"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า นั้นยังคงฟอร์มดีต่อไปหลัง "ลิโอเนล เมสซี่" รับหน้าที่กดไปสองประตูกลายเป็นลูกที่ 60 ในฤดูกาลนี้ของตัวเขาเองพร้อมกับพาทีมที่โดนนำไปก่อนกลับมาเอาชนะ "ซาราโกซ่า" ที่เหลือ 10 คนไป 4-1 กดดัน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ต่อไปไล่มาเหลือ 3 แต้ม
ฟุตบอลลาลีก้า
วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2555
สนาม ลา โรมาเรด้า
ซาราโกซ่า 1 - 4 บาร์เซโลน่า เริ่มเกมมาเจ้าบ้านเกือบจะได้โอกาสขึ้นนำก่อนเหมือนกันเป็นจังหวะที่จ่ายบอลทะลุให้กับมิเชลที่วิ่งสอดเข้าเขตโทษไปทางขวาก่อนจะจ่ายเข้าไปตรงกลางหวังให้อารันด้ายิงแบบโล่งๆก่อนโดนสกัดออกไปแต่ถ้าเข้าก็ไม่น่าเป็นประตูเพราะล้ำหน้า
ทั้งสองฝ่ายยังพลัดกันครองบอลไปมาโดยโอกาสลุ้นของทีมเยือนยังมีไม่มากนักโดยเป็นบอลหยอดเข้าไปในเขตโทษให้กับเมสซี่เอาบอลลงก่อนจะพลิกหนีวนตัวประกบมาเข้าซ้ายแล้วสับไกแต่บอลก็ยังติดบล็อก
ผ่านมา 23 นาที"บาร์ซ่า"ยังตั้งเกมบุกไปจบแบบจังๆไม่ได้สุดท้ายเจอจังหวะโต้กลับทีถึงจุดโทษเลยเป็นการเปิดบอลจากทางซ้ายเข้ามาให้กับอารันด้าแตะบอลหนีบัลเดสไปแล้วแต่ชนเสา บอลกระดอนมาเข้าทางลาฟิต้าแล้วบัลเดสออกมารวบเป็นจุดโทษ แต่สุดท้ายเขาก็ยังแก้ตัวได้เซฟลูกจุดโทษจากอารันด้าเอาไว้
แต่แล้วครบครึ่งชั่วโมงหลังรูปเกมยังดูทำอะไรกันไม่ได้มากแต่สุดท้ายเจ้าบ้านก็ได้ออกนำไปก่อนเลยเป็นการจ่ายของอัลบาเรซขึ้นหน้าไปให้กับอารันด้าไม่ล้ำหน้าหลุดเข้าเขตโทษไปทางขวาได้ล่อเป้าเดี่ยวๆก่อนจะยิงไปติดเซฟบัลเดสแต่สุดท้ายก็มีดวงบอลกระเด้งมาโดนหัวกลายเป็นลอยกลับเข้าประตูไปปูโยลมาตามสกัดก็ไม่ทัน ซาราโกซ่าพลิกออกนำไปก่อน 1-0
"บาร์ซ่า"บุกดดันหนักหวังได้ประตูตีเสมอให้ได้แล้วก็ได้เสียด้วยเป็นจังหวะลูกเตะมุมทางขวาเปิดเข้ามาโดยเชสก์ กาโก้ออกมากะจะรับด้วยมือเดียวแต่กลายเป็นไม่ดีบอลหลุดจากมือไปเข้าทางปูโยลยิงสวนเข้าประตูไปง่ายๆเลย บาร์เซโลน่าตีเสมอสำเร็จ 1-1
แล้วถัดมาอีกเพียงแค่ 3 นาทีทีมเยือนก็มาขึ้นนำจนได้จากจังหวะสวนกลับขึ้นมาโดยซานเชซลากจนเกือบจะถึงหน้าเขตโทษก่อนจะโยนออกมาทางซ้ายให้กับเมสซี่พักอกก่อนจะพยายามจะแตะหนีดา ซิลวาไม่พ้นแต่ก็เป็นใจบอลไม่ไปไหนเลยยังได้ลากเข้าไปก่อนยิงอัดเสาแรกไม่เหลือ บาร์เซโลน่าขึ้นนำแล้ว 2-1
ช่วงท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านก็เจองานหนักกว่าเดิมจนได้หลังอับราฮัมไปทำฟาวล์ซานเชซจนได้รับใบเหลืองที่สองกลายเป็นเหลืองแดงโดนไล่ออกจากสนาม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปที่บาร์เซโลน่ายังนำอยู่ 2-1
กลับมาเริ่มครึ่งหลังไม่ทันไรเจ้าบ้านก็ต้องเซ็งหนักหลังฆิมิเนซกุนซือของทีมเจอไล่ออกไปจากข้างสนามหลังโวยหนักไปหน่อยแต่ทีมก็เกือบได้ประตูตีเสมอด้วยหลังอารันด้าหลุดเข้าไปยิงมุมแคบแต่ก็ยังไม่ตรงกรอบ
ซาราโกซ่าเองก็มีจังหวะที่ได้จุดโทษอยู่เหมือนกันจากบอลลอยโด่งแล้วเป็นลาฟิต้าที่ได้ขึ้นโขก โขกไปแล้วบอลไปติดแขนของเกอิต้าเต็มๆแต่ก็ไร้เสียงนกหวีดของกรรมการ
เกมผ่านมาถึงนาที 62 ก็มีจังหวะที่นักเตะทั้งสองทีมอารมณ์พุ่งสูงกันบ้างประปรายแต่ก็ยังเป็นบาร์ซ่าที่เกือบได้ประตูทิ้งห่างเพิ่มคราวนี้เป็นเมสซี่ที่จ่ายให้กับซานเชซแตะหนีตัวประกบทีนึงก่อนก่อนจะได้ยิงมุมแคบแต่กาโก้ยังปัดออกไปได้ทัน
บาร์ซ่ายังได้บุกต่อไปเรื่อยๆแล้วน่าใส่สกอร์เพิ่มอีกจริงๆเป็นเมสซี่ที่พาบอลตัดจากขวาเข้ามาเองก่อนจะยิงแต่ไม่ได้เหลี่ยมเลยล็อกไปล็อกมาแล้วจ่ายตัดแนวรับอย่างงามไปให้กับอาเดรียโน่สอดเข้าเขตโทษหลุดเดี่ยวไปเลยก่อนจะเปิดมาทางเสาไกลให้เชสก์แต่น่าเสียดายที่บอลมาโด่งเลยโหม่งไม่ถึง
เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้ายน่าจะได้ประตูเพิ่มอีกแล้วเป็นจังหวะที่ซานเชซได้เปิดจากทางขวาเข้ามาแล้วเป็นธิอาโก้ที่ได้ชาร์จแต่เหมือนโดนไม่ดีเลยกลายเป็นเข้ามือกาโก้สบาย
ถัดมาไม่กี่อึดใจก็เป็นอีกครั้งที่ต้องใส่สกอร์เพิ่มอีกเป็นบอลเปิดจากกลางสนามยาวขึ้นมาให้กับเมสซี่ได้เบียดกับแนวรับเข้าไปในเขตโทษก่อนเลือกกระดกบอลให้หนีมือกากโก้แต่ก็ข้ามออกหลังไปเลย
ก่อนจะหมดเวลา 5 นาทีบาร์ซ่าก็ได้เพิ่มซักทีเป็นจังหวะที่ซานเชซได้บอลในเขตโทษก่อนจะล็อกหนีแต่โดนแหย่ขาไว้ล้มลงกรรมการเป่าให้เป็นจุดโทษ ก่อนที่จะเป็นเมสซี่รับหน้าที่สังหารไม่มีเหลือ บาร์เซโลน่านำห่าง 3-1
ทดเจ็บยังไม่หมดบาร์ซ่ามาบวกประตูเพิ่มจนได้จากจังหวะที่เปโดรพาบอลขึ้นมาแต่บอลมันลอยโด่งเลยเป็นเมสซี่ที่โฉบเอามาเล่นพาเข้าเขตโทษไปแทนก่อนจะกระดกคืนกลับมาตรงกลางให้กับเปโดรแปเสียบเสาเข้าไปง่ายๆ บาร์เซโลน่าบวกเพิ่มเป็น 4-1
จบเกมบาร์เซโลน่าก็เอาชนะซาราโกซ่า 10 คนไป 4-1 จากสองประตูของเมสซี่ที่ทำให้เขาขึ้นไปนำเป็นดาวซัลโวขอลีกที่ 38 ประตูและไล่มาดริดที่แข่งพรุ่งนี้เหลือ 3 คะแนน