"มาร์โค รอยส์" ควงคู่ "โทนี่ โครส" ซัดกันคนละสองเม็ด พาทัพ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี โชว์ฟอร์มโหดเมื่อบุกไปรวบขา "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ล้มตึงคาบ้าน 6-1 พร้อมคว้า 9 แต้มเต็มรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป
ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี
วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2555
ไอร์แลนด์ 1-6 เยอรมนี
สนาม เอวีว่า สเตเดี้ยม
เข้าสู่ช่วงแรกของเกมทั้ง 2 ทีมยังทำอะไรกันไม่ถนัดโดยเยอรมนียังไม่เปิดเกมบุกเต็มตัวคอยดูเชิงเจ้าถิ่นก่อนที่พวกเขาจะมาได้ลุ้นครั้งแรกเมื่อมาร์โค รอยส์ได้จังหวะเปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามากลางประตูให้มุลเลอร์โขกบอลข้ามคานออกไปในนาทีที่ 15
จนผ่านมาถึงนาทีที่ 26 ซามี่ เคดิร่าได้โอกาสส่องประตูครั้งแรกนอกกรอบเขตโทษแต่ยังไปโดนกองหลังเจ้าถิ่นพุ่งบล็อกบอลออกหลังไปได้เป็นลูกเตะมุมของทีมเยือน
เกมผ่านครึ่งชั่วโมงเยอรมนีน่าได้จุดโทษเหลือเกินในจังหวะที่จอห์น โอเชียพยายามเล่นบอลในกรอบเขตโทษของตัวเองก่อนที่มาร์โค รอยส์จะเข้ามาแซะบอลไปได้ทำให้ปราการหลังจากซันเดอร์แลนด์ต้องพยายามเบียดเอาไว้ทำให้ดาวรุ่งเยอรมันล้มลงแต่กรรมการกลับวิ่งมาให้ใบเหลืองรอยส์เสียอย่างนั้นข้อหาพุ่งล้มหวังเอาจุดโทษ
ถัดมาจากนั้นอีก 2 นาทีรอยส์มาแก้ตัวจนได้เมื่อวิ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษเก็บตกลูกที่กองหลังเจ้าถิ่นสกัดไม่ดีเอาไว้ได้ก่อนอัดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งชนคานด้านล่างเต็มแรงก่อนกระดอนเข้าประตูไปทำให้ทีมเยือนขึ้นนำจนได้
ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีเยอรมนีได้จังหวะโต้กลับเร็วเมซุต โอซิลได้บอลกลางสนามก่อนผ่านมาให้บัวเต็งที่เติมมาด้านริมเส้นด้านขวาผ่านบอลข้ามฟากเร็วมาให้รอยส์ที่ขยับขึ้นมาได้จังหวะเหมาะเหม็งซัลโวด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลพุ่งผ่านมือเวสต์วู้ดเข้าไปกองก้นตาข่ายเสาไกลเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัว
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังเริ่มมาเพียงแค่ 3 นาทีไอร์แลนด์ได้ลุ้นประตูเสมอจากจังหวะที่ไซม่อน ค็อกซ์ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบทันทีแต่ยังไปติดนอยเออร์ที่ยืนปิดเสาแรกไว้หมดแล้ว
เยอรมนีมาได้จุดโทษจนได้ในจังหวะที่มุลเลอร์ได้บอลนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนผ่านบอลมาให้มิโลสลาฟ โคลเซ่พักบอลในกรอบเขตโทษแค่ดาร์เรน โอเดียสกัดบอลโฉ่งฉ่างไปเข้าด้านหลังดาวยิงลาซิโอล้มลงกรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันที
เมซุต โอซิลรับหน้าที่ยิงลูกนิ่งระยะ 12 หลาตามใบสั่งแม้รอยส์จะมีโอกาสทำแฮตทริกก็ตามก่อนที่สตาร์จากเรอัล มาดริดจะขยับหลอกจนเวสต์วู้ดลงทางแล้วแปด้วยซ้ายไปด้านขวาของตัวเองบอลเข้าก้นตาข่ายนิ่มๆ
มิโรสลาฟ โคลเซ่ยิงประตูที่ 65 ของตัวเองในนามทีมชาติได้สำเร็จจากจังหวะที่ชไวน์สไตเกอร์จ่ายบอลทะลุช่องอย่างงามจากกลางสนามไปให้เขาได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนซัดมุมแคบด้วยขวาบอลผ่านเวสต์วู้ดที่ออกมาปิดมุมค่อยๆกลิ้งเข้าประตูไปทางเสาไกลนาทีที่ 58
เยอรมนียังดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่องและเป็นจังหวะที่จอห์น โอเชียโหม่งสกัดบอลออกมาจากเขตอันตรายไม่ดีโทนี่ โครสวิ่งเข้ามาเก็บตกหน้ากรอบเขตโทษก่อนส่องด้วยซ้ายบอลพุ่งกระดอนพื้นเข้าประตูไปสุดปัญญาของเวสต์วู้ดที่จะป้องกัน
หลังจากได้ประตูที่ 5 โยอัคคิม เลิฟเริ่มส่งนักเตะสำรองลงมายืดเส้นยืดสายบ้างทำให้เกมของ"อินทรีเหล็ก"ดูเนือยลงขณะที่ไอร์แลนด์ก็แทบจะหมดกำลังใจสู้ต่อแล้ว
เยอรมนียังผ่านบอลกันแบบไม่เร่งร้อนมากนักเพราะต้องการถนอมตัวเอาไว้เจอกับสวีเดนในเกมวันอังคารนี้แต่ก็ได้จังหวะลุ้นอยู่บ้างเมื่อบัวเต็งเติมขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายแต่บอลไปเข้าซองเวสต์วู้ด
โทนี่ โครสได้บอลกลางสนามไม่รู้จะทำอะไรตัดสินใจลากจี้เข้าหากองหลังบริเวณนอกกรอบเขตโทษก่อนสับไกด้วยขวาอย่างแรงระยะเกือบ 30 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดเข้าไปเสียบเสาแรกเป็นประตูครึ่งโหลของทีมเยือน
ก่อนจบเกมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไอร์แลนด์มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะเตะมุมเมื่อแอนดรูว์ โคอี้ห์ได้โหม่งโล่งๆบอลเข้าประตูไปก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 6-1