"เรือใบ" ล้ม "โบลตัน" ชิลๆ 2-0 จาก "กลิชี่" ซัดโดน "สไตน์สัน" เข้าประตู อีกลูก "บาโล" ซัดลูกตอกส้นจาก "เอเจ" ส่งผลให้ทีมยังรั้งจ่าฝูงต่อไปโดยนำ "ปีศาจแดง" อยู่ 5 แต้ม !!
การเเข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
ประจำวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2555
ที่สนาม ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เจ้าบ้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงของลีก ต้อนรับการมาเยือนของ "เดอะ ทร็อตเตอร์" โบลตัน วันเดอร์เรอร์ เริ่มเกมมาได้เพียงสองนาทีเจ้าถิ่นเกือบได้โอกาสขึ้นนำก่อนเมื่อ "ยาย่า ตูเร่" นั้นจ่ายทะลุช่องมาให้กับ "มาริโอ บาเตลลี่" วิ่งหลุดขึ้นเดี่ยวๆในเขตโทษ ก่อนเจ้าตัวจะแปด้วยขวา บอลพุ่งชนเสากระดอนเข้าทาง "ซามีร์ นาสรี่" เข้ามาซ้ำ แต่ไปเซฟ "อดัม บ็อกดาน" เจ้าตัวจะตามซ้ำอีกหน แต่ก็ถูก "แซ็ท ไนท์" เคลียร์ออกไปได้ "แมนฯ ซิตี้" พลาดโอกาสขึ้นนำไปแบบน่าเสียดาย
อีกสองนาทีต่อมาทีมก็เกือบจะได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ "อดัม จอห์นสัน" นั้นเปิดบอลเรียดผ่านมาหน้าประตู บอลหลุดไปถึง "บาโลเตลลี่" แหย่บอล ก่อนจะซัดเฉียดเสาออกไปแบบน่าเสียดาย
นาทีที่ 10 "โบลตัน" ก็มีโอกาสโต้คืนบ้างเมื่อ "เรียว มิยาอิชิ" เลี้ยงลุยเข้ามาในเขตโทษ ก่อนหลบกองหลังเจ้าถิ่นซัดไปด้วยขวา แต่บอลกลับก็ไปเข้ามือนายทวารเรือใบ "โจ ฮาร์ท" รับไว้ได้สบายๆ
นาทีที่ 19 "เรือใบสีฟ้า" ต้องเปลี่ยนตัวก่อนเมื่อ "พาโบล ซาบาเลต้า" นั้นได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องส่ง "โคโล ตูเร่" ลงไปช่วยในเกมรับแทน
ในที่สุด "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อ "กาแอล กลิชี่" ได้จังหวะลองซัดจากนอกเขตโทษ บอลเหมือนไม่มีอะไรแต่ไปแฉลบโดน "เกรต้า สไตน์สัน" เปลี่ยนทางเข้าประตูไป โดยที่ "บ็อกดาน" นั้นทำได้เพียงแค่ยืนขาตายเท่านั้น เจ้าถิ่นนำไปก่อน 1-0
ในนาทีที่ 33 "โบลตัน" ก็เกือบได้โอกาสตีเสมอเมื่อ "ไนเจล รีโอ-โคเกอร์" จ่ายทะลุช่องขึ้นไปให้กับ "ดาวิด เอ็นก๊อก" ได้หลุดเข้าไปยิง แต่ "ฮาร์ท" ก็ยังนิ่งพอป้องกันไว้ได้ก่อน "แว็งซองต์ ก็องปานี" จะเคลียร์ออกจากเขตโทษไป สามนาทีต่อมา "มิยาอิชิ" ล็อกหลบ "โคโล่" ไปได้ก่อจะวิ่งเข้าเขตโทษและปั่นด้วยขวา แต่ "ฮาร์ท" ยังปัดไว้ได้ปลายมืออีกครั้ง
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก "เรือใบสีฟ้า" เกือบได้ประตูที่สอง เมื่อ "ก็องปานี" นั้นจ่ายบอลไปให้ "ยาย่า" ได้โอกาสยิง แต่ "บ็อกดาน" ยังไวชักขามาสกัดออกหลังไปได้ ชวดนำเพิ่มไปแบบน่าเสียดาย
หมดครึ่งแรกเจ้าถิ่นขึ้นนำไปก่อน 1-0 ประตู
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังแค่นาทีเดียว "แมนฯ ซิตี้" ก็เกือบจะได้ประตูที่สองเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อ "เอเจ" จ่ายบอลให้ "บาโลเตลลี่" หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง แต่ "บ็อกดาน" ก็ยังออกมาเซฟช่วยทีมไว้ได้อีกครั้ง
นาทีที่ 60 เจ้าถิ่นมีโอกาสอีกครั้งจาก "โคโล่" ที่ทำชิ่งกับ "นาสรี่" ก่อนได้โอกาสซัด แต่บอลก็พุ่งเฉี่ยวเสาออกไป จากนั้นทีมต้องส่ง "เอดิน เซโก้" ลงมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำประตูเพิ่ม โดยเป็น "ดาวิด ปิซาร์โร่" ที่ต้องถูกถอดออกไป
นาทีที่ 64 "โบลตัน" ก็เกือบหาเรื่องใส่ตัวจนเกือบเสียประตูที่สอง หลังจากที่ "เซโก้" นั้นได้จังหวะพักบอลหน้าเขตโทษและเตรียมง้างจะยิง แต่เป็น "แซ็ท ไนท์" ที่วิ่งมาเตะสกัดบอลจนพุ่งไปกระทบคานประตูตัวเองเต็มๆ กระดอนออกมา ก่อนจะถูกเคลียร์ออกไปได้แบบฉิวเฉียด
แต่ในที่สุด "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ประตูที่สองสำเร็จ เมื่อ "เอเจ" เลี้ยงบอลผ่านกองหลังทีมเยือนสองคนไปได้ในเขตโทษจนมาถึงเส้นหลัง ก่อนเจ้าตัวจะตอกส้นหลับหลังมาให้ "บาโลเตลลี่" ได้ซัดโล่งเข้าประตูไปง่ายๆ "เรือใบสีฟ้า" นำห่าง 2-0
ในนาทีที่ 83 "เรือใบสีฟ้า" ส่ง "เจมส์ มิลเนอร์" ลงมาลากเลื้อยในสนามแทน "นาสรี่" ที่ดูเหมือนจะใช้แรงไปในการเล่นเยอะจนแทบหมดแรง ขณะที่อีกสามนาทีต่อมา "โบลตัน" นั้นเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง "ฟาบริซ มูอัมบ้า" แทน "ดาร์เรน แพร็ทลี่ย์"
ช่วงทดเจ็บทั้งสองทีมไม่มีจังหวะทำอะไรเพิ่มกันได้ ทำให้จบเกม "เีรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ "โบลตัน" ไป 2-0 ทำให้ทีมยังคงเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยมีคะแนนนำ "ปีศาจแดง" ที่ลงแข่งวันพรุ่งนี้อยู่ 5 คะแนน