ไม่รู้ไปโกรธใครมาสำหรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยมยำใหญ่ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปแบบหมดสภาพ 6-0 โดยเป็นแฮตทริกของ "อัลบาโร่ เนเกรโด้" บวกกับการเบิ้ลของ "เอดิน เชโก้" และ "ยาย่า ตูเร่" อีกเม็ดทำให้โอกาสเข้าชิงดำแคปิตอล วัน คัพแทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว
แคปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
วันพุธที่ 8 มกราคม 2557
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งแรกมาได้ 3 นาทีเจ้าบ้าน "เรือใบสีฟ้า" มีลุ้นก่อนเลยในจังหวะที่ยาย่าทำชิ่งกับนาสรี่ที่เปิดบอลเลียดเข้าไปหน้าปากประตูโอไบรอันดันปล่อยบอลให้เลยไปทางเสาสองที่มีซาบาเลต้าเติมขึ้นมายิงทว่าก็ไปติดโอไบรอันที่บล็อคได้ก่อนอาเดรียนตามมาเก็บบอลเข้ามือ
ช่วง 10 นาทีแรก"เรือใบสีฟ้า"ครองเกมได้อย่างหมดจดและได้ลุ้นอีกสองจังหวะที่การ์เซียโขกทางเสาแรกไม่ตรงกรอบและในนาทีที่ 12 พวกเขาก็มาขึ้นนำเลยเมื่อยาย่าตักบอลยาวจากกลางสนามไปให้เนเกรโด้ไม่ปล่อยบอลตกซัดด้วยอีซ้ายเต็มดอกบอลพุ่งเลียดเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม
เกมผ่านมา 20 นาทีแล้วยังคงเป็นซิตี้ที่ครองบอลอยู่ข้างเดียวแต่เวสต์แฮมก็ตั้งรับเหนียวเหมือนกันโดยนาสรี่มีโอกาสส่องไกลนอกกรอบเขตโทษทว่าก็ยังไปติดบล็อคของแม็คคาร์ทนี่ย์ที่ลงมาช่วยเอาไว้ทัน
และในนาทีที่ 26 เจ้าถิ่นก็ได้เฮกันอีกรอบในจังหวะทำชิ่งอย่างสวยจากเชโก้ที่แทงตามช่องไปให้เนเกรโด้ลากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วอัดด้วยเท้าซ้ายอีกแล้วบอลพุ่งแรงหมดปัญญาที่อาเดรียนจะปัดป้องเอาไว้ทำให้นี่เป็นการยิงประตูที่ 13 จากการลงเล่นในเอติฮัด สเตเดี้ยม 11 เกมรวมทุกรายการของเขาด้วย
ซิตี้ยังเคาะบอลเข้าทำอย่างสวยงามเหมือนเดิมและมาได้ลุ้นอีกสองทีจากการสับไกของซิลบาและนาสรี่ที่อาเดรียนยังไวไม่ปล่อยให้บอลผ่านเข้าประตูได้ขณะเดียวกัน"เรือใบสีฟ้า"ต้องเจอปัญหาแล้วเมื่อยาย่ามีอาการเดี้ยงหลังจากเข้าปะทะกับดิยาเม่จนต้องให้ดาวเตะไอวอรี่ โคสต์ไปปฐมพยาบาลนอกสนามก่อน
เนเกรโด้เกือบทำแฮตทริกได้เลยทีเดียวเมื่อเขาได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนที่จะยิงออกไปเหมือนจังหวะที่เชโก้ซัดข้ามคานไปไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้นเช่นกัน
นาทีที่ 40 เจ้าบ้านได้ประตูนำห่างแบบงามหยดเมื่อเวสต์แฮมพลาดเสียบอลกันเองในแดนของเจ้าถิ่นก่อนที่เนเกรโด้จะไหลบอลให้ยาย่าลากตลุยเดียวจากครึ่งสนามไปจนถึงกรอบเขตโทษก่อนล็อคบอลหนีกองหลังสักหน่อยแล้วบรรจงอัดด้วยขวาผ่านอาเดรียนเข้าไปแบบสุดเยือกเย็น
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังได้ไม่ทันไรเนเกรโด้ก็กดแฮตทริกได้แล้วเมื่อเชโก้แทงบอลไปให้ซิลบาที่เติมขึ้นมาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายเปิดเข้ากลางบอลไปแฉลบกองหลังแต่ความซวยไม่หายไปเข้าทางของเนเกรโด้ที่อัดด้วยซ้ายจังหวะเดียวบอลพุ่งแรงเสียบเสาซ้ายมือไม่มีเหลือ
นาทีที่ 51 "เรือใบสีฟ้า"เกือบได้ประตูอีกเมื่อได้ฟรีคิกในระยะน่ารักน่าลุ้นไม่ถึง 20 หลากลางประตูเป็นยาย่าเจ้าเก่าที่พกรีโมทมาแต่ไกลสับด้วยขวาบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่คราวนี้กดไม่ลงเหินข้ามคานไม่ได้ลุ้นอะไร
นักเตะเวสต์แฮมอ่อนด้อยเหลือเกินในเกมนี้และมาเสียบอลตรงกลางสนามอีกเป็นเชโก้ที่ลากเข้าไปก่อนไม่รู้ทำอะไรขอยิงดีกว่าซึ่งบอลก็เหินข้ามคานไปนิดเดียวชนิดที่อาเดรียนต้องพุ่งสุดเหยียดเหมือนกัน
ในที่สุดก็มีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดจนได้สำหรับเชโก้เมื่อซิลบาโชว์แทงบอลให้กลีชี่ที่เติมขึ้นมาพอดีหลุดถึงเส้นหลังด้านซ้ายแล้วตบเข้ากลางที่เสาแรกมีดาวยิงบอสเนียยืนอยู่ก่อนจิ้มบอลเข้าไปตุงตาข่ายทำให้แซม อัลลาไดซ์ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างสนามเลย
เรียกได้ว่าเข้าขารู้ใจกันจริงๆระหว่างคู่หอกของเจ้าถิ่นโดยจังหวะนี้เป็นเชโก้ที่แทงบอลให้เนเกรโด้จับบอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วยิงทันทีแต่บอลไปติดบล็อคกองหลังออกไปซึ่งจังหวะเตะมุมนั้นเชโก้ก็ได้โขกที่เสาสองแต่อาเดรียนยังเซฟออกมาจากเส้นได้หวุดหวิด
นาทีที่ 81 "เรือใบสีฟ้า"น่าได้ประตูเหลือเกินเมื่อนาสรี่ลากบอลอยู่ตรงริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วไหลเข้ากลางให้เชโก้ตั้งป้อมยิงไปทางเสาซ้ายมือบอลจะเข้าอยู่แล้วทว่าอาเดรียนยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกหลังได้แบบน่าชม
มาได้ประตูที่ครึ่งหลังจนได้เมื่อโลเปสโชว์ลีลาตอกส้นไปให้โคลารอฟหลุดเข้าถึงสุดเส้นด้านซ้ายก่อนตบกลับมายังจุดนัดพบให้เชดก้ส่องเต็มตีนเตี่ยเข้าไปไม่เหลือซากและเมื่อจบครบ 90 นาทีเป็นซิตี้ที่ครองความได้เปรียบหมาศาลก่อนไปเยือนถิ่นอัพตัน พาร์คเพื่อเข้าไปชิงดำในเวมบลีย์ต่อไป