ผู้เขียน หัวข้อ: ใจจะขาด~!! "ปืนโต" วืดจุดโทษท้ายเกมเจ๊า "นกขมิ้น" 3-3 สุดระทึก!!  (อ่าน 1523 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

สำหรับเกมนี้ใครที่สภาวะหัวใจไม่ค่อจะแข็งแรงนี่ต้องห้ามดูเลย เพราะเกมพลิกไปพลิกมาหลายตลบจนหัวใจจะวาย "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ขึ้นนำเร็ว แต่ที่่สุดในโดนตีเสมอในช่วง 5 นาทีสุดท้าย แถมวืดได้จุดโทษทั้งที่โดนทำฟาวล์ชัดเจน ก่อนจะลุ้นสุดระทึกในช่วงเวลาที่เหลือ แต่จนแล้วจนรอดก็ได้แค่เจ๊าไปแบบน่าผิดหวัง 3-3



พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2555
สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม
อาร์เซนอล 3 - 3 นอริช ซิตี้

"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล วันนี้ลุ้นเก็บ 3 คะแนนเต็มเพื่อการันตีอันดับที่ 3 บนตารางให้ได้ เพราะเจอกับ "นอริช ซิตี้" ที่วันนี้เล่นแบบไม่มีอะไรให้ลุ้น เพราะยังไงก็อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ ลีกแล้ว

"เพอร์ซี่" ยังคงสวมปลอกแขนกัปตันทีมนำทัพลงกรำศึก พร้อมกับมีงานพิธีเล็กน้อยเพื่อฉลองให้กับดาวยิงเลือดดัตช์ที่คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีมาได้

              เปิดฉากมาได้แค่นาทีกว่า เบนายูน ก็สร้างปาฏิหาร โดยทำประตูให้กับ "ปืนโต" อาร์เซนอล คลายความกดดันได้แบบเร็วปานสายฟ้าแล่บ เมื่อเขาได้บอลทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะยึกหลอกว่าจะจ่ายให้กับ "กิ๊บส์" ที่เติมขึ้นไป แล้วหักกลับเข้าใน สบโอกาสเลยจัดการปั่่บอลพุ่งโค้งเหมือนมีแรงดูดเข้าไปเสาตาข่ายเสาสอง งามหยดสุดๆชนิดที่รัดดี้ได้แต่ชะเง้อมองเท่านั้น

นาทีที่ 12 เท่านั้น อาร์เซนอลที่อุตส่าห์ได้ประตูขึ่นนำเร็วก็มาเสียท่าจนได้ จากจังหวะที่นอริชต่อบอลกันสวย ก่อนที่จะขึ้นเกมทางขวา แล้วตัดบอลจ่ายกลับเข้ากลางให้กับฮูลาแฮนที่บรรจงแปเน้นๆ บอลพุ่งตรงตัวของเซสนี่ย์ แต่เหมือนระยะจะใกล้ไปหน่อย ทำให้เขาล้มตัวลงช้า บอลเด้งโดนเข่าเข้าประตูไปซะอย่างนั้น นอริชตีเสมอเป็น 1-1

แทนที่จะครองความได้เปรียบเพราะนำตั้งแต่ 2 นาทีแรกเอาไว้ แต่พอพลาดไปตอนนี้เลยกลายเป็นว่าอาร์เซนอลออกอาการเมาหมัด ขึ้นเกมก็ดูจะกุกๆกักๆ กลายเป็นนอริชซะอีกที่เล่นดูมีความมั่นใจไร้ความกดดัน

เห็นแล้วก็รู้สึกเห็นใจเบาๆสำหรับจังหวะนี้ของเซสนี่ย์ เมื่ออาร์เซนอลที่กำลังบุกเพลินๆไปโดนสวนกลับ โฮลท์ตั้งบอลให้เพื่อน ก่อนที่จะฉีกตัวไปรับบอลทางด้านขวา แม้ว่าจังหวะจะไม่ดี แต่ก็ยิงยัดๆไป กลายเป็นบอลแฉลบเท้าของกิ๊บส์ที่พยายามบล็อก ลอยโด่งข้ามหัวเซสนี่ย์ที่ยืนทำหน้าสารภาพว่าไร้ทางต่อต้าน นอริชทำเซฮร์ไพรส์บุกมาพลิกนำ 2-1 ในนาทีที่ 26

อีก 4 นาทีต่อมา น่าเห็นใจจริงๆสำหรับอาร์เซนอล เพราะเพิ่งจะโดนนอริชพลิกนำไปได้ ตอนนี้ต้องมาเสียซานญ่าที่มีอาการบาดเจ็บ ตอนแรกนอนกุมเท้าอยู่ แต่เห็นเพื่อนเล่นต่อเลยพยายามลุกขึ้นมารับบอล กลายเป็นว่าเจ็บจนทนไม่ไหว ต้องขึ้นเปลพร้อมกับดามข้อเท้าขวาเอาไว้ก่อนเพื่อความชัวร์ ก่อนที่อาร์เซนอลจะส่งโคเกอร์แล็งน์ลงไปแทน

เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เล่นเอาใจหายใจคว่ำเหมือนกันสำหรับแฟนบอลของอาร์เซนอล เพราะจังหวะสวนกลับของนอริชอันตรายน่าดู แถมยังเกือบได้ลุ้นจุดโทษในจังหวะที่โคเกอร์แล็งน์ไปเสียบสกัดฮูลาแฮนในเขตโทษอีกด้วย แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร

ก่อนหมดเวลาถือว่ารอดพ้นจริงๆสำหรับอาร์เซนอล เมื่อพวกเขาหวุดหวิดจะเสียจุดโทษในจังหวะที่มีการดึงกันล้มในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ก่อนที่กอสเซียลนี่จะมาเป็นพระเอกวิ่งบล็อกจังหวะยิงจ่อๆของโฮลท์เอาไว้ได้อีก จบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอลเฮงเหมือนกันที่ยังโดนนำอยู่แค่ 2-1

                 ต่อมาในครึ่งหลัง ในนาทีที่ 52 ตกม้าตายนิดหน่อยสำหรับแจ็คสัน ในจังหวะที่นอริชสวนกลับอันตรายอีกแล้ว แจ็คสันได้บอลเลี้ยงจี้เข้าหาแฟร์มาเล่น ก่อนที่จะแตะหลบไปได้ จนแฟร์มาเล่นถึงกับหงายหลัง แต่จังหวะยิงของเขามันทั้งเบาและตรงตัวของเซสนี่ย์ที่เซฟก่อนที่จะตามไปตะปบจังหวะสองเอาไว้ได้

อีก 5 นาทีต่อมา ไม่ใช่งานถนัดของเขาเลยสำหรับเบนายูนในจังหวะที่พยายามขึ้นเล่นลูกตั้งเตะ เพื่อนโยนบอลเข้ากลางเขตโทษ แข้งยิวเทคตัวขึ้นโขกได้ก่อนกองหลัง แต่บอลมันตรงตัวของรัดดี้ที่เซฟเอาไว้ได้

อีก 3 นาทีต่อมา เกมเปิดกันสุดๆสำหรับทั้งสองทีม แต่ยังไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ แต่ประเด็นมันอยู่ที่อาร์เซนอลได้ลุ้นจากจังหวะที่ฟาน เพอร์ซี่หลุดไปยิงติดรัดดี้ ก่อนที่แรมซี่ย์จะหนุนเข้าไปให้กับแชร์วิญโญ่ แล้วควบเข้ากลางไปรับบอลที่ไหลกลับมา แต่ดันยิงวืดจั่วลมเข้าเต็มๆ พลาดโอกาสไป ซึ่งดูภาพช้าแล้วก็แอบเห็นใจอยู่ เพราะบอลมันแฉลบเท้ากองหลัง จังหวะเลยสะดุดไป

นาทีที่ 63 ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับจังหวะล่าสุดไหม แต่ที่แน่ๆคือแรมซี่ย์ต้องโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนาม โดยอาร์เซนอลส่งแชมเบอร์เลนลงไปเล่นแทนเขา เพื่อหวังความจี๊ดจ๊าดที่มากกว่า

ตอนนี้เกมของอาร์เซนอลพยายามจะเร่งขึ้นมากันอย่างเต็มที่ แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรดัมอัดใส่นอริชเท่าไหร่ก็ยังไม่สามารถเจาะประตูเพิ่มได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชาร์จในเขตโทษหรือยิงนอกกรอบก็ตาม

นาทีที่ 72 ภาพที่คุ้นเคยนำพาเสียงเฮฮาของแฟนบอลอาร์เซนอลในสนามกลับมาอีกครั้ง เมื่อพวกเขากดดันจนกองหลังของนอริชรวนนิดๆ ก่อนที่ซงจะกดสูตรใช้ท่าถนัดตักบอลข้ามกองหลังยาวไปเสาสองให้ฟาน เพอร์ซี่ที่รออย่างรู้ใจแปบอลสวนรัดดี้เข้าไป อาร์เซนอลตีเสมอ 2-2 ลุ้นกันอีก

นาทีที่ 80 ยังเป็นที่พึ่งสูงสุดให้กับทีมได้เสมอสำหรับฟาน เพอร์ซี่เมื่อเขามาบวกประตูที่สองและเป็นประตูขึ้นนำอีกครั้งให้กับทีม ในจังหวะที่แชร์วิญโญ่ได้บอล ก่อนที่เลือกจ่ายให้กับโรซิคกี้ที่ถ่ายไปทางขวา แม้ว่าบอลจะแฉลบแต่ยังถึงฟาน เพอร์ซี่ที่ซัดไปติดปลายมือของรัดดี้ แต่นั่นขวางลูกยิงเขาไม่ได้ บอลพุ่งกระทบตาข่าย อาร์เซนอลนำอีกครั้ง 3-2 ระทึกจริงๆ

แต่แล้วอีก 5 นาทีให้หลังทำเอากันเนอร์สช็อคกันไปหลังทีมเยือนเจ๊าจนได้เป็นบอลขึ้นหน้ามาให้กับฮาวสันมีตัวมาสไลด์ก็ยังเอาไม่อยู่ก่อนจะดีดขึ้นหน้ามาให้กับมอร์ริสันหลุดเข้าไปทางขวาแล้วกดด้วยขวาเต็มๆส่งบอลเรียดเสียบเสาไกลหมดจดงดงามสุดๆ เกมเสมอ 3-3

นาทีที่ 87 นึกว่าหายแล้วจริงๆสำหรับจังหวะนี้ของฟาน เพอร์ซี่ที่เขาอุตส่าห์ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษแล้ว แต่จังหวะยิงกลับซัดไปติดขาของรัดดี้ซะอย่างนั้น น่าเสียดายจริง

อีก 2 นาทีต่อมา เกิดเรื่องดรามาต่อเนื่อง เมื่ออาร์เซนอลทำเกมบุกกดดันนอริช ก่อนที่จะปาดบอลเข้าไปหน้าปากประตู ผ่านรัดดี้ไปได้แล้ว ฟาน เพอร์ซี่กำลังจะแปเน้นๆ แต่โดนกองหลังของนอริชเข้าชนจากทางด้านหลังเต็มๆ แต่กรรมการนิ่งหน้าตาเฉย

ช่วงท้ายเกมอาร์เซนอลบุกเป็นพายุยิ่งกว่าทอร์นาโด ได้ยิงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่ผ่านมือของรัดดี้ที่ไม่รู้ว่าไปเรียกเทพองค์ไหนมาลงกับตัว แต่เซฟอุตลุต ก่อนช่วยให้นอริชบุกไปมาแบ่งแต้มคาบ้านของอาร์เซนอลไปด้วยสกอร์ 1-1 น่าหวาดเสียวสำหรับ "ปืนใหญ่" มากที่จะเสียตำแหน่งอันดับ 3 ของพวกเขาไป
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา