ผู้เขียน หัวข้อ: "เกรียน" พลิกวิกฤติ~!! "อิตาลี่" สิบตัวไล่บี้ "โคนม" 3-1  (อ่าน 865 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

การกลับมาของหอกเกรียนเทพ "มาริโอ บาโลเตลลี่" ครั้งนี้ถือว่าช่วยทีมไว้ได้เยอะเลยทีเดียว เมื่อ "เกรียนโอ้" รับหน้าที่พังประตูย้ำชัยช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ที่ "อิตาลี" ต้องเหลือสิบคนก่อนอาศัยความเก๋าเกมยำ "เดนมาร์ก" 3-1 ทำให้ "อัซซูรี่" เก็บเป็น 10 คะแนนนำโด่งเป็นจ่าฝูง



ผลเวิลด์ คัพ 2014 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี
วันอังคารที่ 16 ตุลาคม 2555
อิตาลี 3-1 เดนมาร์ก

            เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายก็โดดเข้าใส่ทันทีแต่โอกาสแรกตกเป็นของ เดนมาร์ก สวนกลับ เอริคส์สัน ไหลไปทางขวา ยาค็อบเซ่น แบ็กเติมขึ้นมาก่อนเปิดย้อนมายังเสาสอง เบนด์เนอร์ โขกถากเสานิดเดียว

อิตาลี พยายามต่อบอลตามช่องแต่โดนแดนกลางของโคนมตัดได้หมดผ่านไปสิบนาที เอริคส์สัน สบโอกาสลากจี้ก่อนวางเท้ายิงเน้น 20 หลาบอลพุ่งเข้าหาประตู เด ซังค์ติส นายทวารต้องออกแรงปัดทิ้ง

"อัซซูรี่" เป็นเจ้าถิ่นบุกไม่ขึ้นเป็นฝ่ายตั้งรับตลอด 15 นาทีแรกรอดพ้นเสียประตูแบบจวนไปเจียนมาจนผ่านพ้นวิกฤติมาได้นาที 17 บาโลเตลลี่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโ?ษทางขวาก่อนจ่ายย้อนหักมายังแถวสอง มาร์คิซิโอ สับไกยิงเน้นๆกำลังจะตุงตาข่ายอยู่แล้วแต่ เคียร์ ยืนคุมเส้นโขกสกัดทิ้ง

อิตาลี เล่นเกมเพรสซิ่งกันสูงอีก 5 นาทีถัดมาพลาดโอกาสทองหลุดลอยไป อาบาเต้ แบ็กขวาดันขึ้นสูงเปิดไปยังเสาแรก อันเดอร์เซ่น นายทวารออกมาปั้นบอลชนกับ บาโลเตลลี่ บอลหลุดมาถึง ออสวัลโด้ โขกโล่งๆหลุดกรอบออกไปหน้าตาเฉย

เกมครบครึ่งชั่วโมง เดนมาร์ก สวนกลับเกือบได้ประตูสองครั้งติดๆกันเริ่มจาก เบนด์เนอร์ ทำชิ่งหนึ่ง-สองกับ คอห์น เดห์ลี่ หลุดโล่งๆทางซ้ายยิงทันที เด ซังค์ติส นายทวารต้องใช้เข่าเซฟเป็นลูกเตะมุม เอริคส์สัน เปิดไปยังเสาสอง เคียร์ โขกชงเข้ากลาง แอกเกอร์ โหม่งโล่งๆข้ามคานน่าเสียดาย

หลังรอดพ้นเสียประตูกลายเป็น อิตาลี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 33 จากเกมโต้กลับทางซ้ายบอลทะลุมาถึง บาโลเตลลี่ โดนกองหลังเดนมาร์กอัดจนคว่ำก่อนชิ่งให้กับ มอนเตลิโว่ วางเท้ายิงด้วยขวาเสียบมุมล่างซ้ายเข้าไป

หลังปลดล็อคได้แล้วประตูไหลมาเทมาในอีก 4 นาทีให้หลังต้องชม ปิร์โล่ ขึ้นเกมทางขวาเลี้ยงย้อนหลังก่อนพลิกกระชากลากไปข้างหน้าแล้วโยนมายังเสาแรกเข้าหัว เด รอสซี่ โขกเสียบคานเข้าไป อิตาลี ทิ้งห่าง 2-0

หลังจากนั้้นดูเหมือนเจ้าถิ่นมะกะโรนีควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เกือบหมดแล้วทดเวลาบาดเจ็บพลาดท่าโดน เดนมาร์ก ตีไข่แตกไล่มา 1-2 ยาค็อบเซ่น เติมเกมรุกทางขวาก่อนเปิดเข้ากลาง ควิสต์ วางหน้าเท้าแปทันทีแบบไม่ต้องจับบอลเสียบมุมดิกตุงตาข่าย จากนั้นอีกไม่กี่วินาทีกรรมการเป่าจบครึ่งแรก เลี่ยนนำแค่เม็ดเดียว

             ลงสนามมาเจอกันต่อในช่วงครึ่งหลัง เพียงแค่ 20 วินาทีเท่านั้น อิตาลี เข้าขั้นวิกฤติต้องเหลือผู้เล่น 10 คนในสนาม เมื่อ ออสวัลโด้ ตบะแตกเอาท่อนแขนฟาดใส่ สตอคโฮล์ม ผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ออกทันที

แต่สิบคนอิตาลีกลับมาได้ประตูตอกย้ำในนาที 54 ต้องชมการวางบอลอันสุดยอดของ ปิร์โล่ ตักบอลข้ามแนวรับโคนมทั้งแผง บาโลเตลลี่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษพยายามใช้เท้าเกี่ยวบอลสวนทางกับ อันเดอร์เซ่น นายทวารวิ่งทะเล่อทะล่าออกมาบอลซุกสู่ก้นตาข่าย "อัซซูรี่" ทิ้งห่าง 3-1

ได้ประตูที่สามทำให้ "อัซซูรี่" แม้ตัวน้อยกว่าแต่คุมเกมไว้ได้ขณะที่แข้งโคนมได้แต่เคาะบอลไปมาทำอะไรไม่ได้เลย 9 คนของอิตาลียืนคุมหน้ากรอบเขตโทษตัวเองห้อย บาโลเตลลี่ ค้ำหน้าคนเดียว ทำให้ทีมเยือนต้องหันมายิงไกล แอกเกออร์ เติมขึ้นสูงสับไก 25 หลาข้ามคาน

เวลาที่เหลือ "อัซซูรี่" เน้นรับแน่นถอยร่นลงไปกองหน้ากรอบเขตโทษทำให้ เดนมาร์ก เจาะยากต้องอาศัยลูกทิ้งบอมบ์จากด้านข้างแต่ก็โดนแผงหลังเจ้าถิ่นดักสกัดได้หมด แถมท้ายเกมเกือบได้ประตูที่สี่ มอนเตลิโว่ ติดใจสับไก 20 หลาบอลส่าย อันเดอร์เซ่น นายทวารรับกระฉอกก่อนตามตะครุบรับเอาไว้ได้ทัน

จากนันเวลาที่เหลือ อิตาลี 10 คนคุมสถานการณ์ไว้ได้หมดไม่เปิดโอกาส เดนมาร์กเลย จบเกม "อัซซูรี่" ถล่ม 3-1
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา