เกมนี้ถือว่าเล่นกันได้มันส์สะใจจริงๆ เพราะทั้งสองทีมต่างก็โหมบุกใส่กัน ก่อนที่ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชิงนำไปก่อน 2-0 จากลูกยิงของ "อันแดร์สัน" และ "เคลฟเวอร์ลี่ย์" ที่เปิดซิงได้สักทีจะเบียดเอาชนะ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ไปแบบระทึกใจ 2-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ในที่สุด
แคมปปิตอล วัน คัพ รอบ 3
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 นิวคาสเซิ่ล
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
แม้ว่าจะเป็นรอบที่ไม่ลึกและถ้วยแทบจะเรียกว่าเล็กสุดในการแข่งขันของเมืองผู้ดี แต่ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ก็ไม่ติดประมาท ถึงส่งดาวรุ่งลง แต่ก็มีชุดใหญ่ผสมด้วยกันทั้งคู่ "ทัพผี" ส่ง "รูนี่ย์" ที่เพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บลงสนามครั้งแรกในเกมนี้ พร้อมกับ "เฟล็ตเชอร์" ที่ได้เคาะสนิมไปแล้วสวมปลอกแขนกัปตันทีมลงเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบ 10 เดือนเลย ลงผนึกกำลังกับ "เคลฟเวอร์ลี่ย์" และ "อันแดร์สัน"
เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงแรกเป็นทีมเยือน "สาลิกา" ที่ดูจะเก็บบอลได้มากกว่าแมนฯยูไนเต็ดที่วันนี้ดูจัดชุดใหญ่ลงเยอะกว่า แต่ดันเก็บบอลในแดนกลางไม่ค่อยจะได้ จะบอกว่าเครื่องร้อนช้าหรือยังไงก็ต้องดูกันไปก่อน
นาทีที่ 13 จริงๆควรจะลุ้นสกอร์ได้สัก 70-80 % ไปแล้วสำหรับกอสลิ่ง ในจังหวะที่อเมโอบี้ทำได้เยี่ยม เทคตัวขึ้นโหม่งชงให้กอสลิ่งที่ยืนรอในกรอบเขตโทษ ตัวประกบห่าง มีเวลาเยอะ แต่ดันวอลเล่ย์จังหวะเดียวแป้ก ปลิ้นออกหลังไปซะงั้น
อีก 3 นาทีต่อมา เป็นจังหวะของแมนฯยูไนเต็ดบ้าง เมื่ออันแดร์สันพาบอลขึ้นหน้า ก่อนทำชิ่งกับเพื่อนแล้วใช้ร่างกายอันตันตึ้งเบียดกองหลังของนิวคาสเซิ่ลแล้วฝืนยิงด้วยซ้ายเน้นๆจากระยะแค่ไม่กี่หลา แต่มันไม่ไกลมือของเอลเลียตที่ทำได้เยี่ยม ปัดทิ้งออกหลังไปได้
นาทีที่ 28 เป็นการเปิดบอลที่แม่นยำเสียจริงสำหรับรูนี่ย์ที่วางบอลยาวตั้งแต่แดนตัวเองให้เวลเบ็คควบสวนกลับขึ้นไปทางซ้ายได้พอดีเป๊ะ ก่อนที่หอกโก๋แดนจะล็อกบอลหลบกองหลังเข้าขวา แล้วซัดทันที บอลพุ่งเฉียบใช้ได้ แต่ที่เยี่ยมกว่าคือเอลเลียตที่ล้มตัวปัดบอลได้อย่างไว เจ๋งจริงๆพี่น้อง
นาทีที่ 35 หลอนมาจากทีมชาติเหมือนกันสำหรับเคลฟเวอร์ลี่ย์ที่ยังคงมีปัญหาเรื่องการจบสกอร์ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะนี่เป็นโอกาสทองที่สุดของเกม ในจังหวะที่เอร์นานเดซกระชากบอลขึ้นท่งขวา ก่อนครอสเข้ากลางให้เวลเบ็คตอกส้นต่อให้กับเพื่อนป้ายไปให้กับเคลฟเวอร์ลี่ย์ที่หลุดเข้ากรอบเขตโทษเดี่ยวๆ เหลือแต่เอลเลียตคนเดียว แต่กลับพยายามยิงเบี่ยงมากเกิน จนบอลพุ่งหลุดเสา ทำเอาแฟนบอลที่ลุ้นอยู่เซ็งเลย
นาทีที่ 44 กระชากจนลืมอ้วนเลยสำหรับอันแดร์สันในจังหวะที่เขารับบอลต่อจากเฟล็ตเชอร์ ก่อนจะตามสูตรใช้ความหนาเข้าเบียดกระชากหาช่องแล้วตะบันด้วยซ้ายเต็มตีน พุ่งผ่านบล็อกเข้าไปชนเสาแรกเด้งเข้าประตูอย่างสวยงาม สุดปัญญาที่เอลเลียตจะปัดป้องได้แล้วในคราวนี้ แมนฯยูไนเต็ดนำก่อน 1-0
จบครึ่งแรก ถือว่าเป็นประตูสุดสำคัญจริงๆสำหรับลูกยิงของอันแดร์สัน เพราะทำให้เจ้าบ้านชิงนำได้ก่อนจะลงมาเล่นครึ่งหลัง ส่วนทีมเยือนมีอะไรให้พาร์ดิวแก้เยอะเหมือนกัน เพราะทำท่าจะดีอยู่ช่วง ก่อนเกมรุกจะตันไปจนมีโอกาสจบสกอร์น้อยมาก
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังมาไม่ต้องพูดกันนาน แมนฯยูไนเต็ดก็ดาหน้าบุกใส่นิวคาสเซิ่ลแบบไม่หยุด มีโอกาสเจ๋งๆสุดก็ลูกครอสเข้าเสาแรกของแฟร์มิลจ์ที่พี่ถั่วแกก้มหน้าก้มตาโหม่ง บอลเลยออกหลังไป
นาทีที่ 54 พอเกมนิวคาสเซิ่ลดีขึ้น โอกาสลุ้นตีเสมอก็มาถึงเลย เมื่อวุคกิซได้บอลในกรอบเขตโทษ ดวลกับคีน เลยจัดให้เต็มดอกด้วยการหลอกล็อกสองชั้น ก่อนที่ะเบี่ยงออกไปยิงปั่นแบบเน้นๆ ก่ะให้เสียบเสาสอง แต่ถึงจะผ่านมือเด เกอาไป บอลมันโค้งไม่พอ เลยหลุดออกหลังหวาดเสียวเหมือนกัน
อีก 4 นาทีต่อมา ไหนๆใครว่าไปเลยโชว์ของซะเลยสำหรับเคลฟเวอร์ลี่ย์ในจังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดทำเกมสวนกลับเร็ว ก่อนจะต่อชิ่งบอลกันไปมาหลายจังหวะเพื่อหาโอกาสและไปจบที่เคลฟเวอร์ลี่ย์ที่ได้บอลนอกกรอบเขตโทษ สบช่องเลยจัดการปั่นแบบเน้นๆให้บอลอ้อมกองหลังที่ยืนบล็อกและบังเอลเลียตที่พุ่งยังไงก็ไม่ทัน เพราะเห็นบอลช้าเกิน ทำให้ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดทิ้งไปแล้ว 2-0 และนี่ก็เป็นประตูแรกของเขาในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" ด้วย
นาทีที่ 61 ยังไงก็ต้องลงแล้วจริงๆสำหรับซิสเซ่ เพราะตอนนี้ทีมต้องการประตู โดยเขาถูกเปลี่ยนลงไปแทนวุคกิซ พร้อมกับเฟอร์กูสันที่ลงเล่นแทนโคลอชชินี่ซึ่งอาจจะไม่ฟิตสักเท่าไหร่
อีก 1 นาทีต่อมา สมเป็นดาวยิงจริงๆสำหรับซิสเซ่ เพราะลงสนามมาสัมผัสแรกก็เป็นประตูทันที จากการเปิดของเฟอร์กูสันที่เพิ่งลงเล่นเช่นเดียวกัน กระชากหนีแฟร์มิลจ์ไปเปิดยาวถึงเสาสอง คีนประกบห่างเหลือเกินทำให้ซิสเซ่ทะยานเข้าโขกเต็มเหน่งตุงตาข่าย สกอร์ 2-1 ออกไ้ด้หลายทางแล้ว
นาทีที่ 66 ยังทำสกอร์ไม่ได้เหมือนเดิมสำหรับเอร์นานเดซ ที่อุตส่าห์ได้โอกาสงามๆจากการจ่ายทะลุช่องของรูนี่ย์ให้เขาหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดเต็มตีนผ่านเอลเลียตไปแล้ว แต่มีคานเป็นมารคอหอย อดไป
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจอกดดันจนเป๋ไปเหมือนกันสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เพราะตอนนี้นิวคาสเซิ่ลใส่เกียร์ 5 ไม่มีถอยเพื่อหวังจะทำประตูตีเสมอให้ได้ กอสลิ่งมีโอกาสใกล้เคียง แต่ลูกยิงใบไม้ร่วงของเขามันฮุคช้าไปนิด
นาทีที่ 81 ถ้าเข้าไปนี่สวยงามจนขนลุกแน่นอนสำหรับซิสเซ่ในจังหวะที่เขาได้บอลในกรอบเขตโทษ แต่ด้วยการที่หันหลังให้กับประตูอยู่ เฃยจัดการเดาะด้วยเข่าแล้วตีลังกายิงอย่างเท่ โด่งข้ามเด เกอาที่ดีดตัวยังไงก็ไม่ถึงแล้ว แต่บอลมันชนคานเข้าอย่างจังซะได้
ช่วงท้ายๆแมนฯยูไนเต็ดก็มีการปรับเปลี่ยนตัวโดยเอาดาวรุ่งลงมาเล่นเพิ่มหลังจากที่ก่อนหน้านี้ถอดเอารูนี่ย์และแฟร์มิลจ์ออกไปก่อนส่งพาวล์สุดหล่อลงเล่นและช่วยกันยันจนเอาชนะนิวคาสเซิ่ลไปด้วยสกอร์ 2-1 ผ่านเข้าไปเล่นแคมปปิตอล วัน คัพในรอบต่อไปได้สำเร็จสมใจ พร้อมกับเสียงเฮฮาของบรรดา "ปีศาจแดง" ที่มีตัวป่วนวิ่งลงไปในสนาม ไม่รู้ว่าอีท่าไหน แต่เซอร์ อเล็กซ์ตบบ่ารูนี่ย์หัวเราะร่วนเชียว
ผู้เขียน
หัวข้อ: "หนูทอม" เปิดซิง~!! "ผีแดง" หืดขึ้น บดเฉือน "สาลิกา" สุดหวิว 2-1 (อ่าน 1276 ครั้ง)
