พิมพ์

[Armin]

10 คนต้องตายแต่โกงความตายได้ สำหรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถึงแม้จะเหลือ 10 คนตั้งแต่นาที 23 หลัง "เจมส์ มิลเนอร์" ถูกไล่ออกและโดนนำไปก่อนแต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้ "เอดิน เซโก้" รับบทฮีโร่ลงสนามมาซัดเบิ้ลไปสองลูกพาทีมพลิกแซง 2-1 สำเร็จ



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
สนาม เดอะ ฮอว์ธอร์น
วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2555 ป
เวสบรอมวิช อัลเบี้ยน 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

               เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงแรกฝั่งทีมเยือนต้องใช้เวลาตั้งลำกันหน่อยเจอเจ้าบ้านกดดันใส่ตั้งแต่ช่วงแรกๆแต่ก็เริ่มครองบอลได้มากขึ้นเรื่อยๆและก็ได้ลองส่องไปจากบาโลเตลลี่ที่ได้บอลมุมเขตโทษทางซ้ายก่อนจะลากเข้าในแล้วลองยิงดูแต่เบาไปเข้าซองฟอสเตอร์สบาย

โอกาสของ"เรือใบสีฟ้า"มามากขึ้นเรื่อยๆแล้วนาที 21 คราวนี้บอลโดนโยนออกมาที่ริมเส้นซ้ายให้กับบาโลเตลลี่เอาบอลลงก่อนจะเล็งแล้วเปิดเข้าในให้กับเตเบซวิ่งมาตวัดยิงแต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไปอยู่

แต่แล้วงานเข้าแมนฯ ซิตี้เข้าจนได้เพราะต้องมาเหลือ 10 คนจากจังหวะที่กอมปานีดันไปเสียบอลกลางสนามก่อนจะหลุดมาถึงลองพาลากเดี่ยวขึ้นมาเองเลยก่อนจะโดนมิลเนอร์เข้ามาสกัดจากด้านหลังล้มลงไปก่อนกรรมการจะเป่าและแจกใบแดงให้มิลเนอร์ไปเลย

หลังจากนั้น"มวยโลก"ก็บุกมาเป็นชุดเลยแต่โอกาสลุ้นจังๆก็ยังไม่ได้มีอะไรมากเท่าไหร่ กลับกัน"เรือใบ"ได้บุกทีทำท่ามีลุ้นกว่าในนาที 36 จากเตเบซที่พาบอลไต่เส้นหลังเข้าเขตโทษแล้วปาดกลับมาให้กับนาสรี่ยิงแต่ก็เบาเกินเข้ามือฟอสเตอร์

ช่วง 5 นาทีก่อนจะหมดครึ่งแรก"เรือใบ"ควรจะมีประตูขึ้นนำแบบสุดๆจากบาโลเตลลี่ที่โชว์ความเป็นเกรียนเมพพาบอลขึ้นมาเองทางซ้ายก่อนจะแหวกเข้าเขตโทษแตะหลบทีเดียวสองตัวก่อนจะได้ลองยิงเน้นๆแต่ก็ยังเจอตัวโผล่มาบล็อกเอาไว้ได้แบบเฉียดฉิว

โอกาสของแมนฯ ซิตี้มากันอีกทีเป็นจังหวะเตะมุมเข้ามาบอลไม่ไปไหนเข้าทางของกอมปานีหามุมยิงไม่มีเลยเลือกดีดย้อนมาที่แบร์รี่ลองปั่นจากทางขวาไปเสาไกลแต่ก็หลุดนิดเดียว

ทดเจ็บเป็นทีของเวสบรอมวิชบ้างจากลูกเตะมุมเข้ามาแล้วบอลโดนสกัดหลุดออกมาหน้าเขตโทษที่มอร์ริสันวิ่งมาวอลเลย์แต่ก็กดไม่ลงบอลข้ามคานทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0

                ต่อมาในช่วงครึ่งหลังไม่เท่าไหร่"เรือใบ"เกือบจะได้ประตูขึ้นนำไปแล้วเป็นจังหวะฝากบอลมาข้างหน้าให้กับบาโลเตลลี่ดึงจังหวะรอก่อนจะจ่ายต่อไปที่เตเบซเติมมารับแล้วตัดสินใจลองสับไกเลยบอลพุ่งจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่ฟอสเตอร์ยังยอดเยี่ยมบินมาปัดออกหลังไปทัน

แม้ตัวจะน้อยกว่าแต่แมนฯ ซิตี้ก็ได้กดดันเยอะกว่าชัดเจนครองบอลมากกว่าแถมบุกเข้าใส่แทบจะตลอดมาได้ลุ้นอีกซักครั้งจากลูกฟรีคิกประมาณเกือบ 30 หลาได้ก่อนเป็นเตเบซวิ่งเข้ามากดแต่บอลก็ยังลอยหลุดไปพอสมควร

มันน่าจะได้จริงๆสำหรับซิตี้ในนาที 59 เป็นบอลฟรีคิกริมเขตโทษทางซ้ายวางบอลไปเสาไกลให้กับริชาร์ดวิ่งมาโขกฉงไปหน้าประตู บาโลเตลลี่พยายามจะยิงแต่โดนไม่ดีบอลกระดอนพื้นลอยมาเข้าทางยาย่าโขกจ่อๆแต่ก็ไม่ดีเช่นกันบอลข้ามคานออกไปอีก

แต่แล้วนาที 67 "เรือใบ"ถึงกับซีดเลยเพราะบุกตั้งนานดันมาเจอ"มวยโลก"สวนยิงหมัดตรงคืนทีเดียวน็อคจากโอเด็มวิงกี้ที่ได้ทางซ้ายก่อนจะล็อกเข้าในแล้วพยายามหาช่องส่องเหมือนจะกดเบาไปแต่กลายเป็นดีให้ลองที่วิ่งแซงแนวรับไม่ล้ำหน้าหลุดเข้าไปจิ้มบอลผ่านมือฮาร์ทไม่มีเหลือ เวสบรอมวิชออกนำไปแล้ว 1-0

มันชินี่อยู่เฉยไม่ได้แล้วอยากทวงประตูคือให้ได้ ช่วง 12 นาทีท้ายจึงต้องเสี่ยงกันเลยเลือกจะส่งเซโก้ลงมาเพิ่มขุมกำลังเกมรุกเข้าไปอีกขั้นโดยถอยเอาแบร์รี่ออกไป

แล้วก็ได้ผลจริงๆเพราะ"เรือใบ"มาตีเสมอจนได้จากลูกฟรีคิกทางซ้ายอีกแล้ว เปิดเข้ามาตรงกลางเขตโทษให้เซโก้ที่เพิ่งลงมาโฉบขึ้นมาคนเดียวเดี่ยวๆโหม่งสวนฟอสเตอร์ที่พยายามจะออกมาตัดจังหวะส่งบอลเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ

นาที 86 แลกกันหวาดเสียวทั้งคู่เริ่มจากแมนฯ ซิตี้ได้โกขเตะมุมก่อนแต่ก็ยังเจอสกัดออกมาได้แล้วเวสบรอมวิชสวนกลับขึ้นมาโอเด็มวิงกี้เปิดเข้ากลางให้ลูกากูแต่ก็สไลด์ไม่ถึงอีก

นาทีสุดท้าย"เรือใบ"เสียวทั้งบางเพราะลูกากูมีโอกาสได้ลองส่องถึงสองหนเน้นๆครั้งแรกเป็นจังหวะโขกก่อนไม่ผ่านฮาร์ท ก่อนจะได้ตีลังกายิงอีกหนก็ยังเจอฮาร์ทปัด

แต่แล้ว"เรือใบ"ได้เฮกันทั้งบางจนได้หลังเพราะมาได้ประตูเอาในช่วงทดเจ็บจากโคลารอฟไปตัดบอลมาได้ก่อนจะจ่ายให้อเกวโร่สวนกลับพาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนจะเลือกเปิดเข้าไปตรงกลางให้กับเซโก้วิ่งเข้ามายิงเน้นๆผ่านมือฟอสเตอร์ไม่เหลือ แมนฯ ซิตี้ทำสำเร็จกลับมานำอีกครั้ง 2-1

จบเกมแมนฯ ซิตี้ก็ทำสำเร็จเอาชนะเวสบรอมวิชไป 2-1 ทำให้พวกเขายังเป็นอันดับ 3 ของตารางต่อไปและเป็นทีมแรกที่บุกมายัดความปราชัยคาบ้านให้"มวยโลก"ในฤดูกาลนี้อีกด้วย