พิมพ์

[Armin]

วีแกน แอธเลติกทำเรื่องเซอร์ไพรส์หักปากกาเซียนกระจุยกระจายเมื่อเบน วัตสันสำรองลงสนามมากลายเป็นผู้โขกประตูชัยในนาที 90 พาให้"เดอะ ลาติกส์"เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เหลือ 10 คนจากซาบาเลต้าโดนไล่ออกไป 1-0 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ



ฟุตบอลเอฟเอ คัพรอบชิงชนะเลิศ
สนาม เวมบลีย์
วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2556
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 วีแกน แอธเลติก

            เข้าสู่เกมในช่วงครึ่งแรก "แมนฯ ซิตี้" เดินเครื่องบุกได้ดุดันมากมีโอกาสลุ้นได้จังๆกันตั้งแต่ต้นเป็นจังหวะฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 25 หลาเยื้องมาทางซ้าย ก่อนเป็นเตเบซรับหน้าที่ปั่นไปติดกำแพงแต่กระดอนมาเข้าทางของยาย่ายิงซ้ำเข้าไป คราวนี้ทำให้โฆเอลต้องออกแรงเซฟปัดออกไปก่อน

นาทีที่ 9 โอกาสทองของวีแกนหายไปต่อหน้าต่อตาเหลือเชื่อจากจังหวะที่โคเน่เป็นตัวแสบอยู่ทางซ้ายแล้วจ่ายข้ามมาอีกฝั่งให้กับแม็คมานามานแต่งบอลเข้าเขตโทษไปได้แล้วล็อกหลอกตัวประกบเข้าเข้าซ้ายแล้วปั่นตั้งใจจะให้เสียบเสาไกลแต่มันโค้งไม่พอหลุดออกหลังไปแทน

ช่วงนี้มากันคนละดอกคราวนี้แมนฯ ซิตี้เกือบอีกแล้วจากการจ่ายทะลุช่องของซิลบาให้กับซาบาเลต้าตัดจากขวาสุดเข้าเขตโทษ โฆเอลออกมาปั้มบอลได้ก่อนซาบาเลต้าแล้วเข้าทางเตเบซยิงโล่งๆยังเจอตัวสกัดจากเส้นแต่สุดท้ายล้ำหน้าไปตั้งแต่ตอนซาบาเลต้าแล้ว

มาดูจังหวะของวีแกนในนาที 22 กันบ้างที่มาครองบอลถึงเขตโทษแมนฯ ซิตี้ซักพักโดยอยู่กับเอสปิโนซ่าเคาะบอลกันไปมาก่อนจะวนไปถึงมาโลนี่ย์วิ่งมาลองสับด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่บอลยังหลุดเสาแรกออกหลังไปอยู่

"เรือใบสีฟ้า"ถึงกับเซ็งเลยเพราะน่าได้ประตูออกนำไปก่อนจริงๆจากบอลอยู่กับนาสรี่ริมเขตโทษซ้ายเลี้ยงเข้ามาแล้วจ่ายให้กับซิลบาที่สอดมาทางเสาแรกตวัดกลับไปตรงกลางและเป็นเตเบซวิ่งมาสำเร็จโทษแต่ยังเจอโฆเอลใช้ขาเซฟเอาไว้บอลแฉลบโค้งหลุดออกหลังเหลือเชื่อ

โอกาสของวีแกนที่น่าได้มาอีกแล้วจากจังหวะจ่ายทะลุช่องให้กับแม็คมานามานสปีดแข่งกับนาสตาซิชแล้วแตะบอลไปได้ก่อนหลบการสกัดของนาสตาซิชมาได้เข้ามุมแคบดวลกับฮาร์ท ฮาร์ทออกมาปิดมุมไวก็แตะหลบมาอีกก่อนจะล็อกหลบซ้ายหลบขวาพริ้วไปเรื่อยแต่สุดท้ายยิงก็ไปติดบล็อกกอมปานีก่อน

เกมนี้ทันกันจริงๆแลกกันคนละหมัดเลยคราวนี้เป็นฝั่งแมนฯ ซิตี้บ้างจากบอลที่มาเคาะกันอยู่หน้าเขตโทษแล้วเตเบซทำชิ่งกับซาบาเลต้าเข้าเขตโทษโดนสกัดไว้ แต่เข้าทางแบร์รี่ฉกบอลไปได้โล่งๆก่อนจะเล็งแล้วซัดด้วยซ้ายแต่บอลไม่ได้หนีตัวโฆเอลเลยเข้าซองเอาไปแทน

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกนาทีนึงแมนฯ ซิตี้ขอลุ้นอีกซักทีจากการยิงระยะ 20 หลาโดยนาสรี่แต่ก็ยังเจอโฆเอลทุบออกมาได้ ทำให้จบครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้กับวีแกนเลยยังเสมอกันอยู่ 0-0 แต่ก็เป็นครึ่งที่ได้ลุ้นสนุกจริงๆ

              ลงสนามมาเล่นกันต่อในช่วงหลังดูแล้วดีกรีความสนุกยังไม่ลดโดยเกือบจะเป็นประตูออกนำของแมนฯ ซิตี้อีกครั้งนึงจากการพาบอลมาเองเลยของเตเบซที่กระชากหนีตัวประกบเข้าเขตโทษไปเรื่อยๆก่อนจะตวัดไปหน้าเขตโทษให้กับอเกวโร่วิ่งเข้ามาชาร์จเสาแรกยังเจอบอยช์พุ่งมาบล็อกบอลออกหลังไปก่อน

นาที 58 "เรือใบ"มีโอกาสลุ้นจุดโทษในจังหวะที่ซิลบาจะจ่ายให้กับเตเบซในเขตโทษแล้วเตเบซโดนสกัดจากด้านหลังล้มลงแต่อังเดร มาร์ริเนอร์ไม่เป่าให้ซึ่งก็ดูแล้วสมเหตุผลเพราะบอลจ่ายของซิลบาลึกไปมากแล้วเตเบซไม่น่าตามทัน

"เดอะ ลาติกส์"ขอลองจบดูบ้างจากหนนี้มาทำชิ่งหน้าเขตโทษเริ่มต้นที่ฝั่งขวาก่อนคือมาโลนี่ย์จ่ายมาตรงกลางให้กับโคเน่แล้วโคเน่ก็หมุนหาจนเจอโกเมซฝากต่อไปให้เลยสุดท้ายก็ตัดสินใจลองยิงไกลดูแต่ก็ยังเหินข้ามคานออกหลัง

โอกาสของวีแกนมาได้ลุ้นอีกแล้วเป็นแม็คมานามานคนเดิมที่แสดงความพริ้วหลบสามคนด้วยการโชว์พลังกระชากทางขวาหลบตัดเข้าในมาก่อนแล้วตามด้วยเลี้ยงตัดเข้าเขตโทษดื้อๆก่อนจะพยายามยิงแต่ก็ยังไปเจอกอมปานีบล็อกออีกแล้ว

แล้วเกิดเรื่องฉงนกันขึ้นเมื่ออยู่ๆมันชินี่คิดแก้เกมด้วยการเอารอดเวลล์ลงสนามไปแทนที่ของเตเบซสร้างเซอร์ไพรส์ไม่น้อยต้องดูว่าเปลี่ยนลงมาแล้วจะให้ใช้แทคติกแบบไหน

นาที 71 แมนฯ ซิตี้มีลุ้นอีกครั้งนึงจากเอสปิโนซ่าไปทำฟาวล์ทางริมเส้นขวาและก็ได้ลูกฟรีคิก มิลเนอร์เปิดเข้าไปในเขตโทษตรงกลางถึงหัวของรอดเวลล์ที่เพิ่งลงมาใหม่ได้โขกแต่ยังไม่คมพอบอลไม่หนีมือโฆเอลล้มตัวรับเอาไว้ได้

กลับมาเป็นทีของวีแกนอีกครั้งมาได้ลูกตั้งเตะเหมือนกันเป็นฝั่งขวาริมเขตโทษก่อนเป็นมาโลนี่ย์รับหน้าที่จัดการให้จัดการเปิดด้วยขวาเหมือนกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลโค้งไปทางเสาไกลเหมือนไม่มีอะไรแต่กลายเป็นบอลตกใส่คานก่อนจะเด้งออกไปแมนฯ ซิตี้เกือบไปเหมือนกัน

เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้ายมาเกิดเหตุการณ์สำคัญใส่แมนฯ ซิตี้เมื่อไปจ่ายบอลกันพลาดจนโคเน่จ่ายให้แม็คมานามานกระชากหลุดมาก่อนเจอซาบาเลต้าเสียบใส่เข้าให้ มาร์ริเนอร์เป่าเป็นฟาวล์แล้วตามมาแจกเหลืองใบที่สองให้ซาบาเลต้าเลย แมนฯ ซิตี้ต้องเหนื่อยเจอกับวีแกนด้วยตัวที่น้อยกว่าในช่วงเวลาที่เหลือ

แล้วทดเจ็บมันก็กลายเป็นเรื่องช็อกจนได้เมื่อ"เดอะ ลาติกส์"ทำประตูสำคัญจนได้ในช่วงเวลาทดเจ็บจากจังหวะเตะมุมทางขวาเปิดโดยมาโลนี่ย์ให้กับวัตสันสำรองที่ลงมาโฉบโหม่งเสาแรกบอลพุ่งหายเสียบเสาไกลแบบหมดจดจริงๆ วีแกนนำ 1-0 ทำวัตสันน้ำตาไหลเลย

จบเกมกลายเป็นเรื่องพลิกล็อกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เหลือ 10 คนพ่ายวีแกนไป 1-0 ส่งผลให้"เดอะ ลาติกส์"คว้าแชมป์เอฟเอ คัพหนแรกได้สำเร็จพร้อมกับกลายเป็นทีมที่ 43 ที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพด้วยพ่วงด้วยโควต้าลุยยูโรป้า ลีกแต่ต้องไปเหลืองานลุ้นหนีตกชั้นให้ทำอีกอย่าง ส่วน"เรือใบ"ไร้ถ้วยติดมือในซีซั่นและอนาคตของโรแบร์โต้ มันชินี่สั่นคลอนกว่าเดิมแน่นอน