ก่ะว่าตัดผมเอาฤกษ์สำหรับปีใหม่แล้วจะแหล่มแต่ก็ยังไม่ไปไหนสำหรับตอร์เรสที่แม้จะได้ลงเป็นตัวจริงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยังดีเชลซีได้ 2 ประตูจากมาต้าและแลมพาร์ดที่ยิงเพิ่มสถิติเป็น 195 ลูกช่วยให้ทีมเบียดเอาชนะอาร์เซนอลที่พยายามฮึดแล้วแต่ไม่ทันในลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ไป 2-1 เก็บชัยในบ้านได้สักที
พรีเมียร์ ลีก
วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2556
เชลซี 2 - 1 อาร์เซนอล
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เปิดฉากเริ่มมาถึงนาทีที่ 6 สมควรที่จะโวยจริงๆเลยเพราะเสียหายอย่างหนัก สำหรับอาร์เซนอลจากจังหวะที่โคเกอแล็งน์พาบอลขึ้นหน้าแล้วไปโดนรามิเรสเสียบย่ำเข้าที่ข้อเท้าเต็มๆ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรเลยกลายเป็นจังหวะสวนของเชลซีที่พรวดเดียวบอลขึ้นมาต้าที่เอาบอลลงสวยเว่อร์ เบียดเข้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งแสกหน้าเซสนี่ย์เข้าไปอัดตาข่าย เชลซีขึ้นนำ 1-0 อย่างไวแม้จะมีปัญหาก่อนหน้านี้ก็ตาม
ยังไม่ผ่าน 10 นาทีดี แต่จังหวะลุ้นมีให้เห็นเรื่อยๆเลยสำหรับทั้งสองทีมที่เตะกันท่ามกลางหิมะที่เทลงมาไม่หยุด อาร์เซนอลมีลุ้นจากลูกยิงไกลติดไซด์ของกาซอร์ล่าซึ่งโดนเช็กปัดเอาไว้ได้ ส่วนเจ้าบ้านได้อาซาร์ลากไปยิงมุมแคบติดเซฟเช่นกัน
นาทีที่ 16 เกมจะห่างเร็วไปไหน เมื่อเชลซีโชว์ความยอดเยี่ยมในการต่อบอลกัน ก่อนที่มาต้าจะโชว์สายตาแหลมคมแทงต่อให้กับรามิเรสที่หลุดเดี่ยวในเขตโทษ แตะหลบเชสนี่ย์ที่ทำได้เพียงต้องสกัดฟาวล์ ผู้ตัดสินจี้เป้าอย่างมั่นใจ ก่อนแลมพาร์ดจะรับหน้าที่สังหารแปบอลเสียบเสาไม่มีเหลือ เชลซีทะลุ 2-0 แถมเกมดีกว่าเห็นๆแล้วตอนนี้
ผ่านครึ่งชั่วโมงไปแม้ว่าสกอร์ยังไม่ขยับ แต่เกมของเชลซีก็ยังเล่นกันได้ดุดันและดูจะมีแรงกระตุ้นมากกว่าอาร์เซนอลท่ี่ไปได้เต็มที่ก็แค่พื้นที่ 25 หลาหน้าประตู ที่เหลือแทบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
นาทีที่ 36 จังหวะนี้ลงตัวแทบจะสมบูรณ์แบบเลยกับการที่เชลซีเล่นสวนกลับ ค่อยๆถ่ายบอลจากซ้ายไปขวา ก่อนแทงต่อให้กับรามิเรสที่แตะบอลก็แหล่มหลอกกระชากหนีกองหลังอาร์เซนอลเข้าเขตโทษได้ มีเพื่อนเติมขึ้นมารอโล่งๆตรงกลาง แต่เจ้าตัวกลับเลือกยิงเองทั้งที่หลักไม่ดี สุดท้ายบอลปลิ้นหลังเท้าหลุดกรอบไปไกลลิบ
แม้ว่าช่วง 5 นาทีสุดท้าย อาร์เซนอลจะครองเกมกันได้บ้างและกันไม่ให้เชลซีเล่นกันได้สบายเหมือนก่อนหน้านี้ แต่รวมๆแล้วพวกเขาก็ยังไม่ได้ส่งแรงกดดันให้กับแนวรับของเจ้าบ้านสักเท่าไหร่
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เพื่อนอุตส่าห์ชงมาให้อย่างงาม แต่พลาดไปเลยสำหรับตอร์เรสเมื่อเชลซีได้ฟรีคิกอาซาร์โยนไปเสาสองมีเคฮิลล์ขึ้นโขกย้อนกลับหลังตั้งให้ตอร์เรสได้วิ่งมาฮาล์ฟวอลเล่ย์แต่หอกสแปนิชดันซัดแป้กหลุดไปไกลไม่แพ้ลูกยิงรามิเรสเลย
จบ 45 นาทีแรกเชลซีนำห่างพอสมควรกับ 2 ประตูที่พวกเขาได้มา แน่นอนว่าเวนเกอร์คงผิดหวังยิ่งกว่าใครเพราะถ้าโอกาสที่ชิรูด์ได้หลุดไปยิงเฉี่ยวเสาก่อนจะโดนมาต้าซัดลูกแรกเข้าไป เกมคงไม่ใช่แบบนี้
ต่อมาในช่วงของครึ่งหลังดูเหมือนว่า "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลจะไปช่วยกันปลุกใจมา ก็แบบว่าเกมลอนดอนดาร์บี้ทั้งที จะมาแพ้เหมือนแบบสู้ไม่ไหวก็กระไร มีจังหวะวัลค็อตต์หลุดวิ่งขึ้นทางขวาของเขตโทษ แต่จังหวะซัดติดเซฟของเช็กที่รับเข้าซองแน่นหนึบ
นาทีที่ 58 เป็นจังหวะการจ่ายบอล การวิ่งทำทางและการจบสกอร์ที่สุดๆจริงๆ เมื่อกาซอร์ล่าได้บอลตรงกลางสนาม เลาะหาโอกาสก่อนเห็นช่องเลยบรรจงไหลน้ำหนัก ทิศทางเป๊ะ ให้วัลค็อตต์ได้วิ่งอ้อมกองหลังไปเอาบอล ก่อนสวมวิญญาณอองรีเอี้ยวตัวซัดบอลด้วยขวา พุ่งไซด์อ้อมเช็กเข้าไปเสียบเสาแรกสวยจับจิต อาร์เซนอลไล่มาเป็น 2-1 ลุ้นกันยาวๆเลยทีนี้
นาทีที่ 69 หลังจากโดนอาร์เซนอลทำคึกใส่หน่อย เชลซีก็พยายามสวนโต้ให้ได้ โดยเป็นตอร์เรสที่วิ่งควบไปเอาบอลที่เพื่อนจ่ายทะลุช่องมาให้ จังหวะแตะครั้งแรกเยี่ยม แต่ครั้งที่ 2 นี่ยาวไป เลยเสร็จเซสนี่ย์ที่พุ่งออกมาคว้าได้อยู่หมัด
นาทีที่ 72 ไม่รู้ว่าเพราะไม่เหมาะกับอากาศหนาวๆที่มีหอมะโปรยแต่อย่างใดสำหรับออสการ์แต่วันนี้เขาเล่นไม่เปรี้ยงเหมือนอย่างที่หวังทำให้เบนิเตซเปลี่ยนเอาเบอร์ทรานด์ที่ที่คุ้นชินกับเกมมากกว่าลงไปเล่นแทน
อีก 3 นาทีต่อมา อาร์เซนอลเปลี่ยนเอาอาร์ชาวินลงสนามแทนที่ของดิยาบี้ ซึ่งเว่ากันซื่อๆเขาน่าจะลงมาเล่นนานแล้วเพราะยังไงสกอร์ก็ตามหลังอยู่ เพิ่มตัวที่มีเทคนิคลุยไปพร้อมกับบอลได้ก็น่าจะเปิดโอกาสให้กับทีมอยู่แล้ว
นาทีที่ 81 สงสัยให้ลงเป็นแก้หนาวสำหรับบาที่ถูกส่งตัวลงไปเล่นแทนตอร์เรสซึ่งวันนี้แม้ว่าจะขยันตามสไตลแต่โดยรวมแล้วหากหวังพึ่งในยามยากนี่ต้องคิดหนักหน่อยเพราะยังขาดความมั่นใจและเด็ดขาดในจังหวะสุดท้ายเหมือนเคย
อีก 2 นาทีต่อมา อยู่ในสนามได้แปบๆก็มีโอกาสเลยสำหรับบาที่หลุดกับดักล้ำหน้าควบไปดวลเดี่ยวกับเซสนี่ย์ก่อนแตะหนีไปได้ แต่จังหวะที่เขาพยายามจะเข้ายิงนั้นมีแฟร์มาเล่นไปยืนบล็อกปืดเหลี่ยมอยู่ พลาดโอกาสไป
ช่วงท้ายเกมอาร์เซนอลบี้สุดๆมีจังหวะเสียวหัวใจของแฟนบอลสิงห์ไฮโซอยู่หลายช็อต แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ช่วยกันยันเอาไว้ได้ ทำให้จบไปด้วยสกอร์ 2-1 คว้า 3 คะแนนในบ้านแก้ตัวฟอร์มแย่ช่วงหลังได้สำเร็จ ยังอยู่ที่ 3 เหมือนเดิมแต่มีเพิ่มเป็น 45 คะแนนตามหลังแมนฯซิตี้ 6 แต้ม ถือว่าไม่ห่างเท่าไหร่
ด้านอาร์เซนอลแย่เลยจังหวะนี้ เพราะแพ้ 2 เกมติด แถมยังหาชัยชนะไม่เจอเป็นเกมที่ 3 ไม่รู้ว่าจะกลับเข้าวงวนฟอร์มตกต่ำเหมือนเดิมรึเปล่า เพราะตอนนี้แข่งไป 22 นัดยังมีแค่ 34 แต้มเหมือนเดิม
ผู้เขียน
หัวข้อ: "แลมพ์" ซัดโทษ~!! พา "สิงห์บลูส์" สอยชัยเหนือ "ปืนโต" หวิด 2-1 (อ่าน 548 ครั้ง)
