แม้ว่าเกมนี้ "พี่เสือ" จะเป็นฝ่ายครองบอลบุกซะเป็นส่วนใหญ่แต่กลับไม่สามารถเจาะทะลุผ่านด่านปราการหลังของเจ้าถิ่นเข้าไปทำประตูได้ทำให้ต้องยอมรับสภาพแพ้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ที่ได้ประตูโทนจาก "คาริม เบนเซม่า" 1-0 กลับไปฟาดแข้งกันใหม่ในเกมชี้ชะตาที่อัลลิอันซ์ อารีน่าในสัปดาห์หน้า
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
พุธที่ 23 เมษายน 2557
กรรมการ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
เรอัล มาดริด 1-0 บาเยิร์น มิวนิค ออกสตาร์ทเกมมาใน่วงครึ่งแรกถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าถิ่นแต่ "ราชันชุดขาว" กลับโดนบาเยิร์นบุกใส่อยู่ตลอดเวลาทว่าแชมป์เยอรมนีก็ได้แต่ครองบอลยังไม่มีโอกาสหาจังหวะปิดสกอร์ได้เหมือนกัน
นาที 13 โอกาสลุ้นจบสกอร์ครั้งแรกของเกมก็เป็นของบาเยิร์นจนได้โดยเป็นจังหวะที่ริเบรี่คายบอลต่อไปให้ร็อบเบนลากด้วยซ้ายแล้วใส่ทันทีนอกกรอบเขตโทษระยะราว 20 หลาทว่าบอลไปแฉลบกองหลังของมาดริดก่อนออกไปแบบมีเสียว
นาที 14 จากจังหวะเตะมุมนี่เอง"เสือใต้"มาได้ลุ้นต่อเมื่อโครสเปิดจากมุมด้านซ้ายมาหน้าปากประตูแล้วเป็นชไวน์สไตเกอร์โถมขึ้นโขกเหนือใครกดบอลลงพื้นแต่ไปตรงตัวของกาซีญาสที่ปักหลักรับบอลเอาไว้ไม่มีกระฉอก
นาที 19 แต่แล้วหลังจากที่บุกอยู่เพลินๆบาเยิร์นมาเสียประตูแบบต้องช็อคกันทั้งทีมในจังหวะที่เรอัลสวนกลับเร็วให้โคเอนเทราลากทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วปาดเข้ากลางไปทางเสาไกลที่มีเบนเซม่าวิ่งเข้ามาแปบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายโล่งๆไม่มีเหลือ
นาที 21 มาดริดมาได้โอกาสงามอีกครั้งเหมือนกันเมื่อดิ มาเรียเติมเกมขึ้นมาด้านขวาก่อนล็อคบอลให้เข้าเท้าซ้ายข้างถนัดแล้วโยนเข้ากลางที่มีโรนัลโด้รอจังหวะกระโดดโขกบอลไปเข้าซองของนอยเออร์อย่างน่าเสียดาย
นาที 23 จังหวะสวนกลับของมาดริดมาได้ลุ้นอีกแล้วเมื่อเบนเซม่าพาบอลไปถึงระยะราว 35 หลาแล้วส่งเข้ากลางให้ดิ มาเรียพยายามหาช่องสับด้วยซ้ายข้างถนัดทว่าบอลไปตรงตัวของนอยเออร์ที่ตั้งมั่นรับเอาไว้ได้
นาที 27 บาเยิร์นเจอจังหวะโต้กลับเร็วเล่นงานจนเกือบเสียประตูอีกแล้วคราวนี้เป็นทีของโคเอนเทราที่ลากขึ้นมาด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้โรนัลโด้วิ่งเข้ามาแปคนเดียวโล่งๆแต่ทำเสียของไปเฉยเพราะยิงข้ามคานชนิดที่เจ้าตัวโมโหตัวเองที่ทำหมูหกเสียได้
นาที 36 แม้บาเยิร์นจะครองบอลบุกได้มากกว่าแต่ดูเหมือนวันนี้กองหลังของมาดริดก็ทำหน้าที่ได้ดีเหมือนกันอย่างเช่นจังหวะที่ร็อบเบนลากบอลขึ้นมาแต่ไม่สามารถทำอะไรต่อได้ต่อฝืนยิงด้วยซ้ายจากนอกกรอบซึ่งบอลก็หลุดออกหลังไปอีกครั้งหนึ่ง
นาที 41 โอกาสทองของมาดริดหลุดลอยไปอีกครั้งเมื่อโคเอนเทราโยนบอลจากทางริมเส้นด้านซ้ายเข้ามาบอลเลยหัวของโรนัลโด้มาตกใส่ดิ มาเรียที่อยู่คนเดียวโล่งๆจับบอลก่อนเอี้ยวตัววอลเล่ย์ด้วยซ้ายทว่าดันไปช้อนใต้บอลทำให้ลอยโด่งออกไปไม่ได้ลุ้นเลย
กลับเข้ามาสู่ช่วงครึ่งหลังเป็นฝ่ายของมาดริดที่ดูดีกว่าและกองหลังของบาเยิร์นก็เคลียร์บอลกันไม่ขาดปล่อยให้โรนัลโด้หลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแล้วพยายามยิงหักข้อมาหน้าปากประตูทำให้นอยเออร์ต้องพุ่งไปปัดบอลทิ้งเอาไว้ก่อนให้กองหลังมาช่วยเคลียร์อีกรอบ
นาที 51 บาเยิร์นบุกขึ้นมาได้ดีเหมือนกันโดยเป็นลาห์มพยายามลากบอลไต่ริมเส้นด้านขวาแล้วเปิดบอลเข้ากลางไปแฉลบรามอสก่อนที่บอลจะย้อยเหมือนจะลงตรงใต้คานทำให้กาซีญาสต้องกระโดดปัดบอลทิ้งออกหลังเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน
นาที 62 เกมของบาเยิร์นไม่ไหลลื่นเหมือนทุกเกมที่ผ่านมาโดยโอกาสส่วนใหญ่มาจากความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะที่พยายามลากบอลขึ้นมาหาจังหวะเข้าทำเองซึ่งร็อบเบนก็สามารถทำได้หนึ่งครั้งโดยลากบอลเข้าหากรอบเขตโทษก่อนสับด้วยซ้ายแต่ไม่ผ่านมือของกาซีญาส
นาที 69 เล่นไปเล่นมามาดริดกลับสนุกกับการครองบอลอยู่ข้างเดียวชนิดที่บาเยิร์นต้องลงไปตั้งรับตลอดและเป็นโรนัลโด้ที่ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อเขาได้บอลลากเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วสับไกทันทีทว่านอยเออร์ยังปัดบอลทิ้งออกหลังได้ทันเวลา
นาที 73 เมื่อเห็นลูกทีมทำเกมไม่ขึ้นทำให้เป๊ปต้องตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเกมโดยส่งแข้งสำรองลงมาไล่เลี่ยกันสองคนโดยเป็นฆาบี มาร์ติเนซลงมาแทนราฟินญ่าและมาริโอ เกิทเซ่ลงสนามมาเติมเกมบุกแทนริเบรี่รวมถึงโธมัส มุลเลอร์ที่มาแทนชไวน์สไตเกอร์ที่เล่นไม่ออกส่วนมาดริดต้องเอาเปเป้ที่เดี้ยงออกแล้วให้ราฟาเอล วารานลงมาแทนแล้วถอดโรนัลโด้ที่ไม่ค่อยฟิตออกพร้อมส่งแกเร็ธ เบลลงสนาม
นาที 81 บาเยิร์นได้โอกาสทองเลยในจังหวะที่เกิทเซ่พลิกบอลได้หน้าปากเขตโทษก่อนปล่อยให้มุลเลอร์ฉกบอลไปยิงแฉลบวารานก่อนเฉี่ยวเสาออกไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียวซึ่งหลังจากนั้นอันเชล็อตติส่งอิญาร์ราเมนดี้ลงมาแพ็คแดนกลางแทนอิสโก้ที่มีใบเหลืองติดตัว
นาที 85 มาดริดเกือบเสียท่าเลยในจังหวะที่โมดริชไปหวงบอลสุดเส้นหลังประตูตัวเองด้านขวาก่อนที่มุลเลอร์จะฉกมาได้แล้วผ่านบอลให้เกิทเซ่จับก่อนหนึ่งทีแล้วอัดด้วยขวาเต็มข้อแต่กาซีญาสโชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกไปได้แบบสุดเหลือเชื่อ
นาที 90 มุลเลอร์โวยวายจะเอาจุดโทษเลยในจังหวะที่มานด์ซูคิชโขกต่อมาให้เขาพลิกบอลหน้าปากประตูก่อนจะพยายามตวัดยิงแต่โดนอลอนโซ่เข้ามาจากด้านหลังทว่าดาวยิงเยอรมนีก็ดูเหมือนจะทรุดไปเองเหมือนกันด้วย
สุดท้ายมาดริดคุมเกมไว้ได้หมดก่อนปิดเกมคว้าความได้เปรียบมหาศาลไปได้ก่อนด้วยสกอร์ 1-0 ทำให้บาเยิร์นต้องกลับไปแก้ตัวกันใหม่ในเกมที่อัลลิอันซ์ อารีน่าเพื่อความหวังในการผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ต่อไป