พิมพ์

[Armin]

"มาร์ติน โอนีลล์" ซัคซี๊ดเลยจริงๆเมื่อหว่านแท็คติกสุดเฉียบกันอาวุธของ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส จนแข้งเทพเล่นไม่ออกเลยสักคน สุดท้ายเสมอกันไป 0-0 ทำให้ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ มีเพิ่มเป็น 42 คะแนนอยู่ในอันดับ 9



พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2555
สนาม สเตเดี๊ยม ออฟ ไลท์
ซันเดอร์แลนด์ 0 - 0 ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส

           เริ่มเกมมาช่วง 10 กว่านาทีแรก ชัดเจนเลยสำหรับเจ้าบ้านซันเดอร์แลนด์ที่วันนี้เน้นแพ็คเกมแน่นหนา แล้วใช้จังหวะสวนกลับลุ้นประตูเอา แต่ส่วนมากตอนนี้เป็นสเปอร์สที่ครองบอลใส่ต่อเนื่อง มีโอกาสจากเอก็อตโต้ที่เสียวน่าดูจากลูกบวกนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น

อีก 2 นาทีต่อมา รอดไปได้อย่างเหลือเชื่อเลยสำหรับซันเดอร์แลนด์ เพราะในจังหวะขึ้นโหม่งของอเดบายอร์ บอลพุ่งไปโดนแขนของบาร์ดสลี่ย์เต็มดอก แถมยังกางออกมาชัดเจนด้วย แต่ผู้ตัดสินที่ยืนจ้องอยู่กลับไม่ว่าอะไร

เกมนี้ต้องระวังเอาไว้ให้มากเลยสำหรับสเปอร์ส ในการประกบเซสซิยองให้อยู่ เพราะจังหวะสวนกลับของซันเดอร์แลนด์เวลาบอลอยู่ที่เซสซิยองแล้วน่ากลัวตลอด แถมหลังๆมาพวกเขาเริ่มจับน้ำหนักบอลวางกันได้แม่นมากขึ้น

เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เกมนี้ต้องบอกเลยว่าตึงเอามากๆ เพราะซันเดอร์แลนด์มาแบบเเดิมตั้งแต่ต้นเกม ไม่ได้ก็ไม่บุก ส่วนสเปอร์สวันนี้เจอเกมเหนียวๆเข้าไปเล่นไม่ออก โดยเฉพาะเบลที่หายหน้าไปเลย

อีก 1 นาทีต่อมา สุ่มเสี่ยงจริงๆสำหรับจังหวะนี้ของซานโดรที่ไปเหม่อนิดๆ ไปจับบอลพลาดกลางสนาม แล้วตัวเองเกือบๆจะเป็นตัวสุดท้ายเพราะเพื่อนเติมขึ้นไปหมด จนโดนเซสซิงยองพุ่งเข้าฉก แต่ยังดีที่ตามไปจิ้มบอลสกัดเอาไว้ได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

นาทีที่ 33 ถือว่าหายกัน เมื่อซันเดอร์แลนด์มาโวยจะเอาจุดโทษ มนจังหวะที่ปาร์คเกอร์ปั้มสกัดบอลในกรอบเขตโทษแล้วบอลเด้งขึ้นมาโดนมือ แต่ผู้ตัดสินก็ยังเฉยเหมือนเดิม แม้โอนีลล์จะแหกปากตะโกนบอก แฮนด์บอล! แฮนด์บอล! ก็ตาม

เกมครึ่งแรกกำลังจะจบลง แต่แฟนๆแทบจะไม่ได้เห็นหน้าของอเดบายอร์ที่บอลไปไม่ถึงเขาเลยสักที เพราะเกมตรงกลางสนามวันนี้เบียดเสียดกันยิ่งกว่าสี่แยกไฟแดงในเมืองกรุง ทำให้เขาไม่ได้มีจังหวะเล่นเหมือนเพื่อนๆคนอื่น

จบครึ่งแรก สเปอร์สยังไม่สามารถทำอะไรซันเดอร์แลนด์ที่วันนี้เล่นกันตามแท็คติกที่โอนีลล์วางมาไว้เป็นอย่างดี ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0

          มาเริ่มกันใหม่ในช่วงของครึ่งลัง ผ่านไป 10 กว่านาทีหลังไปนี่ สเปอร์สก็ยังคงไม่สามารถทำอะไรแนวรับของซันเดอร์แลนด์ที่ยังรักษามาตรฐานที่ทำได้ตั้งแต่ครึ่งแรกเอาไว้ ดูแล้วเรดแนปป์น่าจะต้องปรับแท็คติกบ้าง ไม่อย่างนั้นคงเจาะไม่ได้ไปแบบนี้จนจบเกมแน่

ไร้ซึ่งจริงๆสำหรับซานโดรในจังหวะนี้ เพราะเหมือนตัวเองจะหัวเสียที่พยายามเลี้ยงบอลขึ้นหน้าแล้วโดนเบียดแต่ไม่ได้ฟาวล์ เลยไปพุ่งเสียบใส่ผู้เล่นซันเดอร์แลนด์ในจังหวะที่ไม่มีอะไร ทำให้ผู้ตัดสินให้ใบเหลืองไปกินซะ

นาทีที่ 65 ไม่มีทางเลือกแล้วสำหรับเรดแนปป์ เมื่อเกมไปไม่ได้ ก็ต้องส่งตัวจี๊ดอย่างเลนน่อนลงไปป่วนริมเส้น โดยถอดเอาซานโดรที่เพิ่งจะเสียใบเหลืองแบบน่าเขกกบาลออกไป

นาทีที่ 72 เหมือนจะบู๊มากเกินไปหน่อยสำหรับคัตเทิ่ลโมลที่เขามีอาการบาดเจ็บติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเริ่มเกมแล้ว จนสุดท้ายมานั่งเจ็บที่หัวเข่าจนต้องออกไปพักข้างสนาม แต่ก็กลับมาลงได้อีก

อีก 1 นาทีต่อมา ถ้าไม่ได้เทิร์นเนอร์คงต้องเสร็จฟาน เดอร์ ฟาร์ตอย่างแน่นอน ในจังหวะที่ฟาร์ตพลิกเข้าไปรับบอลที่เลนน่อนส่งมาในกรอบเขตโทษ แล้วยิงจิ้มผ่านตัวมินญอเล่ต์ไปเสาสอง แต่มีเทิร์นเนอร์ที่อ่านขาดมากันเอาไว้ได้ก่อน แม้เสียวๆว่าบอลจะโดนมือ แต่ดูจากภาพช้าก็เก็บไม้เก็บมืออย่างดีแล้ว ผู้ตัดสินเลยไม่ว่าอะไร

นาทีที่ 76 เล่นต่อไม่ไหวจริงๆสำหรับคัตเทิ่ลโมลที่แม้จะกัดฟันลงสนามอีกรอบหลังมีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ต้องถูกถอดออกจากสนาม โดยซันเดอร์แลนด์ส่งวอห์นลงไปเล่นแทน

ทำหน้าไม่เข้าใจเลยสำหรับกัลลาส เมื่อทีมต้องการประตู แต่เรดแนปป์กลับเปลี่ยนเอาอเดบายอร์ออก ก่อนจะส่งซาฮาลงไปเล่นแทน ต้องดูว่าจะเป็นยังไงอะไรกันแน่
 
นาทีที่ 83 จะเปลี่ยนทั้งทีทำไมไม่เปลี่ยนพร้อมกันให้เสร็จๆ เมื่อสเปอร์สจัดการส่งเดโฟลงมาเป็นคำตอบสำหรับคำถาม โดยลงไปเล่นแทนฟาน เดอร์ ฟาร์ตตามที่คาดกันเอาไว้ เพราะรายนี้นานๆทีจะได้เล่นครบ 90 นาที

นาทีที่ 87 ก่ะว่าจะมาลุ้นเอาฟรีคิกที่ตัวเองถนัดสักหน่อยสำหรับลาร์สสันที่ไปล้มตัวหน้าเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินคริส ฟอยด์อ่านเกมมาแล้ว เดินไปแจกใบเหลืองให้ทันทั

จบ 90 นาทีทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ สุดท้ายแบ่งกันไปทีมละแต้มอยู่ในอันดับ 9 มี 42 คะแนน

ส่วนทางสเปอร์สเองก็แซงอาร์เซนอลขึ้นไปเป็นอันดับที่ 3 มี 59 คะแนน เหนือกว่าหนึ่งคะแนน แต่ทั้งคู่ยังไม่เป็นทางการ เพราะต้องรออีกสองทีมลงเล่นเสียก่อน