พิมพ์

[Armin]

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของกุนซือมาดเท่ "โรแบร์โต้ มันชินี่" ยังงึกๆงักๆอย่างต่อเนื่อง เมื่อล่าสุดเกือบจะเจ๊งโดยต้องอาศัยลูกยิงไกลสุดสวยของ "คาร์ลอส เตเบซ" ก่อนกำราบ "หงส์ขาว" สวอนซี ผู้มาเยือนหืดจับ 1-0 ขึ้นมายืนเป็นรองจ่าฝูงชั่วคราวรอแช่ง "สิงห์บลูส์" เชลซีกับ "ปีศาจแดงดำ" แมนฯยูไนเต็ด ในวันนี้ต่อไป



พรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2555
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 สวอนซี ซิตี้
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม

              เปิดฉากเริ่มเกมในช่วงครึ่งแรกถึงแม้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะเป็นเจ้าบ้านแต่ก็ไม่สามารถเปิดเกมบุกใส่สวอนซีได้เหมือนกับที่คาดตรงกันข้ามวันที่ที่เป็นทีมเยือนมาสู้ได้ดีแถมมีโอกาสโต้กลับอยู่หลายครั้งเหมือนกัน

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 20 เกมต้องหยุดพักนิดหน่อยเมื่อมิชูพยายามพุ่งเข้าชาร์จหน้าปากประตูแต่โดนไมก้าห์ ริชาร์ดส์เข้ามาบวกด้านหลังทำให้ดาวเตะสเปนร่วงลงไปกองกับพื้นทีมแพทย์ต้องเข้ามาดูอาการก่อนที่เจ้าตัวจะกลับมาเล่นต่อได้ไม่มีปัญหา

มาถึงนาทีที่ 36 "หงส์ขาว"ได้จังหวะส่งบอลเข้าตุงตาข่ายจากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของมิชูแต่ไลน์แมนกลับยกธงว่าเขาอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อนทำให้ทีมเยือนพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย

ถัดมาเพียง 2 นาที"เรือใบสีฟ้า"มีโอกาสลุ้นประตูบ้างเมื่อคาร์ลอส เตเบซได้สับไกยิงภายในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่บอลยังไปเข้ามือของมิเชล ฟอร์มที่รับเอาไว้ได้

เกมของสวอนซีดูจะสร้างปัญหาให้เจ้าถิ่นได้มากทีเดียวโดยมิชูได้บอลแทงทะลุช่องมาจากกลางสนามก่อนหลุดไปเผชิญหน้ากับฮาร์ทตัวต่อตัวแต่ยังเป็นมือกาวทีมชาติอังกฤษที่ออกมาเร็วล้มตัวบล็อกบอลเอาไว้ได้ในนาทีที่ 40

              ออกสตาร์ทครึ่งหลังเกมขึ้นมาไม่ถึงนาทีแมนฯ ซิตี้พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่โดยอเกวโร่ได้ลากบอลเบียดกับผู้เล่นสวอนซี 2-3 คนมาถึงหน้าปากเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวาแต่บอลปลิ้นหลังเท้าเหินออกไปไกล

"เรือใบสีฟ้า"เริ่มเปิดเกมบุกหนักมากขึ้นและในนาทีที่ 53 ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ได้หลุดไปเปิดบอลในเขตโทษด้านขวาแต่มาริโอ บาโลเตลลี่ที่รออยู่กลางประตูโดนเบียดหน้าคะมำลงไปทำให้ไม่ถึงบอลและไม่มีเสียงนกหวีดจากกรรมการ

มาถึงนาทีที่ 59 โจ ฮาร์ทช่วยให้เจ้าถิ่นรอดพ้นการเสียประตูได้เมื่อมิชูได้จังหวะพุ่งโขกบอลที่เปิดมาจากริมเส้นด้านขวาเต็มหัวแต่จอมหนึบทีมชาติอังกฤษยังปัดออกมาได้แบบต้องยกนิ้วให้

นาทีที่ 61 "เรือใบสีฟ้า"ขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่กลีชี่ลากบอกจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามากลางสนามก่อนผ่านบอลให้เตเบซที่ยืนรออยู่หน้าปากเขตโทษยิงโป้งเดียวด้วยขวาบอลฮุคเข้าเสาไกลสุดปัญหาที่ฟอร์มจะพุ่งไปถึงและในจังหวะนี้นายด่านทีมชาติฮอลแลนด์มีอาการบาดเจ็บด้วยจนต้องเปลี่ยนเอาเจอร์ฮาร์ด เทรมเมลลงมาแทน

เด กุซมานเกือบตีเสมอให้สวอนซีได้เมื่อเขารับบอลมาจากริมเส้นด้านขวาก่อนตัดสินใจปั่นโค้งจากระยะกว่า 30 หลาหน้ากรอบเขตโทษบอลเลี้ยวจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่กลับถากเสาออกไป

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายไมก้าห์ ริชาร์ดส์ล้มลงไปนอนอยู่ในกรอบเขตโทษของตัวเองแบบไม่มีใครเข้ามาปะทะและดูเหมือนว่าเขาจะมีอาการบาดเจ็บหนักจนต้องส่งโคโล่ ตูเร่ลงสนามมาประจำการตำแหน่งแบ็กขวาแทนและจากจังหวะนี้ทำให้เกมต้องทดเวลากันนานถึง 12 นาที

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนั้นแมนฯ ซิตี้ลงไปเป็นฝ่ายตั้งรับเสียเป็นส่วนใหญ่แต่สวอนซีก็ได้แต่ครองบอลทำเกมบุกแต่ไม่สามารถเจาะเข้าไปหาจังหวะยิงได้แบบจังๆก่อนจบเกมด้วยการคว้าชัยของเจ้าถิ่นแบบเฉียดฉิว