ปิดฉากปีนี้ด้วยการเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลกอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค หลังจากที่ได้ "ดันเต้" และ "ติอาโก้ อัลกันตาร่า" ควงกันซักคนละตุงตั้งแต่ครึ่งแรกช่วยให้ "เสือใต้" เอาชนะเจ้าภาพ "รายา คาซาบลังก้า" 2-0 คว้าแชมป์ไปครองตามความคาดหมาย
ฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
สนาม สต๊าด เดอ มาร์ราเคช
วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2556
รายา คาซาบลังก้า 0-2 บาเยิร์น มิวนิค ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งแรกมา "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ได้ทักก่อนเบาๆในนาที 3 แนวรับรายาเคลียร์ไม่ดีเข้าเท้าโทนี่ โครสซัดไกลจากแถวสอง บอลพุ่งเรียดเข้ากรอบแต่ตรงตัวนายทวารคาลิด อัสกรี้รับเข้าซอง
รายาตอบโต้ทันทีในนาที 5 มูสซีน ญาชูร์รับบอลจากเพื่อนได้ในเขตโทษฝั่งขวาก่อนลากหนีดันเต้แล้วซัดเต็มข้อแต่บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายออกหลังไป ดูจากภาพช้าเหมือนแฉลบดันเต้แต่กรรมการซานโดร ริชชี่เป่าให้เป็นลูกตั้งเตะของบาเยิร์น
ที่เป๊ปว่าไม่ประมาทรายาคงจะจริงเพราะลูกนี้ซ้อมมาแน่นอน นาที 7 บาเยิร์นได้เตะมุมฝั่งขวา เซอร์ดาน ชาคิรี่เปิดเฉือนๆไปตรงหัวกระโหลก เฌโรม บัวเต็งถอยตัวโหม่งเข้าเขตโทษ ดันเต้ยืนชิงจังหวะกับแนวรับเจ้าภาพและไม่ล้ำหน้ากลายเป็นได้โอกาสหมุนตัวซัดจ่อๆด้วยขวาตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด บาเยิร์นนำก่อน 1-0
นาที 9 บาเยิร์นต่อเกมกันเนียนตาเหลือเกินจนน่าเสียดายที่จังหวะจบไม่มีประตู ชาคิรี่, โครส และโธมัส มุลเลอร์ต่อเกมกันหน้าเขตโทษรายา 3 คนมาถึงชาคิรี่ทางฝั่งขวาจ่ายลอดขาแนวรับเข้าเขตโทษอย่างเหนือชั้นให้โครสตบเข้ากลางอย่างรู้ใจ เป็นมุลเลอร์วิ่งเข้ามาจบด้วยขวาแต่เบาไปเข้าซองอัสกรี้รับสบาย
บาเยิร์นยังข่มเจ้าภาพมิดด้าม นาที 19 ติอาโก้ อัลกันตาร่าขยับออกริมเส้นซ้ายก่อนรับบอลแล้วจ่ายให้มุลเลอร์ทรูพาสเข้าเขตโทษให้ดาวิด อลาบาวิ่งเข้ามาอัดด้วยซ้ายเต็มๆแต่อัสกรี้เซฟไว้ได้ก่อนตามไปตะครุบเข้ามือ
นาที 21 รายาได้โอกาสอีกครั้งคล้ายเดิม บอลทิ้งจากแดนกลางเข้าเขตโทษฝั่งขวา ญาชูร์สปีดหนีดันเต้เข้าไปอัดด้วยขวาแต่เบาไปอีกตรงตัวมานูเอล นอยเออร์รับเข้าซอง
กะจบเกมเร็วไม่ให้รายาได้โงหัวขึ้นสำหรับบาเยิร์นและมาได้เม็ดสองในนาที 22 ติอาโก้ อัลกันตาร่าจ่ายเข้าเขตโทษให้ดาวิด อลาบาสปีดไปเอาบอลก่อนโชว์ความแกร่งของข้อเท้าด้วยการเบรคแบบไม่กลัวเจ็บขณะเดียวกันก็แตะหลบแนวรับเจ้าภาพด้วยก่อนตบกลับให้ติอาโก้เติมขึ้นมาแปเน้นๆบริเวณหัวกระโหลก บอลโค้งเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม บาเยิร์นนำห่าง 2-0 แล้ว
กะสร้างชื่อในนัดนี้เห็นๆสำหรับดันเต้ที่ลุยมันส์เหลือเกิน นาที 33 บอลเตะมุมฝั่งซ้ายเข้าหัวดันเต้โขกเต็มๆข้ามคานไปน่าหวาดเสียว
น่ามีชื่อทำประตูอย่างยิ่งสำหรับจังหวะนี้ของชาคิรี่ในนาที 35 ปีกสวิสทำชิ่ง 1-2 กับมุลเลอร์ถึงหน้าเขตโทษหลอกจะอัดด้วยขวาแล้วคล้องเข้าซ้ายจากนั้นก็หยอดเหรียญ 10 หมุนจอยแล้วกดปุ่มยิง บอลโค้งจะเสียบเสาไกลอยู่แล้วแต่อัสกรี้โชว์ปฏิกิริยาพุ่งปัดออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม
หวิดขับรถขนส้มพลิกคว่ำหน้าประตูตัวเองสำหรับมานูเอล นอยเออร์ในนาที 38 บาเยิร์นเคาะป้อกแป้กหน้าประตูก่อนคืนหลังให้นอยเออร์เปิดเกมแต่มือหนึ่งทีมชาติเยอรมันเตะไม่ดูตาม้าตาเรือตาขุนตาโคน บอลพุ่งหาเช็มเซ็ดดีน ชติบี้ยิงสวนตูมเดียวบอลเฉียดเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย จังหวะนี้เล่นเอาเป๊ปต้องเม้งลูกทีมเป็นการใหญ่
จบครึ่งแรกบาเยิร์นนำ 2-0 พร้อมรูปเกมเหนือชั้นไม่ต่างกับเกมเจอกว่างโจวฟ้องด้วยสถิติครองบอล 75%-25% ดูแล้วรายาคงต้องพึ่งพลังงานบางอย่างหากยังหวังจะคว้าแชมป์รายการนี้
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง "รายา" ได้ลุ้นตีไข่แตกแบบจังๆในนาที 56 บอลทิ้งจากแดนกลางถึงเกือบสุดเส้นฝั่งขวา ซาคาเรีย เอล ฮาชิมี่สปีดทันบอลก่อนครอสเข้าเขตโทษให้เวียนนี่ย์ มาบิเด้ ตัวสำรองโดดโขกเน้นๆข้ามคานไปนิดเดียว
นาที 61 บาเยิร์นน่าได้เม็ดสามอย่างที่สุด บอลถ่ายออกขวาให้กัปตันฟิลิปป์ ลาห์มเปิดหักเข้าหน้ากรอบประตู ชาคิรี่วิ่งเข้าจุดนับพบตวัดยิงด้วยขวาจ่อๆชนคานไม่น่าเชื่อ บอลเด้งออกมาเข้าทางติอาโก้เก็บตกแถวสองแตะหนีแนวรับแล้วแปด้วยซ้ายเน้นๆข้ามคานไปอีก
นาที 64 รายาได้ลุ้นตีตื้นอีกครั้ง มูสซีน มูตูอาลี่ลากเดี่ยวหลบผู้เล่นบาเยิร์นถึงหน้าเขตโทษก่อนตัดสินใจซัดด้วยซ้าย บอลโค้งข้ามคานไปไม่ไกล
กลายเป็นเหมือนหลายๆเกมในบุนเดสลีก้าสำหรับบาเยิร์นที่พอนำในครึ่งแรกแล้วครึ่งหลังก็เล่นแบบหนืดๆตลอด แม้รายาจะพยายามกดดันไล่บี้พร้อมเสียงเชียร์แต่ก็ยังไม่อาจทำอะไรอาคันตุกะผู้ไร้เทียมทานได้
พี่เสือขับรถขนส้มคว่ำอีกรอบในนาที 83 แต่เจ้าภาพไม่เก็บซะงั้น แนวรับบาเยิร์นเล่นพลาดบอลเข้าทางผู้เล่นรายาหนุนเร็วเข้าเขตโทษให้มาดิเบ้ซัดเต็มข้อเอาตายแต่นอยเออร์ไม่ตายเซฟไว้ได้ บอลยังเด้งเข้าทางมูตาอูลี่ได้ซ้ำโล่งๆข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ
จบเกมเป็นอันว่าบาเยิร์นชนะรายา คาซาบลังก้า 2-0 คว้าแชมป์สโมสรโลกไปครอง