ผู้เขียน หัวข้อ: นำเค้าสไตล์~!! "ทัพผี" นำก่อนโดน "เรือใบ" ไล่เจ๊าก่อน "เพอร์ซี่" ซัดทดเจ็บ 3-2  (อ่าน 937 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

เป็นโคตรสุดยอดเกมดาร์บี้ระดับ 888 ดาวกันเลยทีเดียว เมื่อ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำท่าจะอดคว้า 3 คะแนนเพราะโดน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตีเสมอเอาช่วงท้ายเกม แต่ก็ได้เฮกันลั่นสนามเมื่อดาวยิงดัชท์แมน "ฟาน เพอร์ซี่" ปั่นฟรีคิกช่วงทดเจ็บส่งให้ทีมเฉือนสุดดราม่า 3-2 หยุดสถิติไร้พ่ายของ "เรือใบ" ไปหมดสิ้น



พรีเมียร์ ลีก
วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2555
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 - 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม เอติอัด สเตเดี๊ยม

                 เปิดฉากเริ่มเกมในช่วงครึ่งแรกเพียงไม่กี่นาที เกือบจะมีการวางมวยกันซะแล้ว เริ่มจากจังหวะแรกวาเลนเซียโดนเข้าสกัดแล้วล้มลงไปกอง แต่ผู้ตัดสินไม่เป่า เฟอร์ดินานด์เลยไปจัดการเบรคเกมใสอเกวโร่ก่อนจะโวยว่าไมไม่เป่าจังหวะแรก บาโลเตลลี่เลยปล่อยของจะปรี่เข้าไปเคลียร์ วุ่นวายนิดหน่อย มีกลิ่นเดือดแล้ว

ช่วงแรกนี้เป็นเกมของแมนฯซิตี้แบบแทบจะทั้งหมดเลย จังหวะโอเพ่นเพลย์อาจจะไม่เยอะ แต่ลูกตั้งเตะนี่มีถือว่ากดดันได้พอสมควร เพราะใช้สูตรเบียดบี้เข้าหาเด เกอา แต่ยังไม่ได้เท่านั้น

นาทีที่ 16 ถึงจะไม่ได้บุกอะไรเลย แต่แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนหน้าตาเฉย จากจังหวะสวนกลับที่ยังแตะกระชากขึ้นริมเส้น ก่อนที่จะจ่ายให้รูนี่ย์ที่เบี่ยงตัวหาจังหวะยิงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะตวัดซัดหักข้อแบบสุดๆ ถึงบอลจะไม่แรงแต่พุ่งเลียดเสียบเสาสอง ชนิดที่ฮาร์ทยืนมึนเพราะหลงทางไปแล้ว "ปีศาจแดง" แผลงฤทธิ์นำ 1-0

นาทีที่ 21 เสียหายจริงๆสำหรับแมนฯซิตี้ เพราะนอกจากจะเสียประตูไปแล้ว พวกเขาก้ยังมาเสียกัปตันทีมคนแกร่งอย่างกอมปานีไปอีก แต่ที่ดูแปลกไปอีกคือการที่มันชินี่ส่งตัวโคโล่ ตูเร่ลงไปเล่นแทน ทั้งที่มีเลสค็อตต์ที่ลงเล่นค่อนข้างบ่อยกว่านั่งอยู่ข้างสนามเหมือนกัน

อีก 2 นาทีต่อมา สุดยอดจริงๆสำหรับอเกวโร่ที่จู่ๆก็โชว์จังหวะขุนดันพาบอลลากผ่านฝูงกองหลังของแมนฯยูไนเต็ดที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ถึง 4 คน ก่อนจะมีช่องได้ซัด แต่ต้องบอกว่ายิงน่าผิดหวังไปหน่อย เบาหวิว เด เกอาล้มรับสบาย

นาทีที่ 29 เอาความคมมาจากไหนกันนี่สำหรับรูนี่ย์ที่แม้ว่าเกมนี้เพิ่งจะมีโอก่าสไม่กี่ครั้ง แต่ก็ส่งบอลเข้าไปนอนกองก้นตาข่ายได้ทั้งสองครั้ง เมื่อราฟาเอลได้บอลทางริมเส้นกราบขวา ก่อนที่จะเปิดเลียดเข้ากลางเป็นช่องว่างของกองหลัง รูนี่ย์วิ่งมาชนิดที่ง้างเท้ามาตั้งแต่ห้องน้ำที่บ้านก่อนจะซัดเน้นๆทะแยงเสียบเสาสอง ฮาร์ทล้มตัวยังไงก็ไม่ทัน แมนฯยูไนเต็ดนำห่างถึง 2-0

เข้า 10 นาทีสุดท้าย เกมนี้ถือว่ามาดีผิดตาเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่มักจะเล่นล้มลุกคลุกคลานเวลาเตะเกมใหญ่ แต่นี่ค่อยๆขยับสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ มีการต่อบอล ถ่ายบอล วิ่งทำทางกันได้สวยดีอยู่ตลอด แมนฯซิตี้ยิ่งเล่นยิ่งยากเหมือนกัน

นาทีที่ 42 จริงๆต้องดีกว่านี้เลยสำหรับลูกนี้ของแบร์รี่ เพราะเขาอุตส่าห์ได้เติมไปส่องแถวสอง ทางโล่ง ระยะเยี่ยม แต่ดันหวดด้วยซ้ายข้างถนัดหลุดออกหลังไปแบบไม่มีลุ้นเลย

จบครึ่งแรกเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ชิงออกนำไปก่อนถึง 2-0 จากลูกยิงของรูนี่ย์ทั้งคู่ ต้องดูว่าครึ่งหลังมันชินี่จะงัดอะไรออกมาสู้เพื่อพลิกเกมให้ได้


              ลงสนามมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลีงในนาทีที่ 49 "ทัพผี" จำเป็นจริงๆที่ต้องถอดเอาอีแวนส์ออกไป เพราะฝืนทนเจ็บมาตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว เลยส่งตัวสมอลลิ่งลงไปยืนเซ็นเตอร์แทน

จังหวะเดียวนี้เห้นชัดๆเลยว่าเซ็งแค่ไหนสำหรับมันชินี่ที่ยืนมองดูบาโลเตลลี่เล่นยากทำเสียบอลไปตอกส้นจนทีมเสียเปรียบ กวัวมือเรียกเตเบซให้ถอดชุดวอร์มทันที

อีก 3 นาทีต่อมา เป็นประเด็นเหมือนเคยสำหรับคู่นี้ เมื่อมันชินี่ส่งเตเบซลงไปเล่นแทนบาโลเตลลี่ หอกอิตาเลี่ยนเลยออกอาการไม่พอใจ พอเดินออกจากสนามปุ้บก็เข้าอุโมงค์นักเตะไปเลย โดยที่มันชินี่เหมือนจะรู้นั่งอยู่กับที่ไม่สนอะไร

นาทีที่ 58 ถ้าไม่ได้เฟอร์ดินานด์ลูกนี้ล่ะเสียแน่นอนสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อแมนฯซิตี้บุกขึ้นทางขวาก่อนที่จะครอสบอลทะแยงเข้าไปเขตโทษยาวถึงเสาสองที่มีอเกวโร่วิ่งมารออยู่แล้ว ยังดีที่แข้งปากเป็ดทิ้งตังตวัดบอลเอาไว้ได้ก่อน หวิดจริงๆ

นาทีที่ 60 เป็นประเด็นแน่นอนจริงๆสำหรับลูกนี้ เมื่อผู้ตัดสินเป่าลูกยิงซ้ำดาบสองจากการที่ฟาน เพอร์ซี่ซัดชนเสาของยังว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ทั้งที่ไม่ได้ล้ำ ก่อนที่แมนฯซิตี้จะใช้สวนบุกสวนขึ้นไป ก่อนกระหน่ำยิงอัดใส่เด เกอาจ่อๆสองดอกเซฟได้หมด สุดท้ายเตเบซป้ายคืนให้ยาย่าเอียงตัวแปบอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไป แมนฯซิตี้ตามมาแล้วเป็น 2-1

นาทีที่ 66 เกมนี้มีจังหวะเยอะเหลือเกิน เพราะสมอลลิ่งไปสไลด์สกัดบอลแล้วเหมือนตัวจะพุ่งเลย ก็เลยใช้มือแตะบอลเอาไว้ก่อน แม้ว่าผู้เล่น "เรือใบ" จะโวยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร

นาทีที่ 72 ฉุนขาดเลยสำหรับสมอลลิ่ง ที่เขาอุตส่าห์วิ่งบล็อกบังจังหวะของอเกวโร่ได้แล้ว หวังจะให้เด เกอาออกมาตัดบอลตามสูตร แต่นายด่านลามะดันยืนนิ่งอยู่กับที ทำให้สมอลลิ่งต้องฝืนบังต่อจนบอลออกก ก่อนจะหันไปโวยแหลกว่ายืนทำไข่แข็งอะไรอยู่

ดูแล้วไม่คุ้มเลยสำหรับการเข้าจังหวะนี้ของยาย่าที่เพิ่งจะโชว์กระชากสุดเทพหลบสองไป แต่เขาดันไปทำฟาวล์ปะทะใส่เคลฟเวอร์ลี่ย์ โดนใบเหลืองไม่พอ เหมือนตัวเองจะเข้าผิดเหลี่ยมลงไปเจ็บอีก

นาทีที่ 80 จังหวะนี้ยกอะไรขึ้นมาปัดป้องไม่ทันแล้วจริงๆสำหรับเด เกอา จากจังหวะที่เอฟร่าไปเหม่อจนโดนซิลบากระชากถึงสุดเส้นหลัง ก่อนที่จะล็อกหลอกเข้าซ้ายแล้วยิงยัดเสาแรกทันที แต่เด เกอายืนเฝ้าอยู่เลยใช้หัวไหล่กระดกบอลแฉลบติดคานเด้งออกไป

นาทีที่ 86 เป็นจังหวะซัดฮาล์ฟวอลเล่ย์ที่สุดสวยมากจริงๆสำหรับซาบาเลต้าที่ทำประตูตีเสมอให้กับแมนฯซิตี้ได้ จากลุกเตะมุมที่บอลเข้าทางเขาซัดทะลวงผ่านฝูงนักเตะเข้าไปกระแทกตาข่าย เกมเสมอกัน 2-2

กรี๊ดกันคอแตกไปเลย เมื่อช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาได้ประตูชัยจากจังหวะยิงฟรีคิกของฟาน เพอร์ซี่ที่ซัดไปแแลบขากองหลังของแมนฯซิตี้ ก่อนที่จะพุ่งโค้งผ่านมือฮาร์ทไปเสียบเสาไกลสุดสวย แมนนฯยูไนเต็ดนำอีกครั้ง 3-2

จากจังหวะนี้เฟอร์ดินานด์ดีใจแล้วโดนแฟนบอลของเจ้าบ้านปาของใส่จนเลือดแตก ก่อนจะมีเรื่องวุ่นวายขึ้นจนเกมต้องดีเลย์ งานนี้งานเข้าแน่นอนสำหรับแมนฯซิตี้

จบ 90 นาทีเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจัดการเอาคืนได้หมดทั้งชัยชนะและความดราม่า เมื่อพวกเขาเฉือนซิวชัยเหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไป 3-2 ทำให้แข่ง 16 เกมมี 39 คะแนนนำห่างแมนฯซิตี้ไปถึง 6 แต้ม

แค่นั้นยังไม่พอ พวกเขายังยัดเยียดความปราชัยเกมแรกในฤดูกาลนี้และเกมแรกในถิ่นเอติฮัดของทีม "เรือใบ" ที่สู้รักษามาถึง 37 เกมด้วยกัน
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา