เกือบไปแล้วสำหรับ "แก๊งค์ปืนโต" อาร์เซนอล เมื่อโดนทำประตูขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 9 แต่มายิงแซงรวดเดียวแบบทันควันจาก "โพโดลสกี้และแชร์วิญโญ่" ก่อนจะรวมพลังต้าน "มงต์เปลิเย่ร์" ที่มีโอกาสมีแต่ทิ้งขว้างกันไปเอง จบลงด้วยชัยชนะ 2-1 ประเดิม 3 แต้มแรกในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้เลย
แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี
มงต์เปลิเย่ร์ 1 - 2 อาร์เซนอล
สนาม สตาด เด ลา มอสสัน
"ปืนโต" ยกพลมาบุก "มงต์เปลิเย่ร์" สโมสรเก่าของ "ชิรูด์" ที่วันนี้ได้ยืนเป็นตัวจริงในแดนหน้า ต้องดูว่าเขาจะสามารถระเบิดประตูอดีตต้นสังกัดได้บ้างหแกรือไม่ เปิดฉากมาเพียงแค่ 9 นาทีแรก อาร์เซนอลก็ต้องมาเสียประตูแรกในถิ่นน้ำหอมสำหรับเกมนี้จนได้ เมื่อแฟร์มาเล่นไปพยายามเข้าสกัดบอลจากเท้าของเบล็องด้า แต่รวบไปทั้งคนและบอล ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่เจ้าของเบอร์ 10 ของมงต์เปลิเย่ร์จะลุกขึ้นมาสังหารเองด้วยท่าสุดคลาส ชิพบอลเบาๆเข้าตรงกลางประตู ทำเอามันโนเน่วัยรุ่นเซ็ง เพราะอุตส่าห์เทตัวไปรับด้านข้าง
นาทีที่ 16 เป็นการเอาคืนชนิดที่เจ้าบ้านแทบเงิบหงายหลัง สำหรับอาร์เซนอลที่ได้ประตูตีเสมอเร็วทันใจ แถมคนจ่ายยังเป็นชิรูด์อดีตเด็กเก่าของมงต์เปลิเยร์ที่สะกิดบอลต่อให้กับโพโดลสกี้ซึ่งฉีกหาตำแหน่งได้สวย ก่อนแตะเข้าจุดโทษแล้วซัดผ่านมือผู้รักษาประตูอย่างเยือกเย็น เกมเสมอกัน 1-1
เกมพลิกภายในเวลาไม่กี่นาทีจริงๆ เพราะอีก 2 นาทีต่อมา กลายเป็นอาร์เซนอลที่เป็นฝ่ายขึ้นนำไปซะอย่างนั้น กับจังหวะที่แชร์วิญโญ่กระชากพาบอลหนีกองหลัง ก่อนจ่ายให้เพื่อนแล้วหุบเข้าไปรอรับบอลตรงกลางที่ครอสมาจากด้านข้าง จังหวะนี้จริงๆมีกองหลังของเจ้าบ้านดักทางอยู่แล้ว แต่ดันสกัดไม่โดน เลยกลายเป็นลูกปลอกกล้วยเข้าปากของแชร์วิญโญ่ที่ตั้งตีนให้ตรงแล้วแปบอลผ่านตัวชูดร็องเข้าไป เกมพลิก 2-1
หลังจากลุยยิงกันจนแฟนไม่ทันได้เตรียมเสียงเฮไว้รอ ทั้งสองทีมก็กลับมาสู่การค่อยๆขยับทำเกมเป็นสเต็ปเรื่อยๆ อาร์เซนอลเน้นครองบอลแน่นอนไว้ก่อน เพราะยังไงก็นำอยู่ ส่วนเจ้าบ้านก็พยายามที่จะหาช่องเจาะเข้าทำ แต่ต้องใจเย็นหน่อย เพราะบอลส่วนมากตอนนี้จะไปอยู่กับทีมเยือน
นาทีที่ 34 ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว สำหรับจังหวะนี้ของเอสตราด้าที่พยายามเบี่ยงกระชากตัวหาช่องจากการบล็อกของกองหลังอาร์เซนอล ก่อนจะลองตวัดยิงด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษหักข้อไปเสาแรก แต่น่าเสียดายตรงที่บอลมันพุ่งหลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
กว่าจะได้โอกาสยิงจังๆก็ต้องรอถึงนาทีสุดท้ายของครึงแรกเลยสำหรับชิรูด์ กับจังหวะที่กิ๊บส์เติมขึ้นไปครอสบอลได้งามยาวไปที่เสาแรก ชิรูด์พุ่งเข้ามาเอี้ยวตัวแปบอลคนเดียว แต่เหมือนจะย้อนหลังนิดหนึง ทำให้คุมไม่อยู่ พุ่งหลุดกรอบออกหลังไป
จบ 45 นาทีแรก เป็นอาร์เซนอลที่โชว์คาแร็คเตอร์สุดแจ่ม พลิกแซงนำมงต์เปเลเย่ร์เจ้าบ้านไปก่อน 2-1 แต่จากเกมของเจ้าบ้านดูแล้วบอกได้เลยว่าอันตรายไม่สร่าง ถ้าทีมเยือนประมาทเกมอาจพลิกกลับมาได้อีกทีเช่นเดียวกัน
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังเพียงแค่ 2 นาที เวนเกอร์แทบอยากจะเอาขวดน้ำทุบหัวดิยาบี้ เพราะจู่่ๆก็อุตริไปเลี้ยงบอลล็อกไปมาในเขตโทษของตัวเองหน้าตาเฉย เลยโดนกาเบล่าฉกบอลไปได้ ยังดีที่แข้งมงต์เปลิเย่ร์เร่งจังหวะตัวเอง หวดบอลหลุดกรอบออกไปไกลทั้งที่เป็นโอกาสทอง ไม่งั้นแล้วเสียหายจริงๆในจังหวะนี้ของดิยาบี้
นาทีที่ 55 ถ้าเข้าไปนี่สวยสดอย่าบอกใครแน่นอนสำหรับจังหวะชิพของกาเบล่าที่บรรจงยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งวิ้งๆลอยกลางอากาศผ่านมือของมันโนเน่ที่เอื้อมยังไงก็ไม่ถึงไปแล้ว แต่ดันชนคานเข้าซะก่อน
เกมของอาร์เซนอลผ่อนลงไปอย่างชัดเจนหลังผ่านชั่วหนึ่งชั่วโมงมานี่ เพราะมีแ่ต่ทางมงต์เปลิเย่ร์ที่ได้ครองบอลบุกเข้าใส่อยู่ตลอด ถึงพื้นที่สุดท้ายจะไม่ได้กดดันมากมาย แต่ถ้าลูกทีมของเวนเกอร์ยังเฉื่อยแบบนี้ก็พร้อมโดนได้ทุกเมื่อเหมือนกัน
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ทีมที่ต่อบอลกันได้ดีอย่างอาร์เซนอล กลับครองบอลไว้ได้ไม่นาน จ่ายต่อกันได้ไม่กี่จังหวะก็ต้องคืนหลังแล้วโดนบีบจนเตะสาดโด่งออกมาแบบไร้ทิศ ดูแล้วหวาดเสียวเรื่องโดนตีเสมอจริงๆ
นาทีที่ 76 เป็นการกลับมาเล่นในถิ่นเก่าแบบออกแนวเกร็งน่าดูสำหรับชิรูด์ที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ออกและถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม โดยเป็นแรมซี่ย์ลงไปเล่นแทน เสียงปรบมือดังทั่วถึงกัน
นาทีที่ 80 พอดิบพอดี นี่มันต้องเป็นประตูตีเสมอไปแล้ว สำหรับจังหวะที่มงต์เปลิเย่ร์ครอสบอลเข้ากลางแล้วแฉลบไปเข้าทางของเบล็องด้าซึ่งล็อกบอลหลบแมร์เตซัคเกอร์จนล้มคะมำลงไป แต่จังหวะที่เจ้าตัวได้เลือกยิงแล้วซัดไปตรงตัวของมันโนเน่ที่ยืนอยู่เฉยๆก็ได้เซฟสำคัญไป เจ้าบ้านท่าทางช็อกน่าดูเลยในจังหวะนี้
จบ 90 นาทีเป็นอาร์เซนอลที่เอาอยู่เบียดเอาชนะมงต์เปลิเย่ร์ไป 2-1 ในเกมนัดเปิดสนามแชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่มบี มี 3 คะแนนตุนเอาไว้ก่อนเลยสำหรับลูกทีมของอาร์แซน เวนเกอร์