“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ลบคำสบประมาทจากคู่ปรับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส หลังแสดงลูกฮึดไล่ตามหลังจาก 2 ลูกกลับมาถล่มอย่างสะใจ 5-2
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
26 กุมภาพันธ์ 2555
อาร์เซนอล 5-2 สเปอร์ส
บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกประจำ “ซูเปอร์ซันเดย์” เป็นเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่าง 2 คู่ปรับตลอดกาล “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล และ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ซึ่งเป็นที่พูดถึงก่อนเกมว่าสถานภาพของ 2 ทีมกลับข้างกันแล้วโดยเป็นฝ่ายหลังที่เริ่มจะเหนือกว่าอย่างชัดเจน
และเกมนี้ก็เหมือนจะเป็นเช่นนั้นเมื่อทางด้าน สเปอร์ส มาได้ประตูนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 4 จากจังหวะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ อดีตกองหน้าตัวเก่งของกันเนอร์ส ไหลบอลต่อให้ หลุยส์ ซาฮา ซัดไปแฉลบ โธมัส แฟร์มาเลน ก่อนบอลลอยข้ามหัว วอยเซียค เชสนี่ เข้าประตูไป 1-0 สำหรับทีมเยือน
ในเมื่อโดนยิงเร็ว "เจ้าปืนโต" อาร์เซนอล ก็พยายามเร่งเกมเพื่อเอาคืนให้ได้และมีลุ้นในนาทีที่ 14 จากโอกาสซัดของ "โรบิน ฟาน เพอร์ซี่" แต่ว่าบอลเบียดเสาออกไปน่าเสียดาย ก่อนที่จะได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ "เพอร์ซี่" เปิดลูกเตะมุมให้กับ "โทมัส โรซิกี้" โขกไปติดปลายมือของ "แบร๊ด ฟรีเดล" ที่พุ่งปัดบอลข้ามคานออกไปได้อย่างเหนือชั้น
แต่ทาง "เล้าไก่" สเปอร์ส ก็อาศัยการเข้าทำประตูที่รวดเร็วและมาได้จุดโทษในนาทีที่ 34 โดย "แกเร็ธ เบล" ที่กระชากบอลเข้าเขตโทษก่อนที่จะโดน "เชสนี่" รวบขาล้มในเขตโทษ "ไมค์ ดีน" ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษทันที และ เป็น "อเดบายอร์" ที่รับอาสายิงทีมเก่าไปให้ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส หนีไปอีกเป็น 2-0 ประตู
แต่ "เดอะ กันเนอร์ส" ก็ไม่ได้ยอมแพ้ง่ายๆและมีโอกาสที่จะเอาคืนได้เหมือนกันเพียงแต่ "เพอร์ซี่" ดันซัดไปชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย แต่สุดท้ายก็มาได้ประตูตีคืนเป็น 2-1 ในอีก 5 นาทีถัดมา จากการเปิดบอลของ "มิเคล อาร์เตต้า" ให้ "บาการี่ ซาญ่า" โหม่งบอลผ่านฟรีเดลเข้าไป
ประตูนี้ปลุกความหวังให้กับเจ้าบ้าน จนไล่ตีเสมอได้สำเร็จเป็น 2-2 ในนาทีที่ 43 จากจังหวะที่แนวรับ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ปล่อยให้ "ฟาน เพอร์ซี่" ได้มีจังหวะล็อกแต่งบอลเข้าซ้ายก่อนซัดเต็มข้อบอลพุ่งไปเสียบตาข่ายอย่างงดงามให้ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ไล่ตามมาทันก่อนหมดครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลัง "ปืนใหญ่" ก็บดขยี้อย่างหนัก และมาได้ประตูแซงเป็น 3-2 จากจังหวะการขึ้นเกมทางขวาของ "ซาญ่า" ที่เปิดมาให้ "โรซิคกี้" เข้าฮอสก่อน "ฟรีเดล" จะส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้แฟนๆได้เฮกันลั่นสนาม
"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ยังไม่พอใจแค่นั้น ในนาทีที่ 64 ก็มายิงหนีไปอีกเป็น 4-2 โดยเป็น "ธีโอ วัลค็อตต์" ที่ได้บอลเปิดทะลุช่องจาก "เพอร์ซี่" จนได้หลุดเข้าไปดวลกับ "ฟรีเดล" ในเขตโทษและเลือกจะชิพบอลนิ่มๆเข้าไป
จากนั้นเพียงแค่อีก 4 นาที "วัลค็อตต์" ก็บวกสกอร์เพิ่มให้ "เจ้าปืนโต" อาร์เซนอล หนีไปไกลลิบ 5-2 เมื่อ "อเล็กซ์ ซง" วางบอลตัดหลังแบ็กให้ "วัลค็อตต์" ควบเข้าไปเลือกยิงเสาไกลผ่าน "ฟรีเดล" ไปอย่างง่ายดาย ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ประคองตัวได้จนหมดเวลาและเอาชนะได้ด้วยสกอร์ดังกล่าว ได้แซง "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี กลับมาอยู่อันดับ 4 เท่าเดิม