พิมพ์

[Armin]

ตัวแทนลูกหนังแห่งความภาคภูมิใจแห่งทวีปเอเชีย "บลูส์ ซามูไร" ญี่ปุ่น ผนึกกำลังต้านทานเกมรุกของ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ก่อนจะอาศัยทีเด็ดโต้กลับอย่างดุบุกสังหารยอดทีมระดับโลก 1-0 จากประตูชัยของซุปตาร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด "ชินจิ คากาวะ"



ผลฟุตบอลกระชับมิตร
วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2555
ฝรั่งเศส 0-1 ญี่ปุ่น

              ออกสตาร์ทมาในครึ่งแรก "ตราไก่" ไม่รอช้ารีบบุกเข้าใส่ทันทีแค่ 4 นาทีแรกได้เสียว เมเนซ โยนลูกเตะมุมทางซ้ายไปยังจุดนัดพบ กอสเซียลนี่ กองหลังเทคตัวโขกคนเดียไม่ตรงกรอบ

ฝรั่งเศส ยังเดินหน้าลุยต่อนาที 15 มาตุยดิ เติมเกมรุกทางซ้ายก่อนเปิดจากริมเส้นไปหน้าปากประตูเข้าหัว ชิรูด์ โหม่งเช็ดบางๆเข้าซองนายทวารซามูไร คาวาชิม่า

ญี่ปุ่นยังบุกไม่ขึ้นถอยร่นมาตั้งรับหน้าปากประตูผ่านครึ่งทางครึ่งแรก "ตราไก่" ยังได้แค่เสียว เดอบูชี่ กระชากลากเลื้อยถึงเส้นหลังในเขตโทษทางขวาก่อนโยนข้ามไปยังเสาสอง เบนเซม่า โชว์ทักษะพักด้วยอกเดาะบอลก่อนตวัดยิงหักข้อบอลถากเสาแรก

ผ่านครึ่งชั่วโมง ฝรั่งเศส พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดายสุดๆจากจังหวะสวนกลับบอลหลุดมาถึง ชิรูด์ ส่งต่อไปทางซ้ายให้ เบนเซม่า กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษทำท่าจะตัดเข้าในก่อนลากลุยเข้าหากรอบเขตโทษก่อนกดเต็มข้อบอลผ่านมือผู้รักษาประตูกลิ้งหลุดเสาสองไม่ถึงคืบ

"ตราไก่" ยังพยายามพังประตูขึ้นนำให้ได้สักลูกในครึ่งแรกก่อนพักเบรก 5 นาทีได้ฟรีคิกระยะอันตรายบริเวณหัวกระโหลกพอดี เบนเซม่า ปั่นหนีกำแพงมาแล้วบอลพุ่งเข้าหากรอบประตูแต่ คาวาชิม่า นายทวารยังเยี่ยมปัดทิ้ง จบครึ่งแรกเสมอแบบไร้สกอร์

               เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังเหล่าแข้งซามูไรหันมาเปิดเกมบุกสู้ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีเกือบขึ้นนำเหมือนกันจากจังหวะฟรีคิกเล่นเร็ว นากามูระ สับไกระยะ 25 หลาบอลพุ่งเรียด ญอริส นายทวารรับกระฉอก คากาวะ ตามซ้ำไม่ทันบอลหลุดมาถึง คิโยตาเกะ ยิงหักข้อผ่านหน้าปากประตู

เกมรุกของ "ตราไก่" ในครึ่งหลังกลับติดๆขัดๆไม่ไหลลื่นเหมือนครึ่งแรกบอลแทบไม่ถึงหน้าปากประตูให้นายทวารยุ่นต้องออกแรงเซฟเลยจนกระทั่ง ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส กุนซือทนไม่ไหวต้องส่งซุปตาร์ ฟรองก์ ริเบรี่ ลงมาในนาที 68

และดูเหมือนค่อนข้างได้ผลเกมรุกดูดีขึ้นนาที 74 เกือบเฮจากจังหวะ วัลบูเอน่า เติมเกมบุกจ่ายตัดหลังให้ ชิรูด์ ชิงตัดหน้า โยชิดะ มาได้แล้วพยายามเข้าชาร์จจ่อๆไม่โดนบอลผ่านหน้าประตูอย่างน่าเสียดาย

อีก 4 นาทีต่อมา กองเชียร์ตราไก่ต้องเฮกันเก้ออุตส่าห์ส่งบอลเข้าไปแล้วได้แล้ว วัลบูเอน่า เปิดจากริมเส้นทสางซ้าย ชิรูด์ ชงต่อไปยังเสาสอง โกมิส ล้มตัวโขกคนเดียวโล่งๆแค่ 3 หลาตุงตาข่ายแต่โชคร้ายผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า

เกมรุกของ ฝรั่งเศส เริ่มไหลลื่นมากขึ้นนาที 80 บอลเปิดจากทางฝั่งขวาผ่านเข้ากลาง โกมิส ไหลไปทางซ้ายให้ ริเบรี่ กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนกดเรียดเข้าซองผู้รักษาประตู

ใกล้จะหมดเวลาแล้ว "ตราไก่" ลุยแหลกดันขึ้นไปหมดหวังยิงประตูชัยแต่กลายเป็นต้องหงายเงิบเจอสวนกลับจากจังหวะเตะมุมโดนตัดได้ คอนโนะลากจากหน้าเขตโทษของตัวเองก่อนจ่ายไปทางขวา นากาโตะโม๊ะ ผ่านเข้ากลางให้ คากาวะ ล้มตัวชาร์จตุงตาข่าย ญี่ปุ่น นำ 1-0 และรักษาสกอร์จนหมดเวลาการแข่งขัน