ผู้เขียน หัวข้อ: จำชื่อเขาไว้ "คาสซิโอ"~!! "สิงห์บลูส์" ยิงตั้งหลายดอกไม่เห็นผลโดนทีเดียวจอด 1-0 ชวดแชมป์~!!  (อ่าน 781 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

คงโดนชื่อนี้หลอกหลอนไปอีกนานสำหรับ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี เพราะครึ่งแรกพวกเขามีโอกาสเพียบที่น่าจะเป็นประตูแต่โดน "คาสซิโอ" เซฟเทพเอาไว้ได้หมด ก่อน "โครินเธียนส์" จะได้ประตูชัยจาก "เกร์เรโร่" ยัดเหยียดความผิดหวังให้ลูกทีมของ "เบนิเตซ" อกหักวืดแชมป์สโมสรโลกไปด้วยสกอร์ 1-0



นัดชิงชนะเลิศ ชิงแชมป์สโมสรโลก
วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2555
โครินเธียนส์ 1 - 0 เชลซี
สนาม โยโกฮาม่า สเตเดี๊ยม

หลังจากที่เคยพา "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน สอยมาแล้ว "ราฟาเอล เบนิเตซ" ก็พร้อมลุ้นถ้วยสโมสรโลกใบที่สองของเขา โดยเกมนี้ให้ "แลมพาร์ด" สวมปลอกแขนลงเป็นกัปตันทีม

               เปิดฉากเริ่มเกมมาได้ไม่ทันไร "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ก็ได้จังหวะที่น่าจะขึ้นนำแบบโคตรๆไปเลย จากจังหวะเล่นลูกตั้งเตะที่โยนเข้าไปแล้วกองหลังของโครินเธียนส์สกัดไม่ดี บอลเข้าทางเคฮิลล์ที่ได้ดีดแบบเต้มๆเน้นๆจ่อๆแล้ว แต่คาสซิโอกลับล้มตัวสกัดเอาได้ก่อนที่บอลจะข้ามเส้น สุดยอดมากๆ

เครื่องไม่ร้อนหรือเครื่องไม่เดินยังไงไม่รู้ แต่เชลซีดูแล้วยังไม่ค่อยมีจังหวะอะไรมากนอกจากลูกฟรีคิกที่ได้ลุ้นเบาๆโหม่งไปโดนบล็อกเท่านั้น เป็นทางโครินเธียนส์ที่ได้โอกาสจากเปาลินโญ่ยิงไกล แต่ก็นะ หลุดไปเยอะ

นาทีที่ 26 จริงๆถ้าใช้จังหวะน้อยกว่านี้หน่อยเพื่อนคงได้ลุ้นกันไปแล้วสำหรับโมเสส ที่ได้บอลทางกราบขวา แต่ดันจะไปเลี้ยงเอาชนะแบ็คของโครินเธียนส์ จังหวะมันเลยขาดๆเกินๆ อดเปิด พอได้บอลอีกรอบก็เปิดไปติดเพราะมุมมันปิดไปแล้ว

นาทีที่ 33 เกือบจะได้ซัดเหน่งๆอยู่แล้วเชียวสำหรับโมเสส ในจังหวะที่เขาได้บอลทางเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้กระดกพาบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วแต่ แต่ตอนง้างจะซัดดันมีกองหลังเข้ามาเบียดก่อน เลยหวดแป้กหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 38 ก็จะหนึบเกิ้นสำหรับลูกนี้ ที่ตอร์เรสวิ่งตัดช่องกองหลังไปเกี่ยวเอาบอลที่เพื่อนโยนย้อยข้ามมาให้อย่างสวย ก่อนที่จะตวัดยิงเร็วทันที ระยะจ่อเลยก็ว่าได้ แต่คาสซิโอผู้รักษาประตูของโครินเธียนส์กลับคว้าไว้ได้อยู่หมัด

อีก 2 นาทีต่อมา อะไรจะเซฟขนาดนี้สำหรับคาสซิโอ เพราะจังหวะที่โมเสสหาช่องทางกราบซ้ายแล้วปั่นด้วยขวาส่งบอลพร้อมเข้าไปเสียบเสาให้สวยๆแล้ว แต่คาสซิโอกลับบินสุดตัวไปปัดมือเดียวออกหลังหน้าตาเฉย

ช่วงเวลาที่เหลือก็ผลัดกันบุกไปๆมาๆตามสเต็ปนิดหน่อย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ 0-0

                กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 54 ถ้าวันนี้เชลซียิงไม่ได้คงนอนไม่หลับมีหน้าคาสซิโอหลอนทั้งคืนแน่ เพราะเป็นเขาอีกครั้งที่ปฏิเสธโอกาสของทีมจากเมืองผู้ดี เมื่อออกไปบล็อกจังหวะกระชากมาจิ้มในเขตโทษของอาซาร์ได้แบบเฉียบขาดเอามากๆ

เข้าหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกม ถ้าดูกันดีๆแล้วโครินเธียนส์จะมีโอกาสลุ้นประตูไม่แพ้เชลซีเลยถ้าพวกเขาเฉียบขาดมากกว่านี้ในพื้นที่สุดท้าย เพราะแม้จะมีโอกาสตัดบอล ครองบอลได้ แต่พอเข้าไปแถวกรอบเขตโทษกลับเหมือนเตะบอลอัดกำแพง เจาะทำกันไม่ได้สักที

นาทีที่ 69 เกมที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในครึ่งหลังทำให้เชลซีต้องจ่ายบทเรียนราคาแพงของพวกเขา เมื่อเจอโคริสเธียนส์บุกอัด จนมาถึงจังหวะที่ดานิโล่รับบอลที่ทะลักมา ก่อนแตะหาจังหวะซัดในเขตโทษ แม้ว่าเชลซีจะช่วยกันบล็อกทั้งเช็กและกองหลัง แต่บอลที่แฉลบพวกเขาก็ตกลงหัวของเกร์เรโร่ที่เทคโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย โครินเธียนส์ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 72 ต้องแก้เกมแล้วสำหรับราฟา เพราะครึ่งหลังปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกมของพวกเขายวบลงไปเยอะ แนวรุกหายไปเลย ต้องเปลี่ยนเอาโมเสสออก ก่อนที่จะให้ออสการ์ลงไปงัดกับบราซิเลี่ยนเหมือนกันในสนาม

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะทวงประตูกลับคืนมาได้เลยสำหรับเชลซี แถมไปๆมาๆจะโดนโครินเธียนส์สวนฝังเอาซะด้วย เกมที่เบนิเตซพยายามแก้ลงไปยังไม่เห็นผลสักเท่าไหร่เลย

แม้ว่าเกมจะดูผ่อนๆเพื่อเน้นสกอร์แล้วก็ตาม แต่เกมของโครินเธียนส์ก้ยังดูแน่นกว่าเชลซีที่เป้นฝ่ายบุกเข้าใส่เหมือนเดิม ต้องดูว่าจะมีปาฏิหารย์สำหรับลูกทีมของเบนิเตซหรือไม่

ก่อนหมดเวลาเคฮิลล์ดันไปโดนใบแดงจากจังหวะที่ไปเล่นนอกเกมใส่ผู้เล่นของโครินเธียนส์ แถมยังเฮเก้อจากจังหวะที่ตอร์เรสชิงโหม่งส่งบอลเข้าประตูไปได้ แต่ไลน์แมนตีธงว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน ทำให้เชลซีต้องผิดหวังอย่างสุดซึ้ง พ่ายให้กับโครินเธียนส์ที่คว้าแชมป์สโมสรโลกไปได้เป็นสมัยที่ 2 ด้วยสกอร์ 1-0
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา