พิมพ์

[Armin]

เก็บเกี่ยวกำไรจากผลเสมอในเกมบิ๊กแมตช์เมื่อคืนนี้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยสำหรับ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด หลังจากที่ได้ "เปเป้" สวมพระเอกขี่ม้าขาวโขกประตูโทนพา "ราชันชุดขาว" บุกเฉือน "นกแก้ว" เอสปันญ่อล 1-0 เก็บ 3 คะแนนล้ำค่าลดช่องว่างจาก 2 ทีมนำเหลือแค่ 3 คะแนนได้สำเร็จ



ฟุตบอลลา ลีก้า สเปน
สนาม เอสตาดี้ กอร์เนญ่า-เอล ปราต
วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2557
เอสปันญ่อล 0-1 เรอัล มาดริด

                เปิดฉากเริ่มเกมมาเจ้าบ้าน "นกแก้ว" เอสปันญ่อลเริ่มเกมอย่างคึกคักและบดใส่มาดริดต่อเนื่องจนเกือบนำเร็วแค่นาที 3 บอลเคลียร์จากเปเป้เข้าเท้ากาเบรียล ตอร์เย่ครอสเร็วเข้าเขตโทษให้คริสเตียน สตูอานี่ก้มตัวโขกเผาขนหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

มาดริดได้โอกาสครั้งแรกนาที 7 มาร์เซโล่ครองบอลรอเพื่อนก่อนจ่ายออกซ้ายให้อังเคล ดิ มาเรียครอสเข้ากลาง คาริม เบนเซม่าหันหลังตวัดวอลเลย์ด้วยซ้ายเฉียดเสาออกไป

เอสปันญ่อลได้ลุ้นอีกครั้งนาที 14 ตอร์เย่เตะมุมฝั่งขวาเข้าหัวสตูอานี่แต่จังหวะโดดไม่ถนัดเพราะเจอซาบี อลอนโซ่ขึ้นเบียด ลูกโขกเลยลอยออกหลังไปแม้มีผู้เล่นเอสปันญ่อลพยายามโดดยิงตามน้ำแต่ไม่ทัน

มาดริดได้ลุ้นอีกครั้งนาที 19 เบนเซม่ารับบอลจากเพื่อนแล้วแตะหนีเฮ็คตอร์ โมเรโน่เข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนตบเข้ากลางให้คริสติอาโน่ โรนัลโด้ปรี่เข้าตวัดด้วยซ้ายแต่บอลเจ้ากรรมดันเด้งโดนขาขวาออกหลังไปเอง

นาที 21 ทั้ง 2 ฝั่งได้ลุ้นพร้อมกันโดยเป็นมาดริดออกหมัดก่อน ลูก้า โมดริชจ่ายให้ดิ มาเรียส่องไกลด้วยซ้าย บอลพุ่งส่ายๆเข้ากรอบแต่ตรงตัวฟรานซิสโก้ กาซีญ่าทุบทิ้งไปได้และแนวรับเอสปันญ่อลทิ้งบอลยาวไต่เส้นฝั่งขวาทันทีให้จอน คอร์โดบาเก็บบอลได้ก่อนลากหลบโมดริชตัดเข้าเขตโทษแถมยังล็อคหลบดิ มาเรียอีกคนไปมุมแคบแล้วอัดด้วยขวาแต่หลักไม่ดีบอลพุ่งออกหลังไป

มาดริดเริ่มครองเกมดีกว่าและได้โอกาสในนาที 32 โรนัลโด้ทำชิ่งกับดิ มาเรียก่อนแตะหาช่องจนเจอที่หัวกระโหลกและตัดสินใจซัดด้วยขวาให้ฟรานซิสโก้ กาซีญ่าต้องออกแรงปัดข้ามคานไปได้อย่างเฉียดฉิว

มาดริดได้ลุ้นต่อเนื่องจากฟรีคิกระยะ 25 หลาในนาที 36 โรนัลโด้รับหน้าที่กดด้วยขวาบอลพุ่งข้ามกำแพงก่อนติดสปินฮุคลงอย่างรวดเร็วแต่กาซีญ่ายืนตำแหน่งดีใช้ขาเซฟไว้ได้อีกครั้ง

มาดริดมีลุ้นขึ้นนำก่อนพักครึ่งในนาที 42 จังหวะโต้กลับที่มีผู้เล่นทีมเยือนมากกว่าแนวรับเอสปันญ่อล โมดริชจ่ายเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ดิ มาเรียปาดเข้ากลางแต่ทั้งเบนเซม่าและโรนัลโด้ชาร์จไม่ทัน บอลทะลักเกือบออกมุมธงฝั่งขวาแต่ดาเนียล การ์บาฆาลตามเก็บทันก่อนครอสเน้นเข้าหัวเบนเซม่าสะบัดโขกเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 แม้มาดริดจะครองบอลเหนือกว่าเยอะถึง 69%-31% แต่จังหวะโต้ของเอสปันญ่อลที่เน้นทิ้งบอลให้จอน คอร์โดบาตามเก็บก็ได้ลุ้นอยู่เหมือนกัน

               เข้าสู่เกมช่วงครึ่งหลังเจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อนนาที 53 สตูอานี่ทำชิ่งกับเพื่อนก่อนลากบอลถึงหน้าเขตโทษแล้วยิงด้วยขวาแต่เบาไปเยอะกลิ้งเข้ามือดิเอโก้ โลเปซรับสบาย

มาดริดได้ประตูที่โหยหาจนได้ในนาที 55 ดาเนียล การ์บาฆาลเรียกฟาวล์จากสตูอานี่เป็นฟรีคิกริมเขตโทษฝั่งขวา ลูก้า โมดริชบรรจงเปิดไปเสาสองให้เปเป้ขึ้นโขกแบบไร้ตัวประกบย้อนทางกาซีญ่าตุงตาข่าย ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 เปิดทางสู่การจี้ 2 ทีมนำแล้ว

โรนัลโด้มีลุ้นใส่สกอร์ให้ตัวเองนาที 63 ดาวเตะว่าที่บัลลงดอร์กระชากเดี่ยวจากฝั่งซ้ายตัดเข้ากลางแล้วสับไกด้วยขวาเน้นๆแต่กาซีญ่าล้มตัวรับไว้ได้

นาที 65 มาดริดได้ลุ้นนำห่างจากจังหวะโต้กลับ ดิ มาเรียวางยาวตัดสนามอย่างแม่นยำให้โรนัลโด้เอาบอลลงสวยก่อนกระชากเดี่ยว 100 เมตรชายเข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วสับไกแต่บอลพุ่งเรียดเฉียดเสาสองออกไป

เอาทุกเม็ดจริงๆสำหรับมาดริดชั่วโมงนี้ นาที 67 การ์บาฆาลได้ครอสจากฝั่งขวาแม่นยำเข้าหัวเซร์คิโอ รามอสได้โขกเต็มๆแต่ดันติดขาบิคตอร์ ซานเชซที่ล้มไปแล้วซะงั้นเลยจะฟ้องเอาจุดโทษแต่ภาพช้าชัดเจนว่าบอลโดนขาไม่ใช่มือ

มาดริดได้โอกาสทองที่จะปิดเกมนี้ในนาที 81 มาร์เซโล่ทุ่มขึ้นหน้าให้โรนัลโด้โชว์กายาเหล็กเบียดชนะฆาบี โลเปซขโมยบอลได้ก่อนไถผ่านเฮ็คตอร์ โมเรโน่ดื้อๆไปดวลเดี่ยวกับกาซีญ่าโดยมีเฆเซ่รออยู่ทางขวาโล่งๆแต่โรนัลโด้เลือกยิงเองซึ่งก็น่าเข้าอย่างยิ่งแต่กาซีญ่าดันโชว์ซูเปอร์เซฟยื่นแขนขวาขึ้นมาปัดข้ามคานได้ทั้งที่ล้มตัวไปแล้ว

นาทีสุดท้ายของเกมมาดริดพลาดโอกาสทองอีกครั้ง ดิ มาเรียจ่ายยัดเข้ากลางเขตโทษให้เฆเซ่ตวัดยิงติดเซฟกาซีญ่า บอลเด้งเข้าเท้าโรนัลโด้ซ้ำโล่งๆหลุดเสาออกไปอย่างเหลือเชื่อ

จบเกมเป็นอันว่ามาดริดเฉือนชนะ 1-0 เก็บ 3 คะแนนล้ำค่าจี้ 2 ทีมนำเหลือแค่ 3 คะแนน ส่วนเอสปันญ่อลรั้งอันดับ 11 ตามเดิม