"บรันเดา" หัวหอกบราซิเลี่ยนกลายเป็นซูเปอร์ซับของ "โอลิมปิก มาร์กเซย" หลังลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงต่อเวลาพิเศษแล้วซัลโวประตูชัยให้ทีมเบียดเอาชนะ "โอลิมปิก ลียง" 1-0 ป้องกันแชมป์เฟร้นช์ลีกคัพไว้ได้สำเร็จและเป็นสมัยที่สามอันเป็นสถิติสูงสุดของรายการด้วย
เฟร้นช์ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 14 เมษายน 2555
โอลิมปิก ลียง 0 : 1 โอลิมปิก มาร์กเซย
(เสมอในเวลาปรกติ 0-0)
สนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ เปิดฉากเริ่มเกมมานั้น "ลียง" เป็นฝ่ายออกสตาร์ทเกมนัดชิงชนะเลิศเฟร้นช์ลีกคัพได้ดีกว่าเมื่อคัลล์สตรอมเปิดลูกฟรีคิกมาให้ลอฟเรนที่เทคตัวได้สูงกว่าใครโหม่งหลุดกรอบประตูโดยที่ม็องด็องด้าได้แต่เหลียวมอง
นาที 18 มาร์กเซยได้สวนคืนเมื่อฟ็องนี่กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวาก่อนเปิดเข้ามาให้เชย์รูวิ่งเข้ากระทุ้งไปติดบล็อกแนวรับลียงก่อนที่บอลถูกเคลียร์ทิ้งในจังหวะถัดมา
ลียงยังลำเลียงบอลขึ้นมาบุกอย่างต่อเนื่องเมื่อนาที 27 โกมิสเลี้ยงตะลุยเข้ากรอบเขตโทษแล้วพยายามไหลบอลต่อไปให้ลิซานโดรที่ยืนว่างอยู่ทว่าเอ็นคูลูปราการหลังดาวโรจน์มาร์กเซยวิ่งเข้ามาเคลียร์ออกหลังได้ทัน
ท้ายครึ่งแรกนาที 41 ลียงน่าได้ประตูขึ้นนำเมื่อบาสโต๊สวิ่งเข้าซัลโวแม้บอลพุ่งออกมาจากปลายสตั๊ดได้ไม่ได้และเหมือนจะหลุดกรอบแต่โกมิสก็พยายามวิ่งเข้าสะกิดเปลี่ยนทางบอลแต่ไปไม่ถึงทำให้ยังเสมอกัน 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ถึงนาที 62 มาร์กเซยได้จังหวะลุ้นประตูที่สำคัญเมื่อวัลบูเอน่าลากบอลตัดเข้าในฝ่าแนวรับลียงมาปั่นบอลโค้งหนีมือญอริสแต่บอลหลุดกรอบประตูไปเสียก่อน
แถมอีกสามนาทีถัดมาวัลบูเอน่าคนเดิมก็กระชากบอลหนีเรเวยแยร์มาได้ก่อนเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษให้อมัลฟิตาโน่วิ่งเข้าชาร์จแต่โดนญอริสปัดไปชนเสาเอาไว้ได้
แต่ลียงไม่อยู่เมื่อนาที 67 พวกเขามาได้ลูกฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษแล้วเป็นคัลล์สตรอมที่รับที่หน้ายิงโดยในจังหวะแรกอัดไปติดกำแพงกระดอนมาซัดดาบสองก็หลุดเสาไปอีก
นาที 79 ลียงส่งบอลเข้าตุงตาข่ายแต่ชวดประตูเมื่อลิซานโดรโหม่งบอลชงไปให้โกมิสที่ยืนในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนจัดการซัดบอลผ่านตัวม็องด็องด้าเข้าไปซุกก้นตาข่ายแต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองฝ่ายยังทำอะไรกันไม่ได้จึงลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0 ต้องเล่นกันอีกในช่วงต่อเวลาพิเศษ
*ต่อเวลาพิเศษ*
กลับมาเล่นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษไพ่เด็ดของมาร์กเซยอย่างบรันเดาที่ลงมาเป็นตัวสำรองก่อนที่นาที 105 ได้รับบอลจากเชย์รูแล้วหนีอัมติตี้เข้าไปกดผ่านตัวญอริสเข้าไปให้ทีมนำ 1-0
ครึ่งหลังของช่วงต่อเวลาพิเศษเล่นมาเพียงนาทีเดียวมาร์กเซยขึ้นเกมมาทางกราบขวาก่อนที่บอลถูกเปิดมาให้อายิววิ่งเข้าโหม่งเต็มกบาลแต่ญอริสเซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
สถานการณ์ของลียงยังไม่ดีขึ้นเมื่อนาที 107 หวิดโดนฟ็องนี่โขกลูกเตะมุมเข้าไปอีกดีที่ญอริสป้องกันเอาไว้ได้ ขณะที่ก่อนหมดเวลานาทีเดียวลอฟเรนปราการหลังลียงมาโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามอีก จบเกมมาร์กเซยเฉือนชนะไปชนิดหืดขึ้นคอ 1-0 ซิวแชมป์เฟร้นช์คัพสมัย 3 ไปครองได้สำเร็จ