ในเกมนี้แฟนบอล "ปืนโต" นี่ถึงกับต้องลุกๆนั่งๆกันทั้งสนาม เมื่อทีมรักของตนในช่วงแรกทำท่าจะเงิบโดนยิงก่อน 4-0 แต่ก็โชว์เทพไล่ตามตีเสมอได้ พลิกแซง โดนยิงเจ๊าแล้วนำอีกรอบจากแฮทริกของ "วัลค็อตต์" ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เอาสรุปสุดท้าย "ปืนใหญ่" เอาชนะ "เรดดิ้ง" ไปแบบสุดจะบรรยายด้วยสกอร์ 7-5
แคมปปิตอล วัน คัพ รอบ 4
วันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2555
เรดดิ้ง 5 - 7 อาร์เซนอล
สนาม มาเดจสกี้ สเตเดี๊ยม ออกสตาร์ทช่วงครึ่งแรกมาในนาทีที่ 13 กองหลังพลาดง่ายไปหน่อยสำหรับอาร์เซนอลในจังหวะนี้ เพราะแบ็คซ้ายไปปล่อยให้เรดดิ้งพาบอลกระชากขึ้นหน้าไปแบบเห็นๆ ก่อนที่จะเปิดยาวไปเสาสองที่มีโรเบิร์ตส์พุ่งเข้าชาร์จสบายไม่มีใครประกบสักคนส่งบอลเข้าไปอัดตาข่าย เรดดิ้งนำ 1-0
นาทีที่ 19 ไม่มีใครคาดคิดจริงๆว่าอารเซนอลจะมาโดนถึ 2-0 ไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เมื่อพวกเขาเจอเรดดิ้งทำเกมขึ้นทางขวา จ่ายบอลกันอย่างสวย ก่อนที่จะเปิดยัดเข้าไปเสาแรก กอสเซียลนี่พยายามจะแหย่ขาสกัด แต่ดันไปโดนเหลี่ยมกองหน้าที่สะกิดบอลอย่างสวยพุ่งเสียบมุมแคบผ่านมือของมาร์ติเนซเข้าประตูไป เกมห่างเลยตอนนี้
อีกเพียงหนึ่งนาทีต่อมา อาร์เซนอลก็มาเสียประตูที่ 3 ไปแบบช็อกจริงๆ เพราะจังหวะที่กำลังเล่นเกมรับก็ดูเหมือนว่าจะโอเค แต่พอเคลียร์บอลไม่ขาด เลยเจอไลเกอร์วูดยิงสวน แม้ว่าวิถีของบอลจะไม่ได้หนีตัวมาร์ติเนซอะไรมากมาย แต่เขาดันปัดพลาดทำบอลปลิ้นเข้าประตูไปซะงั้น เกมพลิกสุดๆเพราะเจ้าบ้านนำถึง 3-0 แล้ว
ตอนนี้แม้ว่าอาร์เซนอลจะพยายามเหลือเกินที่จะทวงประตูคืนมาให้ได้ก่อน แต่พวกเขาก็ทำได้แค่ถ่ายบอลเคาะกันไปมารอบๆสนาม เพราะเรดดิ้งถอยไปยืนกันแน่นในแดนขงพวกเขาเอง แทบไม่มีช่องให้ลูกทีมของเวนเกอร์เข้าไปลุ้นประตูแบบจริงๆจังๆเลยสักนิด
นาทีที่ 37 เจอแบบนี้ทำใจได้ยากจริงๆสำหรับแฟนบอลของอาร์เซนอลที่เดินทางมาเขีย์ทีมรักของตัวเอง เมื่อพวกเขามาโดนประตูที่ 4 เละเทะสุดๆในจังวะที่เสียบอลกลางสนาม ก่อนเจอเรดดิ้งถ่าวบอลออกข้างแล้วครอสเข้าในอย่วงรวดเร็ว เป็นฮันท์เทคตัวได้ก่อนกองหลังอาร์เซนอลโขกบอลสุดเฉียบผ่านมือของมาร์ติเนซชิ่งเสาเข้าประตูไป ไม่อยากจะเชื่อจริงๆสำหรับสกอร์ที่มีตอนนี้
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ไม่มีทางเลือกใดๆเลยสำหรับอาร์เซนอล นอกจากต้องเดินหน้าลุยอย่างเดียวเท่านั้น เพราะถ้ายังไม่ได้ประตูตีไข่แตกก่อนจบครึ่งแรกนี่บอกได้เลยว่าโอกาสพลิกยากสุดๆ
ช่วงทดเวลานาทีที่ 2 ในที่สุดอาร์เซนอลก็มได้ประตูที่จุดประกายความหวังเล็กๆให้กับพวกเขา เมื่อวัลค็อตต์วิ่งไปับบอลที่เพื่อนแทงทะลุช่องไม่ล้ำหน้า ก่อนจะโชว์ความเยือกเย็นชิพบอลนิ่มๆผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป อาร์เซนอลตามมาเป็น 4-1 พร้อมเสียงเป่าหมดเวลาครึ่งแรก ต้องดูว่าในอีก 45 นาที เวนเกอร์จะปลุกเร้าลูกทีมจนสร้างปาฏิหารย์ได้หรือไม่
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังลงสนามมาพบกันอีกครั้งนึงก็แทนที่จะได้บุก กลายเป็นโดนกดดันหนักซะงั้นสำหรับอาร์เซนอล เมื่อเรดดิ้งทำเกมใส่แบบไม่ยั้ง ก่อนจะได้เตะมุมถึงสองครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังช่วยกันดีกันเอาไว้ได้ แม้ว่าหวุดหวิดเสียจุดโทษจากจังหวะที่ชามัคห์ไปเบียดผู้เล่นเจ้าบ้านล้มในเขตโทษก็ตาม
หลังจากมึนๆอึนๆกันไปในช่วงแรก ตอนนี้อาร์เซนอลก็เซ็ตเกมของพวกเขาได้ดีมากขึ้น มีจังหวะบุกจากทั้งวัลค็อตต์และชามัคห์ที่เกือบจะได้จุดโทษ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วก็ยังมีปัญหาเรื่องจังหวะสุดท้ายอยู่นั่นเอง
นาทีที่ 64 ไล่มาแล้วสำหรับอาร์เซนอล เมื่อชิรูด์ที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงสนามนั้นสวมบทซูเปอร์ซัพทำประตูให้กับทีมได้ในจังหวะเตะมุมที่เขาสอดไปโหม่งสะบัดส่งบอลพุ่งเสียบเสาสอง ทีมเยือนตามมาเป็น 4-2 ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของอาร์เซนอลที่จะไล่ล่าคว้า 2 ประตูเพื่อตีเสมอให้ได้ เพราะการแก้เกมของเวนเกอร์ถือว่าทำได้ดี ตัวที่เปลียนลงสนามมีส่วนกับเกมทั้งหมด
นาทีที่ 77 จวนเจียนจะได้อีกประตูเหมือนกันสำหรับชิรูด์ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการลุ้นตีเสมอให้กับทีม จากจังหวะที่อาร์ชาวินเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขโทษ ชิรูด์โหม่งได้แบบเหมาะๆอีกครั้ง แต่คราวนี้เฟเดริชี่ไม่พลาด พุ่งปัดเอาไว้ได้เยี่ยมไม่แพ้กัน
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ขอประตูที่สามก่อนเพื่อต่อโอกาสในการที่จะเข้ารอบต่อไปสำหรับอาร์เซนอลที่ตอนนี้บุกกระจุยกระจาย เหลือแต่โอกาสที่จะจบสกอร์ให้ได้ถนัดๆชัดๆเพียงเท่านั้น แต่ถ้าดูจากเวลาก็ต้องบอกว่าเสียวไม่ทันแทนจริงๆ
นาทีที่ 89 อาจจะมาช้าไปหน่อยรึเปล่าไม่รู้แต่ที่แน่ๆตอนนี้อาร์เนอลมีลุ้นสุดๆ เมื่อไล่ตามมาเป็น 4-3 จากลูกเตะมุมที่กอสเซียลนี่ได้ขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆส่งบอลเข้าประตูไป ต้องดูแล้วว่าเวลาที่เหลืออีกน้อยนิดพวกเขาจะทำได้หรือไม่
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่มีการทดเกินออกไปเป็น 5 นาทีเศษๆ ก็เอาจนได้จริงๆสำหรับอาร์เซนอลที่ทำประตูตีเสมอได้ราวกับปาฏิหารย์เมื่อเจนกินสันลุยขึ้นหน้าไปตวัดยิงผ่านมือผู้รักษาประตูไป แม้ว่าชอรี่ย์จะสกัดออกมาได้ แต่บอลมันข้ามเส้นไปแล้ว ทำให้จบ 90 นาทีต้องมีการต่อเวลากันออกไปอีกครึ่งชั่วโมงเพราะทั้งคู่เสมอกัน 4-4
ช่วงต่อเวลาพิเศษ เปิดฉากช่วงต่อเวลาพิเศษมาในนาทีที่ 103 พลิกแล้วพลิกสุดสุดยอดไปเลยสำหรับอาร์เซนอลที่มาได้ประตูขึ้นนำครั้งแรกในเกมนี้ จากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของชามัคห์ที่กดเลียดส่งบอลพุ่งเสียบเสาเข้าประตูไป เกมพลิกมาเป็น 5-4 ใครจะไปคิด
นาทีที่ 108 แลกกันคนละหมัดจนหวาดเสียวไปหมดเลย เมื่อวัลค็อตต์แตะหนีกองหลังของเจ้าบ้านก่อนที่จะหลุดเข้าไปยิงเน้นๆในกรอบเขตโทษได้แต่โดนติดเซฟ ก่อนที่เรดดิ้งจะมีโอกาสหลุดเหมือนกัน แต่กอสเซียลนี่ก็ช่วยเอาไว้ได้
นี่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงกันเลยจริงๆเมื่อเรดดิ้งมาได้ประตูตีเสมอเอาคืนในนาทีที่ 116 จากจังหวะการเปิดยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วบอลแฉลบกลายเป็นตั้งให้โพเกร็บเนียคได้โหม่งจ่อๆไม่มีเหลือ สุดมันส์จริงๆเลยเชียว
สุดท้ายอาร์เซนอลมาได้ประตูปิดกล่องจากลูกยิงชิพข้ามหัวของชามัคห์ในนาทีสุดท้าย ช่วยให้อาร์เซนอลปิดฉากเกมพลิกนรกเดือดสุดมันส์เอาชนะเรดดิ้งไปด้วยสกอร์ 7-5