เหล่า "เดอะ ค็อป" ทั้งหลายถึงกับต้องหงอยกันไปเลยเมื่อทีมรัก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อุตส่าห์ยิงขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ไก่โห่ 2 ลูกแต่เจอโคตรบอลตื้อ "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ไล่ยิงตีเสมอแถมเกือบได้ประตูชัยหลายหนลงท้ายแบ่งแต้ม 2-2 ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์
พรีเมียร์ ลีก
วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2555
เอฟเวอร์ตัน 2 - 2 ลิเวอร์พูล
สนาม กูดิสัน ปาร์ค "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เปิดรังกูดิสัน ปาร์คระเบิดศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์เกมที่ 219 กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โดยที่พวกเขาจะได้ตัว "เฟลไลนี่" กลับมาช่วยเสริมความแน่นให้กับทีม
ส่วนทางด้าน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องใช้บริการของ "โจนส์" ต่อไปอีกเกม เพราะ "เรน่า" ยังไม่ผ่านความฟิตกลับมาเฝ้าเสาได้ ส่วน "ซัวเรซ" และ "เจอร์ราร์ด" ยังคงเป็นแกนหลักให้กับทีมในเกมนี้ โดยมีดาวรุ่งอย่าง "ซูโซ่" และ "สเตอร์ลิ่ง" ที่พร้อมป่วนแนวรับของเจ้าบ้านอยู่ตลอดเวลา
เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงแรกก็ไม่ต้องรีรออะไรให้เสียเวลา ทั้งสองทีมลุยใส่กันทันที แต่ถ้าจะให้เสียวสุดต้องเป็นจังหวะที่มิราลาสลากบอลจี้เข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนหักข้อเปิด แอกเกอร์พุ่งเข้าใช้ขาแหย่ก่อน แม้จะเสียวว่าบอลอาจปลิ้นเข้าประตู แต่ก็เป็นการป้องกันที่น่าดูชม
นาทีที่ 14 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วเลยจริงๆ สำหรับจังหวะที่เอ็นริเก้ลากบอลไปเปิดสุดเส้น บอลทะลักไปถึงซัวเรซที่ยืนโล่งเสาสองคนเดียว วางเท้าอย่างแน่นแล้วยิงยัดผ่านฮาวเวิร์ดไป แม้ว่าเบนส์จะพยายามยืนค้ำที่เส้น แต่บอลมันแรงเกินเลยโดนตัวเขาพุ่งทะลุเข้าประตู
แต่ทีเด็ดมันไม่ได้อยู่ที่แค่การทำประตู เพราะซัวเรซเหมือนผูกใจเจ็บกับบทสัมภาษณ์ของมอยส์ที่อยากให้ผู้ตัดสินระวังเรื่องการพุ่งล้มของเขาก่อนเกม พี่แกเลยวิ่งไปกระโดดทำท่าพุ่งล้มดีใจต่อหน้าม้านั่งของทีมเอฟเวอร์ตันซะงั้น แสบจริงๆ
นาทีที่ 20 ไม่ต้องชิ่งใครเข้าให้เหนื่อยอีกสำหรับจังหวะนี้ที่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากลูกฟรีคิกซึ่งเจอร์ราร์ดเปิดเข้ามาได้น่ากลัวสุดๆ ก่อนที่ัซัวเรซจะพุ่งตัวเข้าใช้หัวโหม่งเช็ดบางๆส่งบอลผ่านฮาวเวิร์ดที่ไม่รู้จะรับยังไงกับลูกนี้เข้าประตูไป เกมห่างเร็วจริงๆ
อีก 2 นาทีต่อมา มันส์ระเบิดแตกจริงๆสำหรับเกมนี้ เมื่อเอฟเวอร์ตันไม่มีหงอ จัดการเอาคืนลิเวอร์พูลทันควันทันใจ เมื่อโจนส์ออกไปชกบอลจากลูกเตะมุมไม่ขาด โดนออสมันหวดสวนตูมเดียวส่งบอลพุ่งเสียบตาข่าย เกมมาเป็น 2-1
นาทีที่ 32 อาจจะด้วยการที่ยังเด็กอยู่ประสบการณ์เลยยังน้อยไปหน่อยสำหรับสเตอร์ลิ่งที่เสี่ยงทำให่ตัวเองโดนไล่ออก จากการไปเกี่ยวเบนส์จากด้านหลังทั้งที่ตัวเองมใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว แม้จะมีเสียงกดดันจากแฟนบอลในสนาม แต่มาร์ริเนอร์ก็ยังไม่แจก แต่ดูจากการตักเตือนแล้ว มีอีกนิดครั้งหน้าโดนแน่นอน
นาทีที่ 35 สนามแทบแตกกันเลยทีเดียว เมื่อเอฟเวอร์ตันมาตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่เฟลไลนี่ตวัดเปิดจากด้านข้าง หลังของลิเวอร์พูลยืนโหว่เต็มๆ เลยเจอเนสมิธพุ่งสอดตัวเข้าชาร์จจ่อๆส่งบอลตุงตาข่าย เกมเสมอกันแล้ว 2-2
เข้าช่วง 5 นาทีสุดท้าย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของเอฟเวอร์ตันที่ดูจะทำได้ดีกว่า เพราะโมเมนตั้มหันมาทางพวกเขาเต็มที่ แถมได้เสียงเชียร์ในบ้านตัวเองแล้วด้วยเนี่ย ยิ่งทำให้เล่นมั่นใจขึ้นไปใหญ่
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เสียชื่อกัปตันหมดเลยสำหรับเนวิลล์ในจังหวะนี้ที่เขาไปทิ้งตัวหวังจะเอาลูกฟรีคิกแบบดื้อๆทั้งที่แอกเกอร์ยังไม่ทันได้เข้าปะทะโดนเลยสักนิด เลยเจอจดชื่อไปตามระเบียบ จนจบ 45 นาทีแรกอันสุดมันส์ ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ที่ 2-2 ต้องดูว่าครึ่งหลังจะมีให้แฟนบอลได้ชมกันอีกสักกี่ตุง
ลงสนามมาเจอกันในช่วงครึ่งหลังจากจังหวะที่โดนซัวเรซเสียบหนัก ทำให้มิราลาสเจ็บเล่นต่อไม่ได้และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปในช่วงพักครึ่ง โดยเอฟเวอร์ตันส่งเกย์ลงเล่นแทน ส่วนลิเวอร์พูลก็มีปรับทัพโดยส่งโคอาเตสลงเล่นแทนซาฮิน แล้วให้เชลวี่ย์ยืนแทนซูโซ่ที่ครึ่งแรกหายไปเลยด้วย
นาทีที่ 49 ยังไงก็ต้องดีกว่านี้เท่านั้นสำหรับจังหวะนี้ของสเตอร์ลิ่งที่เอ็นริเก้อุตส่าห์แทงบอลอ้อมไปให้สวยเว่อร์จนหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษโล่งๆ แต่เจ้าหนูแข้งทองกลับยิงแป้กบอลหลุดออกข้างไปเลย ทั้งๆที่ตรงกลางก็มีซัวเรซรออยู่อีกคน
แม้ว่าประตูจะไม่ได้ไหลมาเทมาเหมือนอย่างในครึ่งแรก แต่เกมในครึ่งหลังก็ยังคงเปิดหน้าแลกกันแบบสนุกได้ใจแฟนบอลไม่สร่าง ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าประตูต่อไปจะไปอยู่ที่ฝั่งไหนเท่านั้นแล้วในตอนนี้
นาทีที่ 61 เป็นจังหวะเข้าสกัดที่เฉียบพอตัวเลยสำหรับวิสดอม กับการที่เยลาวิชหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงไหลเข้ากลางหมายให้โคลแมนชาร์จให้หายซะ แต่วิสดอมเข้าเบียดจากด้านหลัง ก่อนแหย่ขาปั้มบอลได้ก่อนนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 69 ลูกเปิดของเบนส์ที่โยนฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษนั้นถือว่ายอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่จังหวะขึ้นเทคของเยลาวิชนั้นพลาดไปเอง เพราะแม้ว่าเขาจะได้ขึ้นคนเดียว แต่กลับหัวเบี้ยวโหม่งบอลหลุดออกไปไกลเลยซะงั้น
อีกหนึ่งนาทีต่อมา ลิเวอร์พูลจัดการเปลี่ยนตัวครบโควต้าเลย เมื่อตัดสินใจส่งเฮนเดอร์สันลงไปเล่นแทนวิสดอมที่วันนี้โดนมิราลาสพาทัวร์อยู่หลายครั้งเหมือนกันในครึ่งแรก
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างกดดัน ด้วยการที่เกมไม่ได้แตกต่างกันมาก ถ้ามีใครพลาดท่าขึ้นมาล่ะก็ยุ่งแน่นอน แม้ว่าเอฟเวอร์ตันจะได้บุก แต่ลิเวอร์พูลก็จ้องจะสวนกลับตลอดเวลาอยู่แล้ว
นาทีที่ 83 ไปเล่นติดประมาทกันเกือบได้เรื่องแล้วสำหรับกองหลังของเอฟเวอร์ตัน เพราะพยายามจะบังบอลแต่ดันทำได้ไม่สุด สุดท้ายแล้วทำให้เจอร์ราร์ดมีโอกาสได้ยิงเหน่งๆในเขตโทษ ยังดีที่เพื่อนช่วยกันบล็อกไว้ได้ทัน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูลได้เฮเก้อกันไปหนึ่งดอกจากฟรีคิกของเจอร์ราร์ดที่เปิดเข้าไปแล้วซัวเรซส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนตีธงขึ้นมาไม่ให้ประตู ทำให้จบ 90 นาทีเอฟเวอร์ตันไล่ตามตีเสมอลิเวอร์พูลไปแบบมันส์สุดๆ 2-2 แม้จะแบ่งแต้มแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าการเป็นดาร์บี้ แมตช์โดยแท้