กลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่แฟนบอลหวังได้แล้วสำหรับ "ตอร์เรส" เมื่อเขาลงเป้นตัวสำรอง ก่อนที่จะมีส่วนในประตูชัยของทีมในช่วงทดเวลา ยิงลูกวอลเล่ย์ไปชนเสาก่อน "มาต้า" ซ้ำช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 2-1 คว้า 3 แต้มสุดสำคัญไปแบบระทึกใจเสียจริง
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2555
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซี 2 - 1 วีแกน เรื่มเกมมาใน 15 นาทีแรก น่าจะเป็นเพราะเกมช่วงหลังๆมานี้ทุกนัดสำคัญหมด หลายคู่รวมทั้งคู่นี้เลยเล่นกันค่อนข้างจะเกร็งเหมือนเน้ชัวร์เอาไว้ก่อนทั้งสองฝ่าย เชลซีเองก็บุกแบบไม่สุดเพราะวีแกนก็ทำดื้อมีโต้มีสวนให้เห็นบ้างเหมือนกัน
นาทีที่ 19 ต้องชมทั้งคนรุกคนรับ ในจังหวะที่เคฮิลล์เติมขึ้นไปครองบอลหน้ากรอบเขตโทษ ไม่มีกองหลังเข้ามากดดัน พี่แกเลยตะบันซะเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งเป็นจรวด แต่ไม่ผ่านมือของอัล ฮับซี่ที่ดีดตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้เยี่ยมเช่นเดียวกัน
ไปๆมาๆเหมือนวีแกนจะขยับเกมของพวกเขาขึ้นมาได้ดีกว่าเชลซีเสียแล้ว เมื่อโมเสสมาโชว์จังหวะใช้หลังพิงแล้วพลิกเอาบอลไปตวัดยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็ติดเซฟของเช็กที่ยืนตำแหน่งเยี่ยมเหมือนเคย
นาทีที่ 26 เพิ่งจะมีโอกาสกับเขาสำหรับดาวยิงตัวความหวังของเชลซีอย่างดร็อกบา เมื่อเขาได้บอลพลิกหน้ากรอบเขตโทษ เลยจัดการง้างปีก กระดิกหนวดหวดบอล แบบกดๆ แต่บอลมันพุ่งเฉียดเสาออกหลังไป
ผ่านช่วงครึ่งชั่วโมงไป ตอนนี้เหมือนวีแกนยิ่งเล่นยิ่งดี โดยเฉพาะในรายของโมเสสและมาโลนี่ย์ที่ป่วนกองหลังของเชลซีจนต้องออกแรงเหนื่อยเป็นพักๆ แต่โอกาสจะๆก็ยังไม่มีเช่นเดียวกัน
นาทีที่ 38 ถึงกับกระโดดโมโหสุดตัวเลยสำหรับสเตอร์ริดจ์ ในจังหวะที่เชลซีต่อบอลกันอย่างงาม ก่อนที่มาต้าจะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ล็อกบอลหลบกองหลัง ก่อนที่จะยิงจ่อๆไปติดเซฟอัล ฮับซี่ ดร็อกบาพุ่งเข้ามาซ้ำโดยใช้การโหม่ง แต่ระยะมันห่างพอสมควร กองหลังเลยวิ่งไปสกัดที่เส้นได้ ซึ่งตรงจุดนี้เองที่สเตอร์ริดจ์ไม่พอใจ เพราะเขายืนว่างอยู่ถัดไปข้างๆมีโอกาสดีกว่าแน่นอนหากโหม่งเช็ดให้ก่อน
ช่วงทดเวลาน่าจะเป็นประตูของเชลซีจริงๆ เพราะจังหวะนี้ของดร็อกบาที่เทคตัวขึ้นไปโหม่งสะบัดบอลพุ่งเข้ากรอบเห็นๆ แต่เป็นอัล ฮับซี่ที่ดีดตัวปัดแบบเต็มมือออกหลังไปได้อีก ต้องชมเลยสำหรับช๊อตนี้
ช่วงของครึ่งหลังในนาทีที่ 55 มันน่าจะเป็นประตูสุดๆเลยในจังหวะนี้ของดร็อกบา ที่อุตส่าห์พลิกตัวหลุดเข้าไปทางซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะยิงบอลก่ะให้ผ่านอัล ฮับซี่ที่ออกมาบังเสาแรกไปเสียบเสาสอง แต่ก็ไปติดเซฟของอัล ฮับซี่ที่สะบัดตัวบล็อกลูกทิ้งไปได้อีก
นาทีที่ 59 มาพร้อมเสียงปรบมือกึกก้องเลยสำหรับตอร์เรส เมื่อเขาถูกส่งลงสนามไปเล่นแทนที่มาลูด้าที่วันนี้ได้โอกาสเป็นตัวจริง แต่ก็โชว์ฟอร์มไม่ออกเท่าไหร่ ต้องดูว่าหอกสแปนิชจะยิงได้อีกหรือไม่
นาทีที่ 62 ผู้เล่นวีแกนเซ็งกันหมดเลย เมื่ออีวาโนวิชมาทำประตูได้ในจังหวะที่เขายืนล้ำหน้าค่อนข้างชัดเจนเอามากๆ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินไม่เห็น แบ็คร่างบึ้กเลยแปบอลจ่อๆผ่านอัล ฮับซี่เข้าไป ได้เฮกันดังๆสำหรับเชลซี นำ 1-0
เป็นคนทำประตูไม่พอ มาช่วยทีมไม่ให้เสียประตูอีก สำหรับอีวาโนวิช ในจังหวะที่โมเสสทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่จะขลุกขลิกแล้วบอลเด้งมาเข้าทางดิ ซานโต้วางเท้ายิงจังๆนอกกรอบ บอลพุ่งเข้าหาประตูที่ไม่มีเช็กอยู่แล้ว แต่เป็นอีวาโนวิชที่วิ่งมาดีดลูกหลังสกัดบอลทิ้งไปได้ทัน
นาทีที่ 67 เหมือนจะเสียหลักแล้วสำหรับผู้ช่วยคนนี้ เพราะเขามายกธกว่าจังหวะตอร์เรสหลุดเข้าไปยิงติดอัล ฮับซี่ล้ำหน้า ทั้งที่ดูจากภาพช้าแล้วไม่ล้ำแต่อย่างใด ไหวหรือไม่ครับลูกพี่
ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่าสำหรับรองเท้าของตอร์เรส เพราะเขาอุตส่าห์ลงสนามพร้อมเสียงปรบมืออย่างเท่ แต่จังหวะที่หลุดเข้าไปในกรอบเขตโ?ษฝั่งขวาเหมือนเดิมทั้งสองครั้งกลับลื่นก้มคะมำ จนเจ้าตัวทำหน้าบอกบุญไม่รับเลย
เช้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ยังไงก็ขอเน้นชัวร์ไว้ก่อนแล้วสำหรับเชลซีที่ไม่จำเป็นต้องดันขึ้นสูงมาก แต่ใช้จังหวะถ่ายบอลหาช่องแล้ววางแม่นๆให้ข้างหน้าวิ่งไปกดดันกองหลังกัน เพราะถ้าพลาดไปล่ะก็พังเลยสำหรับเป้าหมายของพวกเขา
นาทีที่ 82 ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะดิยาเม่ที่เพิ่งจะลงมาเป็นตัวสำรองให้กับทีม มาทำประตูสุดยอดได้ จากจังหวะเขาได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะแตะๆแล้วขยับหนีกองหลัง พร้อมตะบันเต็มตีน บอลพุ่งแหวกอากาศแรงอย่างกับจรวดก่อนจะเข้าไปเสียบตาข่ายชนิดที่เช็กได้แต่ยืนทำใจแอสไพลิน วีแกนตีเสมอสำเร็จ 1-1
ช้วงทดเวลานาทีที่สอง ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมากจริงๆสำหรับตอร์เรสในจังหวะนี้ที่เขาฮาล์ฟวอลเล่ย์ในกรอบเขโทษ บอลพุ่งวาดผ่านอัล ฮับซี่น่าจะเสียบตาข่ายแล้ว แต่ไปชนเสาสอง แต่ก็เป็นมาต้าที่อยู่ถูกที่ซ้ำเข้าไป สุดท้ายเชลซีกลับมาเอาชนะได้เป็น 2-1 มีเพิ่มเป็น 56 แต้มแซงนิวคาสเซิ่ลขึ้นเป็นที่ 5 แทนได้สำเร็จ