โดยคล็อปป์กล่าวกับสื่อว่ามันเป็นชัยชนะที่คู่ควรสำหรับพวกเราแล้ว เกมนี้ตึงเครียดพอสมควร เพราะทั้งสองทีมต่างก็ต้องการชัยชนะด้วยกันทั้งคู่

       เราเริ่มต้นเกมกันได้ไม่ค่อยดีนะ (เสียประตูไปก่อน) แต่ว่าเราก็พยายามเล่นฟุตบอลในแบบฉบับของพวกเรา ผมคิดว่ามันต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างนะ แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ไปได้สวยเลย แต่เรื่องการลุ้นแชมป์นั้นมันเป็นอะไรที่บ้าไป ถ้าหากเราชนะที่บ้านของทีมเชลซีได้นัดเดียวแค่นั้นแล้วเรามาพูดกันเรื่องลุ้นแชมป์มันยังไม่ใช่ การเริ่มต้นของผมที่ลิเวอร์พูลยังผ่านไปแค่สามสัปดาห์เอง ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นแน่นอน

108

       ก็ไม่รู้เหมือนกันงานนี้ทางด้าน เชราร์ อุลลิเยร์ อดีตกุนซือทีมหงส์แดงเกิดนึกเป็นห่วงอะไรทีมขึ้นมา จู่ๆถึงได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นในเชิงตำหนินโยบายการซื้อผู้เล่นหงส์แดงในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ช่วงที่ขาย หลุยส์ ซัวเรซ ไปให้กับ บาร์เซโลน่า เมื่อซัมเมอร์ปี 2014

       ทั้งนี้ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ถือเป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนทีมครั้งใหญ่ของหงส์แดง เพราะพวกเขาต้องเสีย หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้ากำลังสำคัญของทีมไปให้กับบาร์ซ่า

       เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และ เอฟเอสจี เลือกใช้วิธีการกว้านซื้อผู้เล่นเกรด b ลงไปถึง c หลายๆรายเข้าทีมมา โดยหวังว่าจะสามารถทดแทนกองหน้าทีมชาติอุรุกวัยได้ ว่ากันง่ายๆคือเป็นการตัดสินใจเอาเรื่องของปริมาณเข้ามาแทนคุณภาพนั่นเอง ทว่าผลงานของนักเตะที่หงส์แดงดึงเข้ามาส่วนใหญ่กลับไม่ดีเอาซะเลย การกว้านซื้อผู้เล่นครั้งนั้นของหงส์แดงเพื่อหวังจะชดเชยการขาดหายไปของซัวเรซจึงโดนวิจารณ์ในด้านลบยับเยินเลย โดยผลงานของทีมก็ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่จบอันดับ 7 คว้าโควตาฟุตบอลถ้วยยุโรปใบเล็กเท่านั้น

       อย่างไรก็ตาม อุลลิเยร์ ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่าถ้าคุณพิจารณาไปที่การเสริมทัพของลิเวอร์พูลคุณจะเห็นได้เลยว่ามันเป็นอะไรที่ผิดพลาดอย่างมาก พวกเขาเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่มากมายไปเพื่ออะไร? สิ่งที่คุณต้องทำจริงๆคือการเซ็นสัญญากับนักเตะที่เหมาะสมกับทีมของคุณเท่านั้น เช่นเดียวกับการพยายามเก็บรักษานักเตะคนสำคัญเอาไว้กับทีมต่อไป

       ใช่พวกเขาเสียซัวเรซไป แล้วสิ่งที่พวกเขาทำก็คือการดึงเอานักเตะแนวรุกเข้ามามากมาย เอากองหน้าอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่, ริคกี้ แลมเบิร์ต เข้ามา แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้ช่วยทดแทนผลงานของซัวเรซได้เลย และสุดท้ายก็ถูกปล่อยออกจากทีมไป (ในรายของแลมเบิร์ตถูกขายไปให้กับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ส่วนบาโลเตลลี่นั้นถูกปล่อยให้ต้นสังกัดเก่า เอซี มิลานยืมตัวไปใช้งานในซีซั่นนี้)

109

       ต้องบอกว่าเข้าตำรานั่งจนเบื่อ! อีกรายแล้วสำหรับทางด้านของ เคซึเกะ ฮอนดะ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งทีมชาติญี่ปุ่นของสโมสรปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่ใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เพราะล่าสุดมีรายงานข่าวออกมาแล้วว่านักเตะกำลังแพลนที่จะย้ายหนีทีมดังแห่งเมืองมิลานในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเปิดหน้าหนาวนี้ หลังต้องทนนั่งเป็นสำรองให้กับทีมมาตลอดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล

       ทั้งนี้มีรายงานอ้างอิงข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากสื่อรายนึงออกมาว่า เอเย่นต์ของฮอนดะเปิดเผยเองว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่นักเตะในความดูแลของตนเองจะย้ายออกจากมิลานในตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองนี้เพื่อหาโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ

       ส่วนเรื่องของทีมที่แสดงความสนใจในตัวเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติญี่ปุ่นรายนี้ ณ ตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่คึกคักมาทีเดียว เพราะบรรดาทีมจาก พรีเมียร์ลีก ต่างตกเป็นข่าวมากมาย ทั้ง ท็อตแน่ม ฮอค สเปอร์ส, เอฟเวอร์ตัน และล่าสุดเป็นเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมฟอร์มแรงที่รั้งอันดับรองจ่าฝูงในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเวลานี้

       สำหรับสนนราคาค่าตัวหาก ฮอนดะ ย้ายทีมจริงคาดว่าจะอยู่ที่ราว 5 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นราคาที่ทีมขนาดกลางอย่างเวสต์แฮม ยูไนเต็ดพอจะจ่ายเพื่อสู้กับทีมใหญ่ๆได้ ดังนั้นหากว่าดีลนี้สำเร็จจริงก็จะถือว่าเวสต์แฮม ยูไนเต็ดจะเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าดูน่าชมในซีซั่นนี้มากๆ ว่ากันง่ายๆคือการที่พวกเขาฟอร์มยอดเยี่ยมในช่วงออกสตาร์ทซีซั่น

       ประกอบกับการได้นักเตะเก่งๆในแนวรุก อย่างฮอนดะเข้ามาเสริมทีมในช่วงเวลาที่เหมาะสม มันอาจถึงขั้นทำให้พวกเขาได้ลุ้นแย่งพื้นที่โควต้าฟุตบอลยุโรป แย่งกับบรรดาบิ๊กทีมได้แบบเต็มตัวเลยก็เป็นได้

       สำหรับฮอนดะนั้นเป็นนักเตะที่มีจุดเด่นในเรื่องของการจ่ายบอล การสร้างสรรค์เกม และการทำประตู แต่ขณะเดียวกันก็มีความแข็งแกร่งของร่างกาย เรียกว่าเป็นนักเตะที่รูปร่างไม่ได้สูงใหญ่แต่เข้าปะทะได้ดี ฉะนั้นการเล่นในพรีเมียร์ที่มีความเร็ว และหนักของเกมไม่น่าจะเป็นปัญหาในการปรับตัวของนักเตะ

110

       หลังจากผ่านพ้นโปรแกรมการแข่งขันสัปดาห์ที่ 10 ของศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกยอดนิยมอันดับหนึ่งของโลกไปเรียบร้อยแล้ว หนึ่งประเด็นที่น่าสนใจมากๆเลยคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นเรื่องราวอนาคตของกุนซือเดอะ สเปเชี่ยล วัน “โจเซ่ มูริญโญ่” เพราะผลงานที่ออกมานั้นถ้าพูดกันแบบไม่โกหกตัวเอง ต้องยอมรับตามตรงว่าเชลซีในซีซั่นนี้เล่นได้ต่ำว่ามาตรฐานมากถึงมากที่สุดเลย โดย 10 เกมที่ผ่านพ้นไปพวกเขาแพ้ไปแล้วถึง 5 เกมด้วยกัน

       ทั้งยังเสียประตูไปมากมาย กระทั่งผลต่างประตูได้เสียเวลานี้ติดลบไปแล้วถึง 4 ประตู มีเพียง 5 ทีมที่อยู่อันดับต่ำกว่าพวกเขาทั้งหมดเท่านั้นที่มีผลต่างประตูได้เสียแย่กว่าพวกเขา นอกนั้นไล่จากอันดับเหนือพวกเขาขึ้นมาถึงอันดับจ่าฝูง ต่างมีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าทั้งสิ้น ระหว่างนี้จึงถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตั้งคำถามมากๆว่า มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่นายใหญ่ของทีมอย่าง โจเซ่ มูริญโญ่ จะต้องอำลาทีม หรือจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ให้โอกาสกุนซือชื่อดังรายอื่นที่เชลซีมองว่าเหมาะสมเข้ามาแทนที่

       เฉกเช่นที่ทีมอย่าง ซันเดอร์แลนด์ และ ลิเวอร์พูล ทำไปแล้วก่อนหน้านี้ด้วยเด้ง ดิก อัตโวคาต และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ออกจากตำแหน่งไปในเวลาใกล้เคียงกัน ตามลำดับ

        สำหรับเชลซีในซีซั่นนี้แน่นอนแล้วว่าพวกเขาพลาดเป้าหมายการลุ้นป้องกันแชมป์ลีกไปแล้ว เพราะอันดับตารางคะแนนในเวลานี้ ประกอบกับจำนวนนัดที่ผ่านพ้นไป จำนวนแต้มที่พวกเขาเก็บได้

       รวมถึงความข้นในการแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูงของทีมในกลุ่มหัวบนตารางคะแนนอย่าง อาร์เซน่อล แมนฯซิตี้ และแมนฯยูไนเต็ด ดูเป็นเรื่องหนักหาสาหัสสากันมากที่เชลซีจะพาตัวเองพุ่งกลับเข้าไปสอดแทรกอยู่ในกลุ่มนั้น แต่กับการคว้าอันดับท็อปโฟร์เพื่อโควต้าไปลุย แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้านั้นยังไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพวกเขาจะต้องพยายามทำให้ได้ เหตุเพราะการพลาดได้สิทธิ์เล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปใบใหญ่นั้นหมายถึงความเสียหายที่สโมสรยากจะยอมรับได้

111


       งานนี้คงทำเอาสื่อไม่กล้าเขียนข่าวเรื่องอนาคตของ ลิโอเนล เมสซี่ ไปสักพักใหญ่ๆเลยทีเดียว สำหรับการออกมากล่าวแสดงความเห็นในเชิงโจมตีสื่อจาก โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว บิ๊กบอสของสโมสรอาซูกราน่า บาร์เซน่อล ยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลันต้นสังกัดของแข้งเทพอาร์เจนไตน์

       ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่าน มาลิโอเนล เมสซี่ มีประเด็นฉาวเรื่องเลี่ยงภาษีจนโดนสอบย้อนหลัง และมีคำสั่งจากให้จ่ายคืนภาษี ประเด็นนี้ว่ากันว่าเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจของเมสซี่อยู่พอสมควร สื่อจึงพากันลือไปว่านักเตะกำลังเบื่อการลงเล่นฟุตบอลในสเปนเต็มทีแล้ว และน่าจะกำลังมองหาทางย้ายไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งลีกใหญ่ที่มีหลายทีมใหญ่พร้อมอ้าแขนรับเจ้าตัว อาทิเช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี เป็นต้น

       อย่างไรก็ตาม โจเซป บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลน่าออกมาตอบโต้ข่าวด้วยอารมรณ์ที่ฉุนเฉียวว่าคนที่เขียนข่าวว่าเมสซี่ของเราต้องการจะย้ายออกจากทีมน่ะ สมควรแล้วนะที่จะต้องละอายแก่ใจตัวเอง เวลานี้เขากำลังเตรียมตัวที่จะหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาเพื่อเล่นเกมเอลกลาซิโก้พบกับ เรอัล มาดริด นั่นคือเป้าหมายตอนนี้ของเขา

       แต่ยังไงซะการฟื้นร่างกายจากอาการบาดเจ็บมันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปตามขั้นตอน เลโอเขาพูดกับคุณพ่อของเขาเสมอว่าเขาไม่อาจจิตนาการภาพตัวเองในการลงเล่นให้ทีมอื่นได้เลยนอกจากบาร์ซ่า เราสนิทกับครอบครัวเราจึงมีการพูดคุยกันอยู่เสมอ

       สำหรับเรื่องการพูดคุยสัญญาใหม่กับเขานั้น เวลานี้มันยังไม่ใช่เวลา แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราจะเปิดใจคุยกันทันที สัญญาปัจจุบันของเขายังเหลืออยู่อีก 3 ปี สำหรับเรื่องภาษีเลโอเขาไม่แฮปปี้เลย มันดูไม่แฟร์กับการเปิดเผยข้อมูลของเขา มันดูมีอะไรผิดปกติ หากมันเป็นความผิดพลาดจากที่ปรึกษาด้านของกฎหมายของเขา เขาก็ต้องชดใช้เหมือนกับเคสอื่นๆนั่นแหละ ผมว่าเราต้องให้ความเคารพเขานะ

112

       ต้องถือว่าเป็นการออกมากล่าวแสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจมากทีเดียว ในส่วนของ หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ทีมปีศาจแดงที่ได้พูดถึงความหนักของโปรแกรมการแข่งขันลีกอังกฤษที่ดูจะสาหัสสากันกว่าลีกชั้นนำอื่นๆในยุโรปอยู่พอสมควร ทั้งในช่วงที่ลีกอื่นๆพากันพักอย่างช่วงคริสต์มาสลีกอังกฤษก็ดันไม่พัก แถมยังมีโปรแกรมให้ทีมต่างๆได้ลงเล่นถี่กว่าปกติซะอีก

       ทั้งนี้ ฟาน กัล ที่เข้ามาทำงานใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปีนี้เป็นปีที่สองมองว่า สิ่งดังกล่าวเหล่านี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษเสียเปรียบทีมจากลีกอื่นๆเวลาแข่งขันในรายการยุโรปทั้งถ้วยใบเล็ก ยูโรป้า ลีก และถ้วยใหญ่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

       ดังนั้นจึงยากเหลือเกินที่ทีมจากอังกฤษจะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาครองได้ เช่นเดียวกันกับทีมชาติก็ส่งผลกระทับให้ทีมชาติอังกฤษ ไม่อาจประสบความสำเร็จเวลาเข้าร่วมแข่งขันในรายการใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลยูโร และฟุตบอลโลก เพราะนักเตะอังกฤษส่วนใหญ่แล้วก็ค้าแข้งกันอยู่ในประเทศของตัวเอง

       ฟาน กัล กล่าวว่าส่วนตัวผมว่าการที่ไม่มีช่วงระยะเวลาพักเบรกหนีหนาวเหมือนกับลีกอื่นๆมันคือสิ่งที่เลวร้ายมากๆ นั่นมันไม่เป็นผลดีกับวงการฟุตบอลอังกฤษแน่นอน หมายถึงทั้งกับทีมชาติแล้วก็สโมสรด้วย มันน่าจะถึงเวลาที่อังกฤษจะต้องเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้แล้ว อังกฤษไม่ประสบความสำเร็จในรายการสำคัญๆมานานแล้วเหตุผลก็เพราะนักเตะอังกฤษนั้นพละกำลังหมดในช่วงท้ายๆของซีซั่น

       ทุกอย่างมันเป็นไปได้เสมอแหละ (การพายูไนเต็ดคว้าทั้งแชมป์ลีก และแชมป์ยุโรป) ผมก็เคยทำมันตอนที่คุมอาแจ็กซ์มาแล้ว แต่ผมก็เคยพลาดตอนคุมบาเยิร์นที่ได้แชมป์ลีก ทว่ากลับไปแพ้ในเกมนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

       อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องยากเพราะแต่ละทีมในอังกฤษสู้กันได้อย่างสูสี การจะเก็บชัยชนะในแต่ละเกมนั้นไม่ง่ายเลย ฉะนั้นพอเจอการต่อสู้ที่เข้มข้นในลีกแล้วยังต้องไปสู้ต่อในรายการยุโรปอีกมันจึงยากเข้าไปใหญ่ที่ทีมจากอังกฤษจะไปประกาศศักดาความเป็นเจ้ายุโรป

113

       ต้องบอกว่ายังคงเชื่อมั่นใจคุณภาพของลูกทีมอยู่แม้ว่าสองเกมแรกจะยังหาชัยชนะไม่เจอก็ตามสำหรับทางด้านของกุนซือเครางามของทีมหงส์แดง “เจอร์เก้น คล็อปป์” เมื่อล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมากล่าวยืนยันเองว่าไม่ได้เป็นกังวลอะไรเลยเกี่ยวกับคุณภาพของลูกทีม ถึงจะเริ่มต้นในสองเกมแรกแบบหาชัยชนะยังไม่เจอก็เถอะ

       ทั้งนี้หงส์แดงภายใต้การนำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ สองเกมแรก พวกเขาทำได้แค่เสมอกับคู่แข่ง  โดยเกมแรกนั้นเป็นการเสมอในลีกกับทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส แบบไร้สกอร์ ส่วนเกมที่สองเป็นการเปิดรังแอนฟิลด์เสมอกับ รูบิน คาซาน ทีมจากรัสเซีย 1-1 ในศึก ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สาม

       อย่างไรก็ตามทั้งสองเกมถือว่าหงส์แดงมีสภาพทีมที่ไม่พร้อมเต็มที่ เมื่อนักเตะตัวหลักๆในเกมรุกไม่สามารถลงสนามให้กับทีมได้ โดยกองหน้านั้นต้องใช้บริการของดาวรุ่งอย่าง ดีว็อค โอริกี้ ลงเป็นตัวจริงทั้งสองเกม เกมแรกนั้นต้องยืนเป็นหลักในแดนหน้าแบบเต็มเกม 90 นาทีเลย ส่วนในเกมที่พบ รูบิน คาซาน ยังดีหน่อยตรงที่ คริสเตยอง เบนเทเก้ และ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ กลับมาสแตนบายเป็นตัวสำรองได้ กระแสวิจารณ์โดยรวมที่มีต่อผลงานการออกสตาร์ทของคล็อปป์จึงไม่เป็นไปในด้านลบสักเท่าไหร่

       เจอร์เก้น คล็อปป์ กล่าวถึงตนเอง และลูกทีมหงส์แดงว่าผมยังคงเชื่อมั่นใจคุณภาพนักเตะที่ผมมี มันยากนะถ้าจะเอาผลงานในการทำ ดอร์ทมุนด์ กับ ลิเวอร์พูล มาเปรียบกัน ผมคิดว่ามันเป็นสองที่ที่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างนั้นตอนผมทำดอร์ทมุนด์ผมก็พาทีมเสมอในซีซั่นแรกไปถึง 15 เกมเลย

       ตอนนี้ปัญหาของทีมคือผมมองเห็นความกดดันที่มีในตัวนักเตะ เราพลาดโอกาสในการจบสกอร์ไปมากเลย แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก บางครั้งเราต้องการการตัดสินใจที่ถูกต้อง ถูกที่ ถูกเวลาน่ะ ศักยภาพในการสร้างสรรค์เกม การยิงประตูนักเตะของผมมีอยู่แล้ว ฉะนั้นเราแก้ปัญหาได้แน่นอน

114

       ไม่รู้เหมือนกันว่าช่วงนี้ทางด้านของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือลายครามมีเวลาว่างมาก หรือว่ายังไง เพราะหลังจากที่กล่าวในเชิงเหน็บๆหงส์แดงที่แต่งตั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือคนใหม่แทนที่ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่โดนตะเพิดออกไปไม่นาน ล่าสุดก็มากล่าวในเชิงเหน็บแมนฯซิตี้ ทีมมหาเศรษฐีแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ที่กำลังตกเป็นข่าวลือคึกโครมว่ากำลังจะแต่งตั้ง โจเซ่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ทีมเสือใต้มานั่งแท่นผู้จัดการทีมแทน มานูเอล เปเยกรินี่ ในซีซั่นหน้า

       ทั้งนี้ เร้ดแน็ปป์ เคยกล่าวแสดงความเห็นชนิดขัดใจคนหมู่มากว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือฝีมือดีก็จริง แต่การรับงานคุมทีมหงส์แดงก็ไม่ได้ดูเป็นงานที่จะท้าทายความสามารถอะไร เพราะสำหรับเป้าหมายการจบท็อปโฟร์นั้น ถือเป็นเรื่องที่เป็นปกติอยู่แล้วของทีมใหญ่ระดับหงส์แดง

       ดังนั้นถ้า คล็อปป์ ทำสำเร็จตนก็ไม่เห็นว่ามันจะน่าชื่นชมตรงไหน ดูจะเป็นเรื่องที่เสมอตัวมากกว่า งานที่ท้าทายและอาจเหมาะจะพิสูจน์ฝีมือน่าจะเป็นงานคุมทีมเล็กๆ ที่ศักยภาพผู้เล่นย่ำแย่อย่าง ซันเดอร์แลนด์ แล้วพาพวกเขาหนีตกชั้นมากกว่า

       ส่วนล่าสุดนี้ตามที่ได้กล่าวเกริ่นนำไปเจ้าตัวกล่าวแสดงความเป็นเหตุเป็นผลออกมาในทำนองเดียวกัน โดยพาดพิงไปที่ทีมแมนฯซิตี้กับกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุณต้องเข้าใจก่อนนะว่าในโลกของฟุตบอลหากเปรียบเป็นการแข่งม้า

       มันก็เหมือนกับนักเตะคือม้า กุนซือคือจ็อกกี้ แน่นอนม้าย่อมสำคัญกว่าจ็อกกี้ ผมยกตัวอย่างนะคุณดูทีมแมนฯซิตี้ ต่อให้เป็นใครมาคุมทีมด้วยผู้เล่นระดับนั้นยังไงก็ต้องมีลุ้นแชมป์อยู่แล้ว ถ้าทำซิตี้แล้วไม่มีลุ้นแชมป์ผมก็ว่ากุนซือคนนั้นต้องงี่เง่าเต็มทีแล้วล่ะ

       อย่าคิดว่าผมมีมุมมองที่ไม่ดีต่อเป๊ปนะ ผมรักเขา เขาคือกุนซือที่ดีคนนึง แต่ถ้าหากเขาไปคุมทีมอย่าง วัตฟอร์ด หรือ ซันเดอร์แลนด์ ล่ะ? คุณว่าเขาจะพาทีมจบท็อป 6 ได้มั้ยล่ะ แน่นอนว่าไม่ได้หรอกเพราะคุณภาพผู้เล่นของทีมเหล่านี้มันเพียงพอที่จะอยู่ใน 6 อันดับหากเรานับจากท้ายตารางขึ้นมาเท่านั้น

115

       แม้ว่าการเด้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมหงส์แดง และแต่งตั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตนายใหญ่ทีมเสือเหลืองขึ้นมาทำหน้าที่แทนจะถูกอกถูกใจแฟนบอลเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับเพื่อนร่วมกุนซือแล้วต้องบอกว่าเป็นอะไรที่สร้างความเซ็งให้ไม่น้อยเลย เพราะ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นั้นถือเป็นหนึ่งกุนซือฝีมือดีที่เพื่อนร่วมอาชีพหลายคนชื่นชอบ และมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

       โดยในตอนที่มีการประกาศแยกทางกันนั้น กุนซือของทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล อย่าง อาแซน เวนเกอร์ ก็ได้ออกมากล่าวเผยความรู้สึกในทำนองว่าช็อกกับการที่ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจแบบนี้

       ล่าสุดก็เป็นในรายของ โจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่ทีมเชลซี อีกหนึ่งทีมดังใน พรีเมียร์ลีก ที่ได้ออกมาเผยว่าตัวเขานั้นรู้สึกเซ็งที่ได้เห็นการแยกทางกันระหว่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กับ ลิเวอร์พูล

       มูริญโญ่ กล่าวว่า สำหรับเจอร์เก้น คล็อปป์แล้วผมคงไม่พูดอะไรถึงเขามากมายหรอกนะ ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขามันโอเคดี และการที่เขามาทำแทนที่ร็อดเจอร์สก็ไม่ได้ทำให้มิตรภาพของเราเปลี่ยนแปลงไปหรอก แต่ผมเสียใจจริงๆที่ร็อดเจอร์สตกงาน ที่แย่กว่านั้นคือหลายคนกลับมีความสุขที่เห็นเขาตกงาน (น่าจะหมายถึงแฟนบอลของทีมลิเวอร์พูล) ผมไม่ชอบเอาซะเลยกับการที่บางคนรู้สึกตื่นเต้นกับการที่ผู้จัดการทีมคนใหม่จะเข้ามา

       ผมไม่ชอบที่นักเตะบางคนบอกว่าเอาล่ะเราจะต้องทุ่มเทพิสูจน์ผลงานผู้จัดการทีมคนใหม่ได้เห็น นั่นคือสิ่งที่เขาควรทำให้ตอนที่ ร็อดเจอร์ส อยู่ไม่ใช่เมื่อเขาออกไปแล้ว และทำให้กับคนใหม่ที่เข้ามา (สำหรับ โจเซ่ มูริญโญ่ ในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นอีกหนึ่งกุนซือตัวเต็งที่ถูกคาดหมายว่าจะโดนปลดลงจากตำแหน่ง เพราะมีผลงานในช่วงออกสตาร์ทซีซั่นที่ย่ำแย่ โดยตอนนี้เกมในลีกแข่งไปแล้วถึง 9 เกม แต่เขากลับมาลูกทีมสิงห์บลูเก็บแต้มได้เพียงแค่ 11 แต้มเท่านั้น รั้งอยู่อันดับที่ 12 ของตารางคะแนน แถมประตูได้เสียยังติดลบไปถึง 3 ประตู)

116

       เรียกได้ว่ามีการแอบปะทะคารมกันเล็กๆก่อนเกมดาบี้แมทแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ สำหรับสองกุนซือของสองทีมสุดยิ่งใหญ่แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ของ ปีศาจแดง และ มานูเอล เปเยกรินี่ ของแมนฯซิตี้

       ทั้งนี้ก่อนเกมยุโรปกลางสัปดาห์ และต่อด้วยเกมดาบี้แมทที่ทั้งสองทีมจะพบกับสุดสัปดาห์นี้ (วันอาทิตย์) หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ของทีมปีศาจแดงออกมาเปิดหัวว่าทีมของกุนซือ มานูเอล เปเยกรินี่ ที่เตรียมจะยกพลมาเยือนโอลแทรฟฟอร์ดในวันอาทิตย์จะมีความได้เปรียบทีมตนเอง แม้ว่าทีมของตนจะได้เป็นฝ่ายเล่นในบ้านก็ตาม

       เหตุเพราะเกมยุโรปกลางสัปดาห์ทีมของตนเองจะต้องมีคิวเดินทางไปไกลถึงรัสเซียเพื่อไปเยือน ซีเอสเคเอ มอสโค ตามโปรแกรมการแข่งขันแมทที่สามของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่ลูกทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ จะได้เล่นในบ้านไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปไหน โดยรับการมาเยือนของ เซบีญ่า ทีมจากสเปน

       อย่างไรก็ตาม มานูเอล เปเยกรินี่ ออกมาโต้กลับทันควันว่าสิ่งที่ หลุยส์ ฟาน กัล พูดออกมานั้นไม่ถูกต้อง และตัวเขาก็ไม่คิดลูกทีมซิตี้ของตนจะได้เปรียบเทียบทีมปีศาจแดงเลย

       เปเยกรินี่ อธิบายถึงสถานการณ์ก่อนเกมดาบี้แมทเมืองแมนเชสเตอร์ว่าผมไม่คิดว่ามันจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบกันหรอก เพราะถึงคุณจะต้องมีโปรแกรมไปเยือนไกล แต่เมื่อกลับมาคุณก็ยังมีเวลาพักเหลือเฟือเลย วันพุธถึงวันอาทิตย์น่ะ สำหรับเราแล้วตอนนี้เราคิดแค่เรื่องการเผชิญหน้ากับเซบีญ่านะ เรายังไม่ได้คิดไปที่เกมสุดสัปดาห์ เราจะต้องคว้าสามแต้มในเกมยุโรปในบ้านเราให้ได้ก่อน

       ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกุนซือใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็มีทางด้านของ อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ทีมปืนโตที่ได้ออกมากล่าวหลังเกมอัดเสือใต้ 2-0 ว่านี่จะเป็นเกมที่มีผลต่อจิตใจของแข้งปืนใหญ่อย่างมาก โดยมันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกทีมของตนเองหึกเหิมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

117

       เรียกว่าการันตีกันข้ามฟากมาเลยทีเดียว สำหรับทางด้านของ มัท ฮุมเมิ่ลส์ ปราการหลังทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ ทีมดังแห่งบุนเดสลีกาที่ออกมาช่วยการันตีคุณภาพ และผลงานของอดีตนายเก่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ปัจจุบันโยกไปรับงานคุมทีมหงส์แดง

       โดย ฮุมเมิ่ลส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะกองหลังเนื้อหอมของทีม ได้รับความสนใจจากบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั่วทั้งยุโรปกล่าวถึงสรรพคุณของเจ้านายเก่าว่า

       ผมมั่นใจนะว่าเขาสามารถพา หงส์แดง คว้าแชมป์ลีกได้ กุนซืออย่างเขาไม่จำเป็นต้องอาศัยเงินในการสร้างทีมมากมายก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จในรายการใหญ่ๆได้ มันจริงอยู่ที่ในอังกฤษมีหลายทีมทีเดียวที่มีเงินมากมาย และสามารถสร้างความแข็งแกร่งโดยใช้เงิน แต่คล็อปป์ก็เคยได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วที่ดอร์ทมุนด์ เขาทำให้เห็นว่าสามารถสู้ได้อย่างฉลาดกับทีมที่มีเงินเยอะๆ มันอาจต้องอาศัยเวลาบ้าง แต่ที่สุดแล้วเขาจะทำมันได้สำเร็จ ผมมั่นใจว่าจะเป็นอย่างนั้นเป้าหมายของเขากับหงส์แดงคือเป้าหมายระยะยาวไม่ใช่แค่การจบที่สี่แล้วตีตั๋วไปแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าเท่านั้น แต่หมายถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกระทั่งได้แชมป์ลีก ผมรู้จักเขาดีเขาคือนักสู้ตัวจริง มันคือความจริงนะที่เขากับหงส์แดงจะต้องต่อสู้กับทั้งแมนฯยู เชลซี อาร์เซน่อล และแมนฯซิตี้เพื่อที่จะเป็นแชมป์ให้ได้ แต่อย่างที่บอกคนอย่างเขานี่แหละที่เหมาะกับการต่อสู้อะไรแบบนี้

       ส่วนนอกเหนือจากประเด็นคำกล่าวของ มัท ฮุมเมิ่ลส์ แล้วในเวลาเดียวกันก็ยังมีการออกมากล่าวจาก แดนนี่ อิงส์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษของหงส์แดงถึงกุนซือรายใหม่อีกด้วย ทำนองว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ให้กุนซือรายนี้ประทับใจ แม้ว่าตอนนี้จะต้องปิดเทอมไปก่อนเพื่อนจากอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าระหว่างฝึกซ้อมแล้วก็ตาม

       อิงส์ กล่าวว่าการสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นมันย่อมต้องมาจากผลงานในสนามอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคุณทำอย่างนั้นไม่ได้ก็ต้องอาศัยสิ่งที่พอจะทำได้ สำหรับผมตอนนี้นั่นคือการเข้ายิม พัฒนาความแข็งแกร่งร่างกาย และมีทัศคติที่ดีต่อเพื่อนร่วมทีมรายอื่นๆ ผมจะเชียร์พวกเขา



118

       ถึงตอนนี้ก็ชัดเจนที่สุดแล้วว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปิดประตูย้ายกลับปีศาจแดงแน่นอนแล้ว เพราะมีสื่อได้ออกมาตีข่าวอ้างอิงคำกล่าวของเจ้าตัวแล้วว่าเจ้าตัวตั้งเป้าที่จะค้าแข้งกับต้นสังกัดปัจจุบันอย่าง เรอัล มาดริด ไปจนกว่าจะแขนสตั๊ดในวัยประมาณ 40 พร้อมกับตอกย้ำสถานการณ์ปัจจุบันว่ามีความสุขดีมากๆ กับการลงเล่นในยอดทีมแห่ง ลาลีกา สเปน หลังก่อนหน้านี้มีหลายสื่อพยายามจะบิวด์ข่าวของเจ้าตัวกับอดีตต้นสังกัดอย่างแมนฯยูไนเต็ดในอังกฤษ และยอดทีมมหาเศรษฐีแห่งฝรั่งเศส “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง”

       ทั้งนี้ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับอนาคตของซุปตาร์โปรตุกีสรายนี้ ทั้งการกลับไปค้าแข้งกับทีมปีศาจแดงใน พรีเมียร์ลีก หรือการโยกไปเล่นใน ลีกเอิง ฝรั่งเศส กับยอดทีมอย่างเปแอสเช อีกทั้งยังมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งของนักเตะกับกุนซือคนปัจจุบันของทีมอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ที่เข้ามากุมบังเหียนทีมแทนที่ คาร์โล อันเชล็อตติ อีกด้วย  ทว่าสุดท้ายแล้วเมื่อตลาดปิดลงนักเตะก็ยังคงได้อยู่กับทีมต่อไป

       อย่างไรก็ตามตามกล่าวข้างต้นนักเตะได้ออกมายืนยันแล้วว่าทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น โดยโรนัลโด้กล่าวกับสื่อว่าผมมีความฝัน และความฝันของผมก็คือการได้แขวนสตั๊ดกับทีมราชันชุดขาว ผมคิดว่าถ้าหากเราดูแลร่างกายของเราเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ เราอาจจะเล่นฟุตบอลไปได้ถึงอายุ 40 ปีเลยนะ

       แต่อย่างน้อยที่สุดผมตั้งใจที่จะเล่นมันไปอีกสัก 5-6 ปีต่อจากนี้ ตอนนี้ผมรู้สึกดีมากๆ และผมทราบว่าผมมีคุณค่าต่อที่นี่ นั่นแหละมันทำให้ผมอย่างที่จะคว้าแชมป์กับเรอัล มาดริดต่ออีก (ปัจจุบันโรนัลโด้อายุ 30 ปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถือว่าเข้าสู่ช่วงปลายของอาชีพค้าแข้งแล้ว แต่ด้วยการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี และความมีวินัยในการฝึกซ้อมทำให้สภาพร่างกายของโรนัลโด้นั้นฟิตสมบูรณ์กว่านักฟุตบอลอาชีพทั่วไป)

119

       ถือเป็นสองซุปตาร์ประจำทีมเรอัล มาดริดที่ถูกกระแสข่าวลือเรื่องของความสัมพันธ์ออกมาอยู่เรื่อยๆจริงสำหรับ แกเร็ธ เบล ปีกจรวดชาวเวลส์ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซุปตาร์โปรตุกีส โดยล่าสุดก็ถูกต่อยอดจากประเด็นคำพูดของเอเย่นต์แกเร็ธ เบลในเชิงเปรียบเทียบว่าโรนัลโด้นั้นมีไลฟ์สไตล์ที่ติดการท่องเที่ยว และวัตถุนิยมมากกว่า แกเร็ธ เบล นักเตะในความดูแลของตนเองที่ดูจะมีวิถีที่เรียบง่ายกว่า บ้างก็ลือก็หนักถึงขั้นว่าโรนัลโด้นั้นไม่ต้องการให้แข้งรุ่นน้องรายนี้ก้าวขึ้นมาโดดเด่นในทีมเทียบชั้นตน

       อย่างไรก็ตามล่าสุดเอลบอส “ราฟาเอล เบนิเตซ” นายใหญ่ของทัพราชันชุดขาวออกมายืนยันด้วยตัวเองว่า แข้งคนสำคัญของทีมสองรายนี้ไม่ได้มีปัญหาใดๆกันอย่างแน่นอน ทั้งคู่ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั้งในสนาม และนอกสนาม เรียกว่าพร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ

       โดยราฟาอธิบายถึงประเด็นนี้ว่ามันไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้นสำหรับเบลกับโรนัลโด้ สำหรับสโมสรแห่งนี้เวลานี้มีเรื่องอะไรให้พูดถึงกันมันก็มักจะดูรุกลามใหญ่โตไปเกินความจริงตลอดแหละ นั่นเพราะผู้ไม่หวังดีต้องการที่จะโจมตีสโมสร

       ส่วนนอกเหนือจากประเด็นความสัมพันธ์ของ โรนัลโด้ และ เบล แล้วเอลบอสก็ยังได้กล่าวไปถึงเรื่องของการยิงฟรีคิกของซุปตาร์โปรตุกีสที่ซีซั่นนี้ดูจะผิดฟอร์มไปเยอะ เพราะยังไม่สามารถทำให้กลายเป็นประตูได้เลยอีกด้วยว่า

       เขาเป็นคนที่ฝึกซ้อมการยิงฟรีคิกอยู่ตลอดเวลานะ และแน่นอนว่าเขาทำมันออกมาได้ดีเสมอแหละ หลังจากนี้มันก็เหมือนแค่การรอเวลาว่าเขาจะทำมันให้เป็นประตูได้ตอนไหนก็แค่นั้นเอง เขาทำได้แน่อยู่แล้ว ผมคิดว่าในทีมของเรามีผู้เล่นไม่กี่คนหรอกนะที่สามารถยิงฟรีคิกได้ดี ซึ่งเขาเป็นคือหนึ่งในนั้น ทั้งหมดทั้งมวลมันก็เป็นผลมาจากการทำงานหนัก และการฝึกยิงลูกนิ่งของเขานั่นแหละ (ฉะนั้นเขาก็จะยังทำหน้าที่ของเขาต่อไป)

120

       ก็ไม่รู้ว่าที่สุดแล้วจะได้กลายเป็นกองหน้าที่ใช่จริงๆ สำหรับปืนโต อาร์เซน่อล แล้วหรือนะสำหรับทางด้านของ โนลิโต้ หัวหอกตัวเก่งของทีม เซลต้า บีโก้ ทีมดังแห่ง ลาลีกา สเปน เพราะล่าสุดมีสื่อรายงานข่าวออกมาแล้วว่าปืนโตกำลังจับตามองนักเตะรายนี้เป็นพิเศษ และหวังที่จะกระชากตัวมาร่วมทีมให้ได้ในช่วงตลาดซื้อขายรอบสองเดือนมกราคมนี้ โดยพวกเขาแพลนที่จะทุ่มเงินราว 13.3 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาของนักเตะเลย

       ทั้งนี้ โนลิโต้ เริ่มต้นซีซั่นนี้กับทีม เซลต้า บีโก้ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยซัดไปแล้ว 5 ประตู กับอีก 3 แอสซิส จากการลงเล่น 6 เกม และจากฟอร์มการเล่นนี่เองทำให้หลายสื่อโหมข่าวออกมาว่า บรรดาทีมดังจากทั่วยุโรปสนใจในตัวนักเตะ อาทิเช่น ทีมบาร์เซโลน่า คู่แข่งร่วมลีก เอฟเวอร์ตันทีมแกร่งแห่งพรีเมียร์ลีก รวมถึงอาร์เซน่อล

       อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบๆ กันว่า อาร์เซน่อล เป็นหนึ่งทีมที่มีปัญหาในการเฟ้นหากองหน้ามาเสริมทีมสักพักใหญ่ๆแล้ว โดยพวกเขามีเพียงแค่ในรายของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเท่านั้นที่เป็นตัวหลักในแดนหน้าให้กับทีมในช่วงหลายซีซั่นหลัง และฟอร์มของนักเตะก็ไม่ค่อยจะดีสม่ำเสมอซะด้วย

       แม้ว่าจะมีการดึงเอา แดนนี่ เวลเบค กองหน้าทีมชาติอังกฤษจากแมนฯยูไนเต็ดมาเสริมทีม แต่นั่นก็ไม่นับเป็นการเสริมคมที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะ เวลเบค เองก็ทำผลงานได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ แถมยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เรื่อยๆอีก ด้วยเหตุนี้เองจึงน่าสนใจว่าที่สุดแล้ว โนลิโต้ จะตอบโจทย์การเสริมคมให้กับพวกเขาได้หรือไม่ถ้าหากว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในดีลนี้จริงๆ (ปัจจุบันผลงานต้นสังกัด เซลต้า บีโก้ ของโนลิโต้ถือว่ายอดเยี่ยมเช่นเดียวกับผลงานของนักเตะ โดยรั้งอยู่อันดับสี่ของตารางคะแนนลาลีกา สเปน มี 14 แต้ม จากการแข่งขัน 6 เกม และผลต่างประตูได้เสีย 8)

หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 37