ผู้เขียน หัวข้อ: "อิตาลี" ชัวร์กว่า~!! ดวลเป้า "สิงห์โต" 4-2 ตัดเชือก "เยอรมัน" สมใจ~!!  (อ่าน 1035 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"อิตาลี" ที่พับสนามบุกตลอด 120 นาทีเสมอ 0-0 พลิกสถานการณ์เกือบลงโลงในการดวลเป้ากลับมาเอาชนะ "อังกฤษ" ระทึกขวัญ 4-2 หลุดตัดเชือกปะทะเยอรมันสมใจอยาก



ฟุตบอลยูโร 2012 รอบก่อนรองชนะเลิศ
สนาม โอลิมปิสกี้่
วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2555
อังกฤษ 0 - 0 อิตาลี
(จบ 120 นาทีเสมอกัน 0-0 อิตาลีเอาชนะด้วยการดวลจุดโทษ 4-2)

             งานนี้คงจะไม่ได้หลับได้นอนกันง่ายๆหลังจากที่เปิดฉากมา 3 นาที "อัซซูรี่" ก็เกือบได้ประตูออกนำไวเสียแล้วจากจังหวะบอลบุกขึ้นทางขวาก่อนคาสซาโน่จะเปิดแฉลบบอลย้อนออกไปหน้าเขตโทษถึงเด รอสซี่วิ่งเข้ามายิงแบบไม่ต้องจับบอลติดไซร้ก้อยโค้งหนีฮาร์ทไปแล้วแต่ชนเสาเต็มๆ

ถัดมาอีกไม่กี่นาที"สิงโตคำราม"ก็เกือบจะได้ประตูออกนำเช่นเดียวกันเป็นจอห์นสันที่ทำทางขึ้นมาเองจ่ายบอลเข้าเขตโทษให้กับยังเบิ้ลไวออกมาทางริมเส้นให้กับมิลเนอร์เปิดกลับเข้าไปข้างใน บอลติดแฉลบนิดหน่อยแต่ก็ยังไปเข้าทางจอห์นสันได้จับบอลแล้วยิงจ่อๆไม่ถึง 12 หลาแต่บุฟฟ่อนยังไวยื่นมือปัดทันก่อนจะตามไปรับเข้าซอง

เกมเปิดกันพอสมควรโดยช่วงนี้เป็นบอลของอังกฤษแล้วก็มีโอกาสได้ลองส่องอีกแล้วจากจังหวะบอลเปิดยาวเข้าไปในเขตโทษเหมือนไม่มีอะไรแต่บุฟฟ่อนเลือกทุบออกไปมาเข้าทางปาร์คเกอร์หน้าเขตโทษยิงสวนเลยแต่ก็ไม่ตรงกรอบหลุดออกหลัง

นาที 14 อิตาลีต้องรีบแก้ด่วนหลังเจออังกฤษบุกมาอีกได้โอกาสจบอีกครั้งจากจอห์นสันคนเดิมที่เลือกเปิดจากแนวลึกทางขวาเข้าไปในเขตโทษเลยมีรูนี่ย์วิ่งโฉบมาพุ่งโหม่งแต่ก็ต้องชมอบาเต้ที่ตามมากดดันทำให้กองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ดโหม่งข้ามคานออกไป

หลังเกมกลับไปได้ผลัดกันครองบอลเท่าๆกันอิตาลีก็เริ่มตั้งเกมได้บ้างแล้วก็เกือบได้ออกนำอีกแล้วจากการวางบอลยาวของปิร์โล่ที่ร้ายกาจเหมือนเดิมโยนตั้งแต่กลางสนามข้ามแนวรับให้บาโลเตลลี่หลุดไลน์ดักล้ำหน้าไปจับบอลลงก่อนจะพยายามชิพให้ข้ามหัวฮาร์ทแต่เทอร์รี่ยังเยี่ยมตามมาบล็อกได้ทัน

ผ่านครึ่งชั่วโมงมาโอกาสยังมีเรื่อยๆคราวนี้เป็น"อัซซูรี่ที่ได้จังหวะส่องเน้นๆอีกแล้วจากโบนุชชี่ที่จ่ายขึ้นมาตรงกลางให้ปิร์โล่คนเดิมเล่นบอลจังหวะเดียวเปิดข้ามแนวรับไปให้กับบาโลเตลลี่อีกแล้วแต่บอลชิดตัวไปทำให้ต้องโดดยิงเจอฮาร์ทยืนดักตำแหน่งไว้แล้วรับเข้าซองไม่มีปัญหา

ด้านอังกฤษเองโต้กลับมาทีก็ได้เสียวอยู่เหมือนกันเป็นจังหวะที่เวลเบ็คฝากบอลไปหน้าเขตโทษให้กับรูนี่ย์ก่อนจะตอกส้นกลับมาที่เวลเบ็ควิ่งมารับตรงหัวกะโหลกหน้าเขตโทษก่อนยิงเลยแต่ไม่เน้นเท่าไหร่บอลก็เลยลอยนข้ามคาน

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 37 อิตาลีครองบอลได้มากกว่าแล้วและก็ได้โอกาสลองส่องอีกครั้งคราวนี้เป็นคิวของคาสซาโน่บ้างที่ได้รับบอลมาจากบาโลเตลลี่ก่นอจะเลือกลากตัดเข้าในจากซ้ายก่อนจะสับไกทันทีแต่ฮาร์ทยังเซฟไว้ได้

โอกาสของทีมแดนรองเท้าบู้ทมาอีกแล้วจากการออกบอลของปิร์โล่คนเดิมที่ได้เปิดเข้าไปข้างในทางเสาสองให้กับคาสซาโน่ได้โขกชงมาหน้าประตูก่อนเป็นบาโลเตลลี่วิ่งเข้ามาได้ชาร์จแต่ก็มีเทอร์รี่กับเลสคอตต์มาพัวพันบอลเลยโดนสกัดข้ามคานออกไป ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

            กลับมาต่อกันในช่วงครึ่งหลังรูปเกมแทบไม่เปลี่ยนไปจากครึ่งแรกเลยและเป็นอิตาลีเช่นเคยที่มีโอกาสได้ลุ้นอีกจากเตะมุมเข้ามาโดยปิร์โล่ บอลยังโดนสกัดออกไปแต่ก็มีตัวโหม่งซ้ำเข้าไปข้างในเขตโทษ คราวนี้บอลหลุดมาให้กับเด รอสซี่ได้ยิงจ่อๆ 6 หลาได้แต่หลุดเสาไม่น่าเชื่อ

นาที 52 โอกาสสามครั้งของเหน่งๆโดยอิตาลีแต่ก็ยังไม่ได้ซะทีเริ่มจากการยิงไกลของเด รอสซี่กดเต็มข้อ ฮาร์ทเซฟไว้ได้แต่บอลยังมาเข้าทางบาโลเตลลี่ได้ซ้ำติดเซฟฮาร์ทเหมือนเดิมคราวนี้มาเข้าทางมอนโตลิโว่ตรงกลางประตูมีโอกาสยิงเน้นๆอีกทีแล้วแต่กดไม่ลงบอลลอยออกหลัง

ทางอังกฤษเริ่มจะไม่ได้ขึ้นเกมแล้วเจอ"อัซซูรี่"บุกมาทีได้ลุ้นเรื่อยเลยคราวนี้เป็นการทำเกมทางฝั่งขวามอนโตลิโว่ออกไปให้กับอบาเต้เปิดเข้าไป บอลมีแฉลบนิดนึงลอยโด่งแต่บาโลเตลลี่ยังบังไว้ให้บอลตกพื้นทีก่อนจะกระโดดตีลังกายิงแต่บอลข้ามคานนิดเดียว

นาที 65 "สิงโตคำราม"ได้มามีโอกาสกับเค้าบ้างหลังเจอบดมานาน เป็นจังหวะบอลเปิดเข้าไปข้างในเขตโทษของวัลคอตต์หวังจะให้คาร์โรลล์เล่นแต่บอลโดนสกัดมาเข้าทางยังได้เก็บตกยิงแต่บอลไปแฉลบหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียวเท่านั้น

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วแต่รูปเกมยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนักอิตาลีระดมยิงไกลบ่อยขึ้นแต่แนวรับอังกฤษยังดีเข้ามาบีบบล็อกกันไว้ได้แต่พอจะเล่นลูกโต้กลับ"สิงโตคำราม"ก็ต่อบอลกันขาดๆเกินๆไม่ได้บุกซักที

อังกฤษหาโอกาสเหน่งๆไม่ค่อยได้เลยต้องมาลุ้นจากลูกตั้งเตะบ้างเป็นเจอร์ราร์ดที่รับหน้าที่เปิดเข้าไปเองหวังจะให้ถึงหัวรูนี่ย์ได้โขกแต่บอลมาสูงไปนิดทำให้โหม่งไม่ค่อยจะโดนก่อนจะมาเข้ามือบุฟฟ่อน

"อัซซูรี่"ได้ครองบอลต่อเนื่องเริ่มกดดันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วมีโอกาสจบอีกครั้งนึงเป็นปิร์โล่ที่จ่ายให้กับโบนุชชี่ดันขึ้นมาหน่อยก่อนฝากไปให้เดียมานติจับบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วส่องไกล 28 หลาแต่ฮาร์ทยังล้มตัวรับไว้ได้

ช่วง 2 นาทีสุดท้ายของเกมเกือบจะมีประตูตัดสินแล้วจากอิตาลีเป็นการเปิดของมาคิซิโอ้เข้าไปในเขตโทษให้กับโนเชริโน่โฉบมาเอาบอลก่อนจะยิงเลยแต่ต้องชมจอห์นสันที่ตามมาบล็อกได้อย่างทันท่วงที

ทดเจ็บ"สิงโตคำราม"เกือบได้ประตูชัยตัดสินเช่นเดียวกันเป็นจังหวะที่ไปเอาบอลกลับคืนมาได้ก่อนฝากที่ยังทางซ้ายแล้วออกต่อให้โคลที่สอดขึ้นมาเปิดเข้าไปเสาสองให้คาร์โรลล์โขกชงมาหน้าประตูและมีรูนี่ย์ตีลังกายิงแต่ก็ข้ามออกหลังไปไกล ทำให้จบเกม 90 นาทีเสมอ 0-0 ไปลุ้นกันต่อ

ต่อเวลา

          ต่อเวลาครึ่งแรก อิตาลี ใจหายใจคว่ำกันเลยหลังมาเล่นช่วงต่อเวลาเป็นอังกฤษที่ได้เสียวมากกว่าจากลูกตั้งเตะโดยเจอร์ราร์ดอีกครั้งเปิดเข้าไปลุ้นข้างในบอลเลยมาหมดผ่านเลสคอตต์ไปแต่ยังไม่ไปไหน เลสคอตต์หันมาเจอแล้วแต่แนวรับอิตาลีเคลียร์ได้ทันพร้อมโดนจับล้ำหน้าไปก่อนด้วย

กลับมาเป็นโอกาสของ"อัซซูรี่"กันบ้างจากปิร์โล่ที่ออกบอลจากกลางสนามแทงขึ้นหน้ามาให้กับบาโลเตลลี่เก็บบอลหน้าเขตโทษก่อนจะดึงจังหวะแล้วแต่งเข้าซ้ายแล้วกดแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของฮาร์ท

นาที 102 อิตาลีได้ดวงช่วยแล้วแต่ยังช่วยไม่สุดหลังเกือบได้ประตูออกนำจากเดียมานติที่ได้บอลทางขวาก่อนจะเปิดเข้าไปข้างใน บอลเหมือนจะไม่มีอะไรแต่พอตกพื้นแล้วกระเด้งไปชนเสาเต็มๆก่อนจะหลุดออกหลัง

          เข้าสู่ช่วงต่อเวลาครึ่งหลังของการต่อเวลาทางอิตาลียังได้ครองบอลเยอะกว่าแบบชัดเจนแต่โอกาสทำประตูจะๆก็ยังหาไม่ค่อยเจอแล้วได้แต่ลองส่องไกลไม่ก็เปิดเข้าไปลุ้น ส่วนทางอังกฤษยังต้องตั้งรับต่อไป

นาที 113 อิตาลีได้จบอีกครั้งเป็นปิร์โล่ถ่ายบอลไปทางซ้ายให้กับโนเชริโน่ออกไปที่ริมเส้นให้บัลซาเรตติที่เติมขึ้นมาก่อนจะเปิดเข้าไปข้างในให้เดียมานติยิงหลุดเสาแรก

"อัซซูรี่"เฮกันเก้อซะแล้วหลังส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายในจังหวะที่บาโลเตลลี่จ่ายออกไปทางขวาให้กับเดียมานติในเขตโทษล็อกๆหลอกๆโคลไปได้ก่อนจะเปิดไปเสาไกลให้โนเชริโน่ขยับมาโหม่งเข้าประตูแต่ก็โดนจับล้ำหน้าไปก้าวนึง

ดวลจุดโทษตัดสิน


อิตาลี : บาโลเตลลี่ เข้า
อังกฤษ : เจอร์ราร์ด เข้า

อิตาลี : มอนโตลิโว่ ไม่เข้า
อังกฤษ : รูนี่ย์ เข้า

อิตาลี : ปิร์โล่ เข้า
อังกฤษ : ยัง ไม่เข้า

อังกฤษ : โนเชริโน่ เข้า
อิตาลี : โคล ไม่เข้า

อิตาลี : เดียมานติ เข้า
อังกฤษ : ไม่ต้องยิง

จบเกมอันยาวนานในที่สุด "อิตาลี" ก็ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จด้วยการเอาชนะจากการดวลจุดโทษกับ "อังกฤษ" ไป 4-2 หลังเสมอกันมา 0-0 ใน 120 นาทีทำให้จะเข้าไปชนกับ "เยอรมนี" ในวันพฤหสบดีนี้
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา