ทีม สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี กลับมาฝืดอีกครั้งเมื่อทำได้เพียงแค่ไล่ตามตีเสมอ ช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ แบบหืดขึ้นคอ 1-1 และเป็นอีกนัดที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ยังยิงประตูให้ทีมใหม่ไม่ได้
สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี กลับมาใช้คู่หัวหอกตัวหลักที่ใช้งานมาตลอดทั้งฤดูกาลอย่าง ดิดิเย่ ดร็อกบา และ นิโกล่าส์ อเนลก้า อีกครั้ง โดยทิ้ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิง 50 ล้านปอนด์ ที่ยังปืนฝืดเอาไว้บนม้านั่งสำรอง
แต่เกมนี้ไม่ง่ายสำหรับทีมเยือนที่หวังจะมาเก็บ 3 แต้มเพื่อรักษาระยะห่างกับจ่าฝูงอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่โกยแต้มหนีไปก่อนแล้วในช่วงหัวค่ำ โดยเริ่มเกมมาได้แค่ 8 นาที เจ้าบ้านก็แสดงทีเด็ดให้เห็นจากการลากตะลุยเข้ามาของ จอน วอลเตอร์ส ที่ล็อกหลบเอสเซียง ได้ก่อนจะอัดเต็มๆบอลตุงตาข่ายอย่างสวยงามให้ สโต๊ค ขึ้นนำ 1-0
นาทีถัดมา เชลซี เกือบจะตีเสมอได้ทันควันถ้า อัสเมียร์ เบโกวิช ไม่สามารถจะช่วยชีวิตทีมได้ในจังหวะที่ แอชลี่ย์ โคล สอดทะลุขึ้นมาก่อนจะพุ่งโหม่ง แต่ดีที่ประตูเจ้าบ้านยังเหนียวเซฟเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
หลังจากนั้นทีมเยือนค่อยๆติดเครื่องอย่างช้าๆ และเริ่มมาโถมเกมหนักเมื่อพ้น 20 นาทีไป โดย แลมพาร์ด มีจังหวะได้อัดให้ เบโกวิช ต้องออกแรงเซฟอีกครั้งซึ่งบอลปลิ้นมาแล้วแต่ว่า อเนลก้า ไม่พร้อมจะเล่น
แต่มาถึงนาทีที่ 33 เชลซี ก็มาตีเสมอได้สำเร็จจากความเข้าใจอันดีกันระหว่าง อเนลก้า และ ดร็อกบา ที่ฝ่ายแรกตักบอลให้ฝ่ายหลังวิ่งเบียดเข้าไปโหม่งตุงตาข่ายอย่างเหนือชั้น เป็นประตูตีเสมอให้ทีม 1-1
ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรกเกมยังสนุกแต่ว่าไม่มีใครทำอะไรกันได้จึงจบลงด้วยการเสมอกันก่อน จากนั้นกลับมาลงสนามใหม่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังสู้กันได้อย่างสูสี
เมื่อเกมผ่านไปครบชั่วโมง อันเชล็อตติ จึงส่ง ตอร์เรส กับ ซาโลมง กาลู ลงมาแต่ผลกลับกลายเป็นว่าเกมแดนกลางเสียหายสิ้นเชิงกลายเป็นเจ้าบ้านที่ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้หมด และเปิดฉากไล่ต้อนอย่างสนุก
สโต๊ค น่าจะได้ประตูนำอีกครั้งจากลูกฟรีคิกสุดมันของ วิลสัน ที่ซัดแหวกอากาศผ่านมือปีเตอร์ เช็ก ไปแล้วแต่บอลไปชนคานดังสนั่นก่อนที่ลูกเตะมุมในจังหวะต่อมา โรเบิร์ต ฮูธ จะขึ้นโหม่งบอลไปโดน เช็ก ปัดไปชนคานอีกครั้ง
เจ้าบ้านเดินเกมได้ดีกว่าในช่วงเวลาที่เหลือ โดยทีมเยือนมีลุ้นแค่ลูกที่ ดร็อกบา ได้พลิกยิงไปชนคานเหมือนกันก่อนหมดเวลา 10 นาที ขณะที่ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ก็เกือบเป็นฮีโร่ให้ สโต๊ค เมื่อได้โหม่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแต่บอลผ่านปากประตูไปแบบน่าเสียวไส้สุดๆ สุดท้ายเกมจบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1