"ลิโอเนล เมสซี่" สร้างสถิติยัง 10 นัดในลีกติดต่อกันไม่ช่วยอะไรเมื่อ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ที่ออกนำ "เรอัล โซเซียดัด" ถึงสองลูกพลิกล็อคพ่ายไป 3-2 หลังจากที่ "เกราร์ด ปิเก้" มาโดนไล่ออกในนาที 56 ส่งผลให้ "อาซูลกราน่า" ต้องปราชัยเกมแรกในฤดูกาลนี้แต่ยังนำทีม "ตราหมี" แอต.มาดริด อยู่ 11 แต้มแม้เตะมากกว่าหนึ่งนัด
ฟุตบอลลาลีกา
วันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2556
เรอัล โซเซียดัด 3 - 2 บาร์เซโลน่า
สนาม เอสตาดิโอ อาโนเอต้า เปิดฉากเริ่มเกมแรกเล่นกันมาได้ 5 นาที "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ได้โอกาสทักทายก่อนในจังหวะที่ชาบีไหลบอลให้เมสซี่หลุดเข้าไปล่อเป้าบราโว่ในกรอบเขตโทษทางด้านซ้ายแต่เขาดันกดเลียดหลุดเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย
แต่อีกสองนาทีถัดมาเมสซี่ก็แก้ตัวได้สำเร็จเมื่อบราโว่เตะเปิดเกมไปเข้าทางผู้มาเยือนจนเปิดช่องให้อิเนียสต้าจ่ายยัดบอลยัดเข้าเขตโทษให้เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์สังหารเข้าไปไม่พลาด ส่ง"อาซูลกราน่า"ขึ้นนำ 1-0 นับเป็นการยิง 10 ประตูติดต่อกันและเป็นลูกที่ 29 ในลาลีกาซีซั่นนี้
นาที 14 ยอดทีมแคว้นคาตาลันน่าทิ้งห่างสองประตูเมื่ออิญิโก้ มาร์ติเนซเสียบอลให้กับเปโดรจนเปิดโอกาสให้แนวรุกทีมชาติสเปนได้ปั่นบอลโค้งจากทางด้านซ้ายไปชนเสาไกลอย่างจัง นับเป็นการซัดชนเสาหนที่ 19 ในทุกรายของซีซั่นนี้สำหรับ"อาซูลกราน่า"
อย่างไรก็ตามเปโดรก็มาพังประตูให้"บาร์ซ่า"ทิ้งห่าง 2-0 ในนาที 25 เมื่ออัลเวสรับบอลจากชาบีแล้วพาทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาก่อนเปิดเลียดมาให้เปโดรกระทุ้งจ่อๆเข้าไปไม่มีพลาด
ถึงนาที 40 เมสซี่หวิดบวกลูกสองให้กับตัวเองเมื่อใช้สปีดความเร็วเข้าไปชิพบอลข้ามตัวบราโว่และมันกำลังจะข้ามเส้นประตูอยู่แล้วก่อนที่มิเกล กอนซาเลซปรี่มาเคลียร์ทิ้งได้ทันอย่างหวุดหวิด
แต่นาทีถัดมาโซเซียดัดก็มาตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1 เมื่อเวล่าหักบอลเข้ามาให้กาสโตรกระทุ้งบอลจากฝั่งซ้ายผ่านมือบัลเดสไปเสียบโคนเสาไกลอย่างเฉียบขาด
นาที 43 ปริเอโต้งัดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ตัวความหวังอย่างกาสโตรวอลเล่ย์ไปโดนบัลเดสเซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน โซเซียดัดเลยังตีเสมอไม่ได้
นาทีถัดมาบาร์เซโลน่าเอาบ้างเมื่อฟาเบรกาสชิพบอลเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายให้เมสซี่ง้างเท้าวอลเล่ย์ไปติดเซฟของบราโว่ที่ยืนปิดมุมที่เสาแรกได้ดีเยี่ยม ทำให้จบครึ่งแรกทีมเยือนบุกมานำโซเซียดัด 2-1 ขณะที่ตอนเดินเข้าไปในอุโมงค์กาสโตรได้ไปขอแลกเสื้อกับเมสซี่แบบไม่สนอะไร
ลงสนามมาเจอกันต่อในนาทีที่ 51 ปริเอโต้จ่ายบอลให้เวล่าได้มีพื้นที่หน้าเขตโทษก่อนตะบันหลุดกรอบประตูไปไกลซึ่งกองหน้าเม็กซิกันสมควรทำได้ดีกว่านี้
อีกห้านาทีถัดมาบาร์เซโลน่าต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อปิเก้มาโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามในจังหวะไปทำฟาวล์ใส่เวล่า ติโต้เลยแก้เกมด้วยการถอดเชสออกแล้วส่งมาสเชราโน่มาคุมแนวรับแทน
แล้วนาที 63 โซเซียดัดก็มาไล่ตีเสมอบาร์เซโลน่าได้สำเร็จเป็น 2-2 ในจังหวะที่กาสโตรลากบอลเข้ากรอบเขตโทษก่อนตะบันไปแฉลบมาสเชราโน่บอลผ่านมือบัลเดสเข้าไปตุงตาข่าย
นาที 72 "อาซูลกราน่า"ได้ฟรีคิกระยะ 40 หลาแต่เมสซี่ทะเยอทะยานมากเกินไปเลยจัดการปั่นบบอลข้ามคานแทนที่จะครอสให้เพื่อนร่วมทีมเข้าทำเพราะระยะดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ถนัดของเจ้าตัว
หลังจากนั้นอิฟรานตัวสำรองของโซเซียดัดก็ทิ้งโอกาสจบสกอร์ของตัวเองไปอย่างน่าเสียดายเมื่อจับบอลกระดอนห่างตัวจนอดยิง ขณะที่นาที 84 อิเนียสต้าโชคดีมากที่ไม่โดนใบเหลืองที่สองเมื่อเขาไปตัดฟาวล์ใส่เวล่าที่กลางสนาม
แต่แล้วนาทีสุดท้ายของการแข่งขันการ์ลอส มาร์ติเนซก็เปิดบอลจากข้างมาให้อกีร์เร็ตเซ่สอดเข้าไประหว่างคู่เซนเตอร์แบ็คของทีมเยือนแล้วยิงผ่านบัลเดสเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้โซเซียดัดพลิกล็อคเอาชนะบาร์เซโลน่า 3-2 นับเป็นการปราชันหนแรกสำหรับ"อาซูลกราน่า"ในฤดูกาลนี้แต่ยังนำแอต.มาดริดที่แข่งน้อยกว่า 1 นัดอยู่ 11 แต้ม