ผู้เขียน หัวข้อ: "ค็อป" ตาค้าง~!! "สเคอร์เทล" ทำเจ๊ง!! "หงส์ซิ่ง" โดน "เรือใบ" ไล่ตีเจ๊า 2-2  (อ่าน 920 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

เดอะ ค็อปถึงกับนั่งตาค้างหลังเห็น "มาร์ติน สเคอร์เทล" กองหลังฮีโร่พังลูกแรกดันส่งคืนหลังไม่ดูตาม้าตาเรือกลายเป็นส่งให้ "คาร์ลอส เตเบซ" หลุดเดี่ยวยิงตีเสมอท้ายเกมให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ ทำให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลยังรอชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ต่อไปอีก



พรีเมียร์ ลีก
ลิเวอร์พูล 2 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม แอนฟิลด์

บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ส่งท้ายเดือนสิงหาคม เมื่อลิเวอร์พูลเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องดูว่าเจ้าบ้านจะไหวรึเปล่ากับเกมนี้

           เปิดฉากเริ่มเกมมาแค่ 5 นาทีแรก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ก็ต้องเจอกับสัญญาณไม่ดีที่พวกเขาไม่ต้องการเห็น เมื่อลูคัสเกิดมีอาการบาดเจ็บขึ้นมา ส่ายหน้าเล่นต่อไม่ไหว จึงจำต้องเปลี่ยนออกและส่งเชลวี่ย์ลงไปเล่นแทน กลางจะมีปัญหามั้ยก็ต้องดูกัน

ผ่าน 15 นาทีแรก เกมยังไม่ได้มีความต่างมาก แต่แมนฯซิตี้ครองบอลได้ดีกว่าอยู่สักหน่อย ส่วนลิเวอร์พูลก็มีจังหวะบุกใส่เหมือนกัน แต่จังหวะส่วนมากจะไปไม่ถึงไหน ซัวเรซพอได้บอลก็ออกจากฝืนๆไปหน่อย เลี้ยงเข้าไปชนไปติด น่าจะมีผ่อนจ่ายออกให้เพื่อนบ้าง

อีก 3 นาทีต่อมา ลูกนี้มันน่าใส่สกอร์ซะจริง กับจังหวะที่สเตอร์ลิ่งทำได้สวยครอสบอลจากด้านข้างเข้าพื้นที่อันตรายหน้าประตู ก่อนที่บอรินี่จะพุ่งโฉบใช้ข้างเท้ายิง บอลพุ่งผ่านหน้าฮาร์ทที่ได้แต่มองไปแล้ว แต่หลุดเสาออกไปหวุดหวิด

ต่อเนื่องกันไปเลยสำหรับแมนฯซิตี้ที่ได้สวน เตเบซวิ่งควบไปเอาบอลที่เพื่อนจ่ายมาให้ แม้ว่ามันจะเกือบสุดแสนหลังและมุมแทบไม่เหลือ แต่เขาก็ตวัดผ่านเรน่าที่ออกไปไม่เจอบอล จนไหลไปชนเสาอีกฝาก ดีที่โดนเหลี่ยมนอกและไม่มีผู้เล่น "เรือใบ" เข้าไปซ้ำ ไม่งั้นมีโศกแน่

นาทีที่ 28 เป้นการจ่ายบอลหาช่องกันที่ทำได้ดีสำหรับลิเวอร์พูล ที่ต่อสลับกันไปมา ก่อนบอรินี่จะวิ่งให้เพื่อนจ่ายตามช่องแล้วได้ส่องเน้นๆ แม้ว่าจะติดบล็อกของกองหลัง แต่เจ้าตัวก็ฮึดชูมือกระตุ้นให้แฟนบอลส่งเสียงเชียร์เร้าให้มากขึ้นอีก

นาทีที่ 33 หวุดหวิดมากจริงๆสำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่จะเสียประตูแบบไม่น่าเสีย ในจังหวะที่เจอร์ราร์ดเติมขึ้นไปเปิดลูกไม้ตายครอสบอลสวิงเข้าไปในกรอบเขตโทษ กอมปานีพยายามจะสกัดแต่บอลมันไต่ขาวเกือบปลิ้นเสียบใต้คาน ยังดีที่หลุดข้ามออกไปเฉียดฉิว
 
อีก 2 นาทีต่อมา เล่นเอาแฟนบอลเฮกันสนามแทบแตกจริงๆ ในจังหวะเตะมุมที่เจอร์ราร์ดปั่นบอลปั่นบอลมาสวยสุดๆ ก่อนที่สเคอร์เทลซึ่งไปแอบอยู่โซนนอกจากวิ่งควบเข้ามาจุดนัดพบเทคตัวขึ้นโขกเต็มๆผ่านฮาร์ทเข้าไปกระแทกตาข่าย ลิเวอร์พูลนำไปแล้ว 1-0 สนุกล่ะทีนี้

เป็นอีกหนึ่งโอกาสของซัวเรซที่ยังไม่เข้าเป้าสักเท่าไหร่ ในจังหวะที่หลังของแมนฯซิตี้ยืนหลวมไปนิด ปล่อยให้หอกฟันไม่เข้ายืนรับบอลมาจากอัลเลน ก่อนจะพลิกแล้วปั่นด้วยเท้าขวา แต่เรดาห์เบี่ยงไปนิด บอลเลยพุ่งไม่ตรงกรอบ

จบ 45 นาทีแรก ถือว่าเป็นเกมที่แลกกันน่าดู เพราะแมนฯซิตี้ที่มาเยือนจัดทีมแบบไม่มีเกรงอยู่แล้ว สุดท้ายเป็นเจ้าบ้านลิเวอร์พูลที่แม้ก่อนเกมจะเป็นรอง แต่ตอนนี้ขึ้นนำไปก่อน 1-0 เหลือ 45 นาที ยังมีอะไรให้ลุ้นกันอีกเยอะ

             กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังเพีงแค่ 5 นาที ลิเวอร์พูลก็เกือบจะได้ประตูที่สอง ติดอยู่ตรงที่ซัวเรซวันนี้เหมือนสมาธิไม่ดีเอาซะเลย ทั้งที่บอรี่นี่ปั้มบอลมาอย่างงาม จ่ายตัดเข้ากลางให้ซัวเรซได้วิ่งเข้าชาร์จ แต่เจ้าตัวกลับยิงแป้กหลุดออกหลังไป แม้ว่าจะโดนเบียดก็จริง แต่ยังไงก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้

นาทีที่ 60 ดูแล้วงงๆนิดหน่อยว่าทำไมเปลี่ยนแบบนี้ แต่คงเตรียมแผนมาแล้วสำหรับมันชินี่ที่ถอดนาสรี่ออกไปและส่งร็อดเวลล์ที่เป็นมิดฟิลด์ตัวบึ้กลงไปเล่นแทน ต้องดูว่าจะมีการปรับแก้กันยังไงบ้าง

อีก 2 นาทีต่อมา ตอนนี้เปลี่ยนตามตำแหน่งเลยสำหรับแมนฯซิตี้ที่ถอดเอาบาโลเตลลี่ออกไปและส่งเชโก้ลงไปเล่นแทน ส่งแข้งตัวใหญ่สองตัวลงไปแบบนี้อาจจะมีแผงเล่นลูกตั้งเตะอะไรรึเปล่ามันชินี่

นาทีที่ 63 กลับมาเสมอกันแบบไม่ต้องให้รอนานมากนักเลย เมื่อแมนฯซิตี้มาได้ฮีโร่หน้าเดิมเวลาตกทุกข์ได้ยากถามหาเขาคนนี้ยาย่า ตูเร่ที่ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของลิเวอร์พูล ไล่ตั้งแต่การไม่ให้เสียงกัน เรน่าขึ้นจะปัดลูกครอสของเตเบซพร้อมกองหลัง บอลเลยแฉลบเลยไปเสาสอง เคลลี่ไม่ทันตั้งตัวพักบอลไม่อยู่ กลายเป็นใส่พานให้ยาย่าตวัดยิงเข้าประตูไปขนไหม้เกรียม เกมเจ๊ากัน 1-1
 
อันนี้เร็วยิ่งกว่า เพราะแค่ 3 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูลก็กลับขึ้นไปนำอีกครั้ง ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นซัวเรซที่วันนี้โอกาสแยะแต่ทำไม่ได้ ก็มาทำประตูสุดสวยจากฟรีคิกที่เขายิงหลอกปั่นโค้งอ้อมกำแพง เหมือนว่าร็อดเวลล์จะยืนปิดมุมไม่ดีด้วยหรือไงไม่รู้เพราะกล้องจับเหลือเกิน แต่บอลก็พุ่งโค้งงามๆเบียดเสียบเสาเข้าไป สุดปัญญาที่ฮาร์ทจะบินทัน เกมสนุกสุดๆลิเวอร์พูลนำ 2-1

นาทีที่ 76 ตอนนี้กลับมาตามอีกครั้ง แถมลิเวอร์พูลยังคึกน่าดู ทำให้แมนฯซิตี้ต้องส่งตัวทีเด็ดอย่างซฺลบาลงเล่นแทนมิลเนอร์ที่พูดก็พูดเถอะว่าแทบไม่เห็นจริงๆว่าอยู่ตรงไหนของสนาม
 
นาทีที่ 80 หมดคำจะพูดเลยสำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล เพราะพวกเขากำลังเฝ้ารอชัยชนะอันสวยงาม แต่ฮีโร่ผู้ทำประตูแรกอย่างสเคอร์เทลกลับไปเล่นยากล็อคบอลในแดนตัวเอง ก่อนจ่ายกลับหลังน้ำหนักเบาหวิว เลยเจอเตเบซฉกไปกระชากหนีเรน่าแล้วแปเข้าไปแบบง่ายดาย เกมเสมอ 2-2 แต่คราวนี้โมเมนตั้มอยู่ที่ "เรือใบ" เต็มๆแล้ว

อีก 3 นาทีต่อมา มีเท่าไหร่ก็ต้องใส่ไปลุ้นแล้วสำหรับลิเวอร์พูลที่ถอดเอาบอรินี่ออกไปแล้วส่งแคร์โรลล์ลงไปเล่นแทน งานนี้อาจจะได้เห็นการบอมบ์เกิดขึ้นแน่ๆ

นาทีที่ 88 จังหวะนี้ถ้าไม่มีร็อดเวลล์แมนฯซิตี้โดนแน่ๆ เพราะลิเวอร์พูลกดดันอย่างหนัก ก่อนที่ซัวเรซจะยกบอลไปเสาสองให้แคร์โรลล์สะบัดหัวโหม่งเต็มๆ บอลเกินระยะของฮาร์ทไปแล้ว แต่มีร็อดเวลล์ยืนคุมเส้นอยู่ สกัดออกได้ทัน

จบเกมที่แสนจะสนุกสุดมันส์ได้ลุ้นกันเรื่อยๆ เป็นอันว่าทั้งสองทีมเสมอกันไปด้วยสกอร์ 2-2 ลิเวอร์พูลยังคงไม่ชนะใครต่อไป ส่วนแมนฯซิตี้ตอนนี้ชนะ 1 เสมอไปอีก 1 ยังต้องลุ้นกันอีกยาวๆสำหรับฤดูกาลนี้
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา