ผู้เขียน หัวข้อ: ใส่ไม่ยั้ง~!! "เรือใบสีฟ้า" เรียกหน้ากันสังหารโหด "แมวดำ" สบายแฮ 3-0  (อ่าน 1035 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

ไม่ว่าในครึ่งแรกจะเล่นกันแบบงึกๆงักๆยังไงแต่สุดท้าย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็คืนฟอร์มเล่นอย่างแจ่มไล่ต้อนเอาชนะ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ไป 3-0 จากลูกฟรีคิกสุดสวยของทั้ง "โคลารอฟและมิลเนอร์" รวมทั้งซูเปอร์ซัพอย่าง "อเกวโร่" ด้วย



พรีเมียร์ ลีก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 - 0 ซันเดอร์แลนด์

เจ้าบ้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ที่มีอดีตเด็กเก่าของพวกเขาอย่าง "จอห์นสัน" หวังที่จะล้างแค้นที่เคยโดนเมินอยู่


              ลงสนามมาพบกันในช่วงครึ่งแรกทีมเยือนอุตส่าห์เสียบจน "เตเบซ" ที่กำลังจะลากบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษล้มดิ้นคาพื้นแล้วสำหรับคูเอญาร์ แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยทำให้ทีมของเขารอดพ้นจากการเสียประตู เมื่อโคลารอฟรับหน้าที่สังหารฟรีคิกปั่นข้ามกำแพงของซันเดอร์แลนด์ที่ต้องบอกเลยว่าเหม่อกันเกินไป ไม่มีตัวโดดสักคน เข้าไปเสียบเสาแรก แมนฯซิตี้นำแล้ว 1-0

นาทีที่ 17 จริงๆแล้วก็น่าจะเป็นจังหวะฟรีคิกของแมนฯซิตี้ เพราะลูกนี้ที่การ์ดเนอร์เล่นค่อนข้างนอกเกม กับการไปยืนบล็อกทางวิ่งของบาโลเตลลี่ ก่อนจะใช้ตัวกระแทกจนหอกมหาเกรียนล้มลงไปฟุบกับพื้น แต่หลังจากดูอาการกันสักหน่อยก็กลับขึ้นมาเล่นต่อได้

นาทีที่ 21 หวิดจะได้ประตูนำห่างไปแบบเฮงๆซะแล้วสำหรับแมนฯซิตี้ เมื่อเตเบซพยายามจะล็อกหาจังหวะยิงหน้ากรอบเขตโทษ โดนผู้เล่นของซันเดอร์แลนด์วิ่งมาจิ้มบอลไปก่อน แต่กลายเป็นเข้าทางของซาบาเลต้าที่วิ่งอ้อมตัดหน้ากองหลังแล้วแปเน้นๆจากระยะไม่กี่หลา แต่ก็ต้องชมมินญอเล่ต์ที่ไวสุดๆพุ่งออกมาใช้อกบล็อกได้ทัน

จังหวะต่อเนื่องเลยเตเบซไปฉกบอลมาจากเท้าของกองหลังคืนได้ ก่อนที่ะตวัดยิงเร็วทันที บอลพุ่งผ่านมินญอเล่ต์ไป เช่นเดียวกับซาบาเลต้าที่พยายามจะจิ้มให้เปลี่ยนทางเข้าประตู แต่ไม่ถึง บอลเลยหลุดออกหลังไปในที่สุด

นาทีที่ 30 เล่นในแดนตัวเองจนได้เรื่องเลยสำหรับซันเดอร์แลนด์ที่โดนทางแมนฯซิตี้ฉกบอลไปได้ ก่อนที่ซาบาเลต้าจะเปิดบอลครอสเข้ากลางหวังให้บาโลเตลลี่ชาร์จเหน่ีงๆ แต่เป็นการ์ดเนอร์ที่พุ่งมาจากไหนไม่รู้สกัดเอาไว้ได้ก่อน

เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย แมนฯซิตี้เหมือนยังไม่พอใจที่ได้แค่ประตูเดียวในเกมนี้ พยายามลุยเข้าไปขึงใส่แนวรับของซันเดอร์แลนด์อย่างหนัก ซึ่งพูดกันจริงๆทีมเยือนก็ป้องกันได้ดี แต่เสียตรงจ่ายบอลพลาดกันง่ายเว่อร์จนเข้าทางเจ้าบ้านอยู่บอ่ยๆ
 
แม้ว่าจะทำไปแล้วถึง 5 ประตูสำหรับเฟล็ตเชอร์ แต่ถ้าไม่ได้บอลก็หมดความหมาย เพราะเพื่อนแทบจะจ่ายบอลไปไม่ถึงเขา มีโอกาสเห็นอยู่ในจอก็แค่ตอนวิ่งไล่กดดันแนวรับของแมนฯซิตี้ที่พยายามเซ็ตเกมบุกเท่านั้น

จบ 45 นาที แมนฯซิตี้นำซันเดอร์แลนด์ 1-0 ในเกมที่ต้องบอกเลยว่าเล่นกันไม่ดีทั้งสองทีม ทีมเยือนจ่ายพลาดเป็นว่าเล่น เกมสวนกลับก็ไม่ระคายอะไรคู่แข่งสักนิด ส่วนเจ้าบ้านมีโอกาสได้ครองบอลบุกเยอะ แถม "แมวดำ" ยังพลาดบ่อย แต่กลับฉวยโอกาสไม่ได้ซะงั้น

                เปิดฉากเล่นกันต่อในครึ่งหลังในนาทีที่ 52 จริงๆไม่ต้องเป่าล้ำนี่ก็จะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน เมื่อเฟล็ตเชอร์ยืนได้เทคตัวโหม่งโคตรแรงทั้งที่ยืนอยู่เกือบจะเลยกรอบเขตโทษอยู่แล้ว แต่ฮาร์ทก็พุ่งปัดมือเดียวเอาไว้ได้อย่างแจ่ม แม้ว่าลูกนี้ไลน์แมนจะตีธงล้ำหน้าขึ้นมาก็ตาม

อีก 4 นาทีต่อมา เหมือนจะทำตัวมีปัญหากันอีกแล้ว เมื่อบาโลเตลลี่ออกอาการไม่พอใจที่โดนเปลี่ยนตัวออกทั้งที่ลงเล่นครึ่งหลังไปได้แค่แป๊บเดียว ทำให้่ตอนที่เขาเดินออกจากสนามเพื่อแตะมือกับอเกวโร่ที่ลงไปเล่นแทน เดินดิ่งเข้าไปที่อุโมงค์ไม่สนใจใครเลย

ไม่พอใจแค่ไหนแต่ก็ต้องยอมรับสิ่งที่อเกวโร่สร้างความแตกต่างได้ เมื่อเขาอยู่ในสนามแค่ 4 นาทีก็ทำประตูได้เลย กับจังหวะที่พุ่งเข้าแปบอลที่โคลารอฟครอสไปเสาแรก ส่งบอลพุ่งเบียดเสา หมดสิทธิ์ที่มินญอเล่ต์จะทำอะไรได้ แมนฯซฺตี้ได้ประตูที่ทำให้หายใจคล่องขึ้นสักที นำห่าง 2-0

เป็นการกลับมาเยือนถิ่นเก่าแบบไม่สวยเท่าไหร่เลยสำหรับจอห์นสันเพราะวันนี้เขาเล่นไม่ออก จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามและให้ซาฮาลงไปเล่นแทน

นาทีที่ 70 น่าจะเข้าสักลูกจริงๆเลยเชียว สำหรับโอกาสกดดันแบบสุดๆของแมนฯซิตี้ไล่ตั้งแต่ลูกยิงเฉี่ยวเสาของเตเบซ ก่อนที่จะเป็นโอกาสของซิลบาที่ได้ตามซ้ำดาบสองในจังหวะที่ซันเดอร์แลนด์พยายามจะสกัดให้พ้นหน้าปากประตูตัวเอง แต่น่าเสียดายที่บอลมันไปชนคานซะก่อน

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แก้เกมยังไงก็ไม่น่าจะทันแล้วสำหรับโอนีลล์เพราะตอนนี้เกมเป็นของทางแมนฯซิตี้ล้วนๆเลย เผลอๆอาจจะยิงเพิ่มได้ด้วยเพราะโอกาสพาบอลขึ้นไปป้วนเปี้ยนหน้าประตูยังมีเรื่อยๆ

ก่อนหมดเวลาเพียงนาทีเดียว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็มาได้ประตูปิดท้ายถล่มเอาชนะซันเดอร์แลนด์ไป 3-0 ด้วยลูกยิงฟรีคิกของมิลเนอร์ที่ซัดไปแฉลบหัวกองหลังก่อนเสยแสกหน้ามินญอเล่ต์เข้าไป จบ 90 นาทีเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่คว้า 3 คะแนนเต็มในบ้านของพวกเขาเอง ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2 แบบชั่วคราว แถมยังไล่จี้เชลซีจ่าฝูงเหลือหนึ่งแต้ม แม้ว่าจะแข่งมากกว่าในตอนนี้ก็ตาม
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา