ผู้เขียน หัวข้อ: "กูนเนอร์ส" ฝันเปียก~!! ไล่แซง 2-1 โดน "หงส์ขาว" ไล่ตีเจ๊าคืนท้ายเกม~!!  (อ่าน 688 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

กลุ้มใจจริงๆ อุตส่าห์ไล่แซง 2-1 ได้ในช่วงท้ายแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล  เมื่อมาโดน "แกรม" ยิงดับชัยท้ายเกมนาที 87 ทำให้เสมอกัน 2-2 ต้องไปเตะกันอีกนัด



เอฟเอ คัพ รอบ 3
วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2556
สวอนซี 2 - 2 อาร์เซนอล
สนาม ลิเบอร์ตี้ สเตเดี๊ยม

                ในนัดนี้ถือว่าเตรียมทีมกันมาพร้อมกันเต็มที่ทั้งสองฝ่าย จังหวะการเล่นไม่ได้เหลื่อมล้ำกันสักเท่าไหร่ "หงส์ขาว" สวอนซี ถึงชื่อชั้นจะน้อยกว่า แต่เล่นในบ้านตัวเองแบบนี้กำลังใจย่อมเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว

นาทีที่ 13 โอกาสแรกเป็นของเจ้าบ้านที่เด กูซแมนจ่ายยาวต่อไปให้กับแกรมได้แตะหนีแมร์เตซัคเกอร์แล้วลองซัดบังคับให้ตรงกรอบแบบเน้นๆ แต่บอลไม่ผ่านมือของเซสนี่ย์ที่บินปัดเอาไว้ได้อย่างเยี่ยมเลย

นาทีที่ 20 เป็นจังหวะการประสานงานที่น่าดูชมระหว่างวิลเชียร์, ชิรูดและวัลค็อตต์ ก่อนที่ปีกความเร็วสูงจะได้ยิงในเขตโทษ แต่ติดบล็อกของกองหลังที่ช่วยกันกันเอาไว้ได้

นาทีที่ 30 เกือบหล่อแล้วเชียวสำหรับแรมซี่ย์ในจังหวะที่เขาวิ่งสอดขึ้นไปเติมในเขตโทษ เพื่อนจิ้มมาให้ได้จังหวะ ก่อนมิดฟิลด์ไอติมจะล็อกหักหลังแข้งสวอนซีเหมือนจะได้ยิงแล้ว แต่น้ำหนักมันเกินไปหน่อย เลยมีกองหลังเข้าไปมากสัดได้ทันเสียก่อน

นาทีที่ 36 นี่น่าจะเป็นจังหวะใกล้เคียงที่สุดในเกมนี้แล้วสำหรับลูกฟรีคิกของสวอนซีที่โยนเข้าไปลุ้นกันในเขตโทษ บาร์ทลี่ย์ขึ้นสูงกว่าใครโหม่งบอลสวนทางกลับข้ามเซสนี่ย์ไปแล้ว แต่ดันชนคานเข้าซะได้

ช่วงเวลาที่เหลือก็ได้โต้กันไปมาเล็กน้อยแต่พองาม เพราะกองหลังของแต่ละฝ่ายยังเยี่ยมปัดป้องเอาไว้ได้หมด ทำให้จบ 45 นาทีทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0 ไว้ลุ้นกันอีกครึ่งหลัง

               กลับมาเล่นกันต่อช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 52 มันจะได้ได้ยังไง เพราะลูกนี้สะดุดเท้าตัวเองสำหรับแรมซี่ย์ที่พยายามจะควบไปเอาบอลในเขตโทษ แล้วมีผู้เล่นของสวอนซีวิ่งบีบตัดมาจากข้างหลังเหมือนจะเกี่ยวจนล้มคว่ำลงไป เว็บบ์ไม่ได้ว่าเป็นจุดโทษ ก่อนดูภาพช้าแข้งไอติมสะดุดขาตัวเองเห็นๆ

อีก 6 นาทีต่อมา อันนี้ต้องยอมรับแบบสุดติ่งจริงๆสำหรับมิชูทีเพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแปบๆไม่กี่นาทีก็ทำประตูให้ทีมได้เลย จากจังหวะที่เขาตัดบอลที่แย่งโหม่งกันมาได้ ก่อนกระชากหลุดขึ้นไปแม้จะโดนเข้ามาบีบ แต่ก็ซัดบอลสวนผ่านเซสนี่ย์ที่พยายามจะออกมาบล็อกเข้าประตูไป สวอนซีนำ 1-0

นาทีที่ 65 คงต้องบอกว่าน่าผิดหวังจริงๆสำหรับจังหวะนี้ของชิรูด์ เพราะแรมซี่ย์ถือว่าทำได้เยี่ยมในการพลิกบอลแล้วไปครอสจนเกือบสุดเส้นด้านข้างเข้ากลางให้ชิรูด์ได้ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ แต่สะบัดหลุดกรอบออกไปซะอย่างนั้น พลาดจริงๆอาร์เซนอล

มาถึงตอนนี้ลุยหน้าแบบไม่ต้องถามว่าทำไมแล้วสำหรับอาร์เซนอล เพราะประตูตามหลังอยู่แบบนี้เสี่ยงเหลือเกินที่จะกระเด็นตกรอบไปในเอฟเอ คัพ เวนเกอร์คงต้องมีการปรับทัพกันบ้างด้วย เผื่อจะมีทางเลือกในแดนหน้าที่มากขึ้น

นาทีที่ 73 นี่แหละตัวเลือกที่จะช่วยเสริมแนวรุกได้ เมื่ออาร์เซนอลจัดการส่งโพโดลสกี้ลงไปเล่นแทนแรมซี่ย์ หวังว่าการมีกองหน้าเพิ่มอีกตัวจะช่วยกู้สถานการณ์ของเวนเกอร์เอาไว้ให้ได้

ซัพมาก็ซัพไปใส่กันเลย เมื่อโพโดลสกี้ที่ถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองช่วยยิงตีเสมอให้กับอาร์เซนอลได้สำเร็จจากลูกเตะมุมของวัลค็อตต์ที่กอสเชียลนี่ช่วยหนุนบอลที่หลุดออกไปให้กลับมา ก่อนที่โพโดลสกี้จะสังหารเข้าประตูไปเกมเสมอกัน 1-1

นาทีที่ 83 สองนาทีสองลูกจัดไปเลยสำหรับอาร์เซนอลที่พลิกกลับมานำในช่วงท้ายเกม จากการเล่นอันยอดเยี่ยมของกิ๊บส์ที่ชิ่งบอลกับชิรูด์ก่อนจะหวดบอลที่ส่งคืนกลับมาแบบวอลเล่ย์แสกหน้าผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบตาข่ายสวยได้ใจสุดๆ เกมพลิก 2-1 ระทึกได้ใจ

นาทีที่ 87 นี่มันเกมสุดมันส์จริงๆเพราะช่วงท้ายมีการทำประตูต่อๆกันถึง 3 ลูก เมื่อแกรมมาทำประตูไล่ตีเสมอให้กับสวอนซีได้จากลูกเตะมุมที่แม้จะมีผู้เล่นอาร์เวนอลล้อมหน้าล้อมหลังแต่ก็ส่งบอลเข้าไปสู่ประตูได้ เกมเสมอกัน 2-2 จะมีอีกไหม เดี๋ยวได้รู้กัน

จบ 90 นาทีของเกมที่พลิกไปพลิกมา อาร์เซนอลแอบเซ้งตรงนึกว่าจะได้ชัยชนะแล้วสุดท้ายโดนสวอนซีตีเสมอได้ ทำให้ทั้งสองทีมต้องไปเตะกันอีกเกมที่เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา