เกือบจะไม่รอดซะแล้วสำหรับ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริเ ถ้าไม่ได้ "เมซุต โอซิล" สวมบทฮีโร่ซัดฟรีคิกก่อนหมดเวลานาทีเดียวทำให้รอดพ้นความปราชัยคาบ้านตีเจ๊า "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-2
แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี
วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2555
เรอัล มาดริด 2-2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด หมายมั่นปั้นมือจะถอนแค้นจากการบุกไปแพ้มาก่อนในเกมแรกให้ได้โดยจัดแนวรุกลงเต็มสูบนำโดย "คริสติอาโน่ โรนัลโด้" และ "กอนซาโล่ อิกวาอิน" ที่ยืนปักหลักล่าตาข่าย เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงแรกทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีรอช้าจัดการเปิดเกมบุกใส่กันตามสไตล์บอลเอ็นเตอร์เทนด้วยกันทั้งคู่แต่ก็ยังไม่มีจังหวะยิงใส่กันแบบจะแจ้งมากเท่าไหร่นัก
มาถึงนาทีที่ 14 มาริโอ เกิทเซ่เลี้ยงบอลทะลุมาถึงกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนป้ายไปให้มาร์เซล ชเมลเซอร์ที่เติมขึ้นมาได้ส่องด้วยขวาเต็มๆแต่อีเคร์ กาซีญาสยังทุบบอลพ้นอันตรายออกไปได้
นาทีที่ 22 มาดริดน่าได้ประตูขึ้นนำบ้างเมื่อกอนซาโล่ อิกวาอินได้บอลหลุดไปทางริมเส้นด้านขวาโล่งๆก่อนตวัดเข้ากลางประตูไปให้คริสติอาโน่ โรนัลโด้ที่รออยู่ตรงจุดโทษได้โขกแต่โดนไม่ดีบอลออกหลังไป
กลายเป็นฝั่งของทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำก่อนจนได้จากจังหวะที่เลวานดอฟสกี้โหม่งขงออกไปให้มาร์โค รอยส์ที่เติมขึ้นมาริมเส้นด้านขวาซึ่งเขาบรรจงยิงเต็มข้อบอลฮุคเสียใต้คานเข้าไปหมดปัญญาที่กาซีญาสจะป้องกันเอาไว้
เสียประตูไปไม่เท่าไหร่เรอัล มาดริดพยายามทวงประตูอย่างหนักหน่วงและก็สามารถทำสำเร็จจนได้เมื่อโอซิลได้ตั้งป้อมเปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายมาให้เปเป้โถมตัวขึ้นโขกคนเดียวบอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าประตูไป
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย"ราชันชุดขาว"มาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกไกลบริเวณริมเส้นด้านซ้ายซึ่งซาบี อลอนโซ่บรรจงเปิดบอลเข้ามาตรงจุดนัดหมดให้รามอสกระโดดขึ้นโหม่งแต่บอลหลุดเสาไกลออกไป
ก่อนหมดครึ่งแรกไม่กี่อึดใจ"เสือเหลือง"มาได้ประตูออกนำอีกครั้งเมื่อเควิน โกรสครอยซ์วิ่งควบมาเก็บบอลที่เลวานดอฟสกี้โหม่งชงมาให้บริเวณหน้าปากเขตโทษด้านซ้ายก่อนกระดกเข้ากลางประตูให้เกิทเซ่ที่เติมขึ้นมาพักบอลหนึ่งจังหวะก่อนแตะข้ามกาซีญาสที่พยายามออกมาบล็อกเข้าไปกองก้นตาข่ายแต่ดูเหมือนจังหวะสุดท้ายจะเป็นอาร์เบลัวที่โดนบอลเข้าประตูตัวเองพร้อมกับเสียงนกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก
ลงสนามมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง "ชุดขาว" ได้เฮเก้อกันก่อนเมื่อกาเญฆ่อนได้บอลหลุดเดี่ยวไปบรรจงแปบอลนอกกรอบเขตโทษชนโคนเสาด้านขวาเข้าประตูไปแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
น. 50 มาดริดเกือบได้ประตูตีเสมออีกครั้งในจังหวะที่อลอนโซ่แทงบอลทะลุช่องมาให้กาเญฆ่อนได้ส่องหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลหลุดออกเสาด้านขวาไปเส้นยาแดงผ่าแปดจริงๆ
หลังจากดาหน้าบุกอยู่เกือบ 15 นาทีแรกของครึ่งหลังดอร์ทมุนด์ก็งัดเกมหนักขึ้นมาแก้เกมและก็ได้ผลเมื่อหยุดเกมรุกของมาดริดได้ดีพอสมควรแต่ก็ต้องแลกมาด้วย 2 ใบเหลืองของทั้งเควิน โกรสครอยซ์และแมตส์ ฮุมเมิ่ลส์
โอกาสทองของมาดริดมาในนาทีที่ 79 เมื่อดิ มาเรียได้บอลริมกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจ่ายทะลุช่องมาให้โรนัลโด้ได้จิ้มบอลกลางประตูในจังหวะสุดท้ายแต่ไวเดนเฟลเลอร์ยังออกมาบล็อกเอาไว้ได้หวุดหวิดโดยจังหวะต่อเนื่องนั้นกาก้าโดนเคห์ลเบียดล้มลงไปแต่กรรมการยังเฉยไม่เป่าเป็นจุดโทษ
มาดริดจ่อได้ประตูตีเสมออีกรอบในจังหวะที่โรนัลโด้ขึ้นโขกบอลกลางประตูมาให้ดิ มาเรียเข้าชาร์จที่เสาสองแต่บอลมาเร็วทำให้ดาวเตะอาร์เจนไตน์จิ้มบอลไปโดนหน้าแข้งก่อนออกหลังไปอีกครั้ง
เหลืออีก 5 นาทีสุดท้ายมาดริดเอาบอลมาป้วนเปี้ยนในกรอบเขตโทษของทีมเยือนอีกครั้งก่อนที่ดิ มาเรียจะจ่ายบอลไปให้โอซิลได้จิ้มตรงกรอบ 6 หลาบอลผ่านมือของไวเดนเฟลเลอร์ไปแล้วแต่โกรสครอยซ์ยังลงมาเคลียร์ออกจากเส้นได้หวุดหวิด
เมซุต โอซิลมาพังประตูตีเสมอให้ทีมจนได้จากจังหวะปั่นฟรีคิกสุดสวนบริเวณนอกกรอบเขตโทษด้านขวาบอลโค้งผ่านกำแพงก่อนมุดเข้าโคนเสาแรกไวเดนเฟลเลอร์ขยับมาปัดป้องไว้ไม่ทันก่อนจบเกมด้วยการเสมอกัน 2-2