"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทำเอาแฟนๆต้องลุ้นหนักช่วงท้ายเกมทั้งที่นำไปก่อน 2-0 จากโอซิลและเบนเซม่าแต่เรอัล เบติสมาไล่ยิงคืน 1 ลูกก่อนบุกแหลกแต่ก็ปิดสกอร์ไม่ได้แถมโดนโอซิลยิงตอกฝาโลงช่วงทดเจ็บทำให้เจ้าบ้านคว้าชัย 3-1
ลา ลีกา สเปน
วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2556
เรอัล มาดริด 3-1 เรอัล เบติส
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เปิดฉากเริ่มเกมมาในนาทีที่ 8 แฟนเจ้าบ้าน "ราชันชุดขาว" ใจหายใจคว่ำจากจังหวะฟรีคิกกลางสนามมาให้รูเบน คาสโตรได้ยิงจ่อๆหน้าประตูแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปแล้วซึ่งภาพช้าก็เห็นว่าเขาออฟไซด์อยู่พอสมควรเลย
เกมผ่านไปครบ 15 นาทีโจเซ่ มูรินโญ่ต้องตัดสินใจเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกเมื่อมาร์เซโล่ทนฝืนเจ็บต่อไปไม่ไหวต้องหามเปลเข้าห้องแต่งตัวไปแล้วเป็นวารานที่ลงมาประจำการแทน
จังหวะเตะมุมด้านขวาของมาดริดมาได้ลุ้นอีกทีเมื่อโรนัลโด้ได้จังหวะเทคตัวกระโดดขึ้นโขกโล่งๆแต่อาเดรียนก็ทะยานตัวไปปัดบอลข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น
มาดริดจวนเจียนจะได้ประตูขึ้นนำเหลือเกินในนาทีที่ 22 ซึ่งกาเญฆ่อนได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนพยายามปาดบอลให้เข้าทางเสาสองแต่ยิงไม่ดีทำให้บอลหลุดเสาไกลออกไป
เบติสไม่ได้ตั้งรับอย่างเดียวมีบุกสวนน่ากลัวมาหลายครั้งและนาทีที่ 35 พวกเขาก็ได้จังหวะยิงเมื่อปาบอนเลื้อยมาทางริมเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ามากลางให้โจเอล แคมป์เบลล์เอี้ยวตัวกระโดดวอลเล่ย์บริเวณจุดโทษแต่บอลเฉี่ยวเสาไปไม่มาก
ถัดจากนั้นทีมเยือนมาลุ้นอีกรอบจากจังหวะที่รูเบน คาสโตรตั้งคอโหม่งจากลูกเปิดทางกราบขวาแบบคนเดียวโล่งๆเพราะอัลบิโอลหลุดตำแหน่งไปแล้วแต่เขากลับกดบอลไม่ลงเหินข้ามคานออกไป
ก่อนหมดเวลา 3 นาทีเบนาตเลี้ยงบอลชึ้นมาก่อนจ่ายให้ปาบอนกระหน่ำยิงจังหวะเดียวด้วยขวาเต็มๆระยะราว 20 หลาแต่บอลไปชนคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่เมซุต โอซิลรับบอลทะลุช่องจากเบนเซม่าหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับอาเดรียนก่อนโยกหลอกยิงเข้าไปทางเสาแรกอย่างง่ายๆ
ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งหลังจังหวะลุ้นครั้งแรกของมาดริดมีขึ้นในนาทีที่ 53 จากจังหวะที่เบนเซม่ารับบอลทำชิ่งมาจากโมดริชก่อนไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วพยายามตวัดยิงสวนมาทางเสาสองแต่อาเดรียนยังบินไปรับเอาไว้ได้สวยงาม
นาทีที่ 57 มาดริดก็ขึ้นนำ 2-0 จนได้เมื่อโรนัลโด้ได้บอลในจังหวะโต้กลับก่อนแทงบอลไปให้เบนเซม่าหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วหลอกอาเดรียนปาดเลียดไปทางเสาใกล้เช้าไปตุงตาข่ายแบบสุดนิ่ง
แต่แล้วนาทีที่ 63 มาดริดต้องมาเจอข่าวร้ายให้ลุ้นเพราะโมดริชมีอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทำให้มูรินโญ่ไม่มีทางเลือกต้องถอดเจ้าตัวออกมาเพื่อดูอาการก่อนแล้วส่งเปเป้ลงไปบู๊กลางสนามแทน
นาทีที่ 72 เบติสมาได้ลุ้นบ้างเมื่อได้บอลในจังหวะสวนกลับบอลมาถึงรูเบน คาสโตรล็อคหลบนาโช่ที่วิ่งมาเสียบแบบไม่คิดทำให้กรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันที
ฆอร์เก้ โมลิน่าตัวสำรองเดินเข้ามายิงแบบนิ่งๆเสยเข้าไปเสียบคานโดยที่ดีเอโก้ โลเปซพุ่งไปถูกแถมปัดได้นิดนึงแต่บอลมันแรงทำให้เอาไม่อยู่
โรนัลโด้มีจังหวะส่องฟรีคิกลูกถนัดระยะ 30 หลาบอลส่ายเป็นงูแต่อาเดรียนปักหลักทุบออกมาได้จังหวะตามซ้ำวารานก็เข้าไม่ถึงทำให้โดนสกัดออกมาพ้นอันตราย
ช่วงนาทีสุดท้ายมาดริดรอดตัวไม่เสียลูกตีเสมอจากจังหวะที่คาร์วัลโญ่โหม่งคืนหลังเบาคาสโตรวิ่งเข้ามายิงไปโดนอัลบิโอลเคลียร์ออกมาจากเส้นปาปอนจะตามซ้ำก็ไม่ทัน
แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บมาดริดก็มาได้ประตูตอกฝาโลงเมื่อโรนัลโด้ลากบอลหลบนิ่มๆในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนเปิดมาให้กาเญฆ่อนยิงสวนเข้ามาและเป็นโอซิลที่ตามซ้ำไม่กี่หลาเข้าประตูไป