ผู้เขียน หัวข้อ: "แฟทแมน" ซัดเบิ้ล~!! "ทัพผี" โดนก่อนไล่แซง "ช่างปั้นหม้อ" 4-2  (อ่าน 1064 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

ถึงแม้จะยิงเข้าประตูตัวเองแต่หัวหอกแฟทแมน "เวย์น รูนี่ย์" ก็แก้ตัวได้ เมื่อรับเหมาสองประตูช่วยให้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ยังไม่ทิ้งสไตล์โดนก่อนถึงเอาคืนไล่แซงเอาชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ไป 4-2 เก็บ 3 คะแนน



พรีเมียร์ ลีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 2 สโต๊ค ซิตี้
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด

                ออกสตาร์ทกันมาในครึ่งแรกเพียงนาทีที่ 11 "ปีศาจแดง" เจอเด็กเก่าทำพิษพร้อมลูกทีเด็ดของสโต๊คเลย เมื่อทีมเยือนได้ฟรีคิกทางด้านข้าง ก่อนที่จะเปิดยัดเข้าไปหน้าประตู รูนี่ย์พยายามจะเบียดกับชอว์ครอสจนมารู้ตัวอีกทีก็สายไปแล้วว่าตัวเองกำลังหันหน้าเข้าประตูพร้อมกับท่าทางที่เปลี่ยนไม่ได้ เลยโหม่งเข้าประตูตัวเองไปแบบเต็มหัวเต็มเหน่ง สโต๊คได้ประตูขึ้นนำอย่างไวเลยจริงๆ

อีก 2 นาทีต่อมา เกือบโดนหลอกซะแล้วสำหรับเด เกอา ในจังหวะที่อดัมกระชากบอลขึ้นทางซ้าย ทำท่ามองหาเพื่อนว่าจะเปิดก่ะให้เด เกอาขยับออกมา แล้วจัดการเปลี่ยนเป็นยิงยัดไปที่เสาแรกเลย แต่นายด่านชาวสแปนิชไม่หลง ล้มตัวปัดเอาไว้ได้ก่อนบอลจะหลุดหายเข้าประตู

เหมือนจะช๊อตไปดื้อๆเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เพราะตอนนี้ถึงแม้ว่าจะพยายามลุยเอาคืนให้ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ใกล้เคียงกับการที่จะได้ประตู แถมการเข้าทำก็ดูตะกุกตะกักลุ้นยากอยู่เหมือนกัน

นาทีที่ 21 รูนี่ย์ถึงกับทำหน้าเบื่อโลกเลย เพราะตอนแรกอุตส่าห์มาดีแล้วแท้ๆสำหรับเวลเบ็คที่กระชากหนีผู้เล่นสโต๊คขึ้นหน้า ก่อนที่จะทำชิ่งกับฟาน เพอร์ซี่จนหลุดเข้าในกรอบเขตโทษ แต่ตัวเองหลักไม่ดี แทนที่จะส่งต่อให้เพื่อนข้างๆ กลับฝืนยิงด้วยซ้าย แปบอลเบี้ยวหลุดออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้นอะไรสักนิดเดียว

อีก 4 นาทีต่อมา มันน่าโดนจริงๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ดในจังหวะนี้ที่กองหลังเป็นรวน โดนสโต๊คเล่นชิ่งทำเกมทะลุช่องจนวอลเตอร์สได้โอกาสยิงเหน่งๆ แต่บอลไม่หนีมือของเด เกอาเท่าไหร่ ล้มตัวปัดเอาไว้ได้

นาทีที่ 27 เอาจนได้สำหรับคู่หูแฟตแมนแอนด์โรบิน เมื่อฟาน เพอร์ซี่แตะบอลหนีกองหลังไปก่อนที่จะแตะกระชากไปเปิดบอลปั่นเข้าเสาแรก รูนี่ย์เทคตัวขึ้นโขกแบบเต็มเหนี่ยวเข้าไปตุงตาข่าย เกมเสมอกัน 1-1 แบบที่ไอ้หมูยิงคนเดียวเลย

แม้ว่าจะได้ประตูตีเสมอมาแล้ว แต่เกมของแมนฯยูไนเต็ดก็ไม่ได้คึกคักอะไรมากไปกว่าเดิม จะมีจังหวะได้ลุ้นก็ที่รูนี่ย์พักบอลในกรอบเขตโทษก่อนจะป้ายคืนให้เวลเบ็คมีโอกาสยิง แต่ก็ซัดโด่งข้ามคานออกไปไกล ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจของแฟนบอลเจ้าบ้านสักเท่าไหร่

นาทีที่ 39 เกือบเงิบเลยสำหรับใครที่ด่าๆกันไว้ เพราะจู่ๆเวลเบ็คก็สวนวิญญาณศูนย์หน้าจบสกอร์ ได้บอลนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะบรรจงปั่นว่งข้ามมือของผู้รักษาประตูหมายให้เสียบใต้คาน แต่สูงไปนิด เลยเช็ดคานบนแล้วหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 44 เป็นการทำประตูที่ประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆสำหรับผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ด เมื่อรูนี่ย์ตักบอลออกด้านข้างให้วาเลนเซียยึกยักรอจังหวะ เหลือบเห็นฟาน เพอร์ซี่วิ่งไปเข้าตำแหน่งที่เสาแรก เลยจัดการเปิดยัดลอดดากกองหลังให้หอกดัตช์เอี้ยวตัวแปบอลผ่านมือของผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบเสาสอง แมนฯยูไนเต็ดขึ้นนำแล้ว 2-1

               ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง ลงมาเจอกันไม่เท่าไหร่ "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ดก็ทิ้งห่างไปเป็น 3-1 ซึ่งไม่ใช่จากใครที่ไหนแต่เป็นเวลเบ็ค กับจังหวะที่รูนี่ย์ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะเปิดปั่นเข้าไปกลางเขตโทษ เวลเบ็คพุ่งสอดตัวแทรกฝูงกองหลังของสโต๊คเข้าไปโหม่งบอลเสียบเสาไกล แก้ตัวจากครึ่งแรกได้ดีจริงๆ

นาทีที่ 49 จริงๆแล้วน่าจะโหม่งได้ดีกว่านี้ แต่ก็ต้องชมปฏิกริยาของเบโกวิชเช่นเดียวกัน กับจังหวะที่รูนี่ย์ตักบอลเข้าไปตรงกลางเขตโทษ มีอีแวนส์พุ่งเข้าไปโหม่งคนเดียวโล่งๆอยู่แล้ว แต่ดันโหม่งตรงกลางไปนิด เลยโดนเบโกวิชใช้ไหล่ปัดสกัดออกมาได้

นาทีที่ 58 ไม่ต้องโทษใครนอกจากเกมรับของตัวเองสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เพราะปล่อยให้ไคท์ลี่ย์ได้ลากเข้าจี้หาดื้อๆ สุดท้ายเฟอร์ดินานด์เอาไม่อยู่ แม้ว่าอีแวนส์จะพยายามเข้าสกัดแต่ก็ไม่ทัน โดนยิงสวนเด เกอาเข้าประตูไป เกมไล่มาเป็น 3-2 ถ้าเสมอขึ้นมาแมนฯยูไนเต็ดต้องเขกกระโหลกตัวเองเลย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสฝังสองสามครั้งเหมือนกัน

นาทีที่ 65 เป่าปากโล่งกันทั่วสนามเลยสำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ด เพราะพวกเขามาทำประตูหนีห่างไปได้อีกครั้ง จากลูกเตะมุมที่ฟาน เพอร์ซี่เปิดเข้าไปแล้วบอลขลุกขลิกตกไปอยู่ที่รูนี่ย์ซึ่งแปยัดเสาแรกเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดทิ้งไปอีก 4-2 นี่ถ้านับลูกยิงเข้าประตูตัวเองด้วยก็ถือว่าแฮทริกเลยนะเนี่ย

ไม่รู้ว่าพักหรือกลัวพี่แกไปเสียบใครมั่วแล้วโดนเหลืองแดงหรือเปล่า แต่แมนฯยูไนเต็ดก็ถอดเอาสโคลส์ออกจากสนามและส่งอันแดร์สันลงไปคุมมิดฟิลด์ตรงกลางแทน

นาทีที่ 74 เรียกเสียงปรบมือได้กึกก้องทั่วสนามเหมือนกัน เมื่อโอเว่นถูกเปลี่ยนตัวลงสนามไปเล่นแทนไคท์ลี่ย์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงเล่นให้กับยูไนเต็ดมากนัก แต่ก็มีความทรงจำดีๆร่วมกันมา

อีก 3 นาทีต่อมา ด้วยการที่เกมมันค่อนข้างจะปิดแล้ว แมนฯยูไนเต็ดเลยทยอยเปลี่ยนตัวกันเต็มที่ ตอนนี้ถอดเวลเบ็คออกและส่งเอร์นานเดซที่ฟอร์มฝืดๆลงไปเผื่อว่าจะเคาะสนิมกับเขาได้บ้าง

เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย สโต๊คยังคงมีหวังที่จะทำประตูเพิ่มให้ได้ พวกเขาเดินหน้าทำเกมรุกต่อไป มีลุ้นอยู่เหมือนกันในจังหวะเล่นลูกตั้งเตะแต่สุดท้ายยังพลาดเป้า

จบ 90 นาทีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไล่แซงเอาชนะสโต๊ค ซิตี้ไปด้วยสกอร์ 4-2 เก็บ 3 คะแนนสำคัญในบ้านของตัวเองหลังจากพักเบรกทีมชาติมาได้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายของเฟอร์กูสัน
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา