"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นชื่อว่าเล่นในบ้านแล้วโคตรโหดเลยทีเดียวหลังโชว์ฟอร์มเทพเปิดเกมรุกเข้าใส่ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงอย่างต่อเนื่องและแสดงความเด็ดขาดให้เห็นไล่ยิงกันไม่ซ้ำหน้าแถม "เฟอร์นานดินโญ่" ก็รับเหมาคนเดียวสองตุงช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 6-3 เก็บชัยนัดเหย้าในลีกได้ 100% เต็มชนะ 8 เกมรวดพร้อมขยับขึ้นรองจ่าฝูงชั่วคราวก่อนตามหลัง "ปืนใหญ่" แค่ 3 คะแนน
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2556
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6-3 อาร์เซน่อล เข้าสู่เกมช่วงครึ่งแรกเกมดูสนุกเลยทาง "ซิตี้" ไม่รีรอเปิดเกมเข้าใส่ต่อเนื่องมีโอกาสยิงไปบ้างเหมือนกันก่อนจะเป็นอาร์เซน่อลแอบเสียวกว่าในจังหวะที่บอลครอสของวัลคอตต์ถึงวิลเชียร์ที่ยืนโล่งอยู่แต่ยิงไม่ดีไปเอง ก่อนชิรูด์จะมามีลุ้นต่ดด้วยลูกโหม่งของชิรูด์แต่มันหลุดกรอบออกไปเองพลาดโอกาสน่าเสียดาย
แล้วนาที 14 "เรือใบสีฟ้า"ทะยานออกนำกันไปเรียบร้อยแล้วมาอาศัยจากลูกเตะมุมทางขวาเปิดเข้าไปทางเสาแรกก่อนเป็นเดมิเคลิสสอดเข้ามาโหม่งเช็ดเสาแรกหลุดไปถึงเสาไกลอเกวโร่แอบถลำไปนิดแต่ยังวอลเล่ย์ได้อัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายเต็มๆส่งแมนฯ ซิตี้ออกนำ 1-0
แมนฯ ซิตี้ยังบุกต่อเนื่องเลยอาร์เซน่อลพยายามจะสวนกลับแต่เจอตัดบอลได้ตลอดแล้วเกือบเกิดประตูที่สองต่อจากกอมปานีตัดบอลสวนกลับได้ก่อนจะลากมาเองแล้วดีดไปตามช่องให้กับเนเกรโด้วิ่งหลุดเข้าเขตโทษไปทางขวาก่อนสับไกแต่สุดท้ายเข้าข้างตาข่าย
เกมส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของแมนฯ ซิตี้เหมือนเดิมแล้วมีโอกาสลองส่องอีกครั้งด้วยจังหวะซิลบาทำชิ่งกับยาย่าหลุดถึงหน้าเขตโทษยิงทีแรกติดบล็อก บอลยังอยู่กับซิลบาออกไปทางขวาแล้วคืนถึงยาย่าหน้าเขตโทษจับก่อนจะยิงเลยแต่บอลยังโด่งหลุดกรอบพอสมควร
แต่แล้วนาที 31 เกมของ"ปืนใหญ่"ยังไม่ดีขึ้นแต่พวกเขาก็ได้ประตูออกนำจนได้ต้องชมแรมซี่ย์ก่อนไปแย่งบอลจากยาย่าได้กลางสนามก่อนพาขึ้นมาแล้วจ่ายออกไปทางซ้ายที่โอซิลลากบอลเข้าเขตโทษดึงรอเพื่อนก่อนจ่ายให้วัลคอตต์ที่เติมขึ้นมาทีหลังวิ่งเข้ามายิงเหมือนไม่โดนใครก่อนจะบอลจะพุ่งเข้าประตูไป อาร์เซน่อลตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ
เจ้าบ้านเกือบกลับมาขึ้นนำได้อีกครั้งด้วยการพาบอลขึ้นมาตรงกลางสนามเองของซิลบาก่อนจ่ายสวยอีกแล้วไหลให้ตามช่องถึงเนเกรโด้หลุดทะลุเข้าเขตโทษมาได้ก่อนจะพยายามแปให้เสียบเสาไกลแต่บอลมันยังไม่คมพอโค้งออกหลังไป
แมนฯ ซิตี้บุกได้เนื้อได้น้ำจริงๆแล้วพวกเขาก็ขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะนาที 39 มาเคาะกันหน้าเขตโทษก่อนมาอยู่กับยาย่าเปิดไซด์ก้อยออกมาทางขวาให้ซาบาเลต้าสอดเข้ามารับบอลในเขตโทษแล้วปาดไปกลางประตูให้เนเกรโด้สอดเข้ามาชาร์จผ่านเซสนี่เข้าไปเรียบร้อยกลายเป็นส่งทีมนำ 2-1 อีกครั้ง
เท่านั้นยังร้ายไม่พอสำหรับอาร์เซน่อลหลังพวกเขาโดนลูกที่สองก็ต้องมาเสียนักเตะเพิ่มอีกนั่นคือจังหวะที่กอสเซียลนี่ไปสไลด์ช่วยสกัดประตูสองพอยืนแล้วถึงกับเป๋สุดท้ายเล่นต่อไม่ไหวจริงๆต้องโดนลงเปลเปลี่ยนตัวออกจากสนามให้แฟร์มาเล่นลงมาเล่นทน
ก่อนหมดเวลาแมนฯ ซิตี้ลุ้นประตูอีกแล้วด้วยลูกเตะมุมทางขวาของนาสรี่เปิดไปที่เสาแรกเหมือนเดิมก่อนจะเป็นเดมิเคลิสเข้ามาโหม่งสะบัดไปเสาสองแต่บอลยังข้ามคานออกไปกับลูกยิงไกลของซิลบาที่ข้ามคานทำให้จบครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้ออกนำอยู่ 2-1
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังเล่นกันมาไม่นานเจ้าบ้านต้องไปเสียอเกวโร่เพราะอาการเจ็บแต่พวกเขาก็ยังร้อนแรงเอาประตูเพิ่มเติมได้อีกในจังหวะที่พลาดกันเองของอาร์เซน่อลจ่ายไม่ดีจากมุมธงมาหน้าเขตโทษแล้วฟลามินี่เหยียดขาจับบอลหลุดมาเข้าทางของเฟอร์นานดินโญ่พาบอลมาตรงกลางแล้วยิงปั่นๆโค้งผ่านมือเซสนี่เข้าประตูไปอีกแล้ว แมนฯ ซิตี้นำห่างเป็น 3-1
เข้านาที 55 ทางอาร์เซน่อลต้องเดินเกมบุกมากขึ้นแต่พวกเขาก็ยังหาช่องทำอะไรแมนฯ ซิตี้ได้ลำบากอยู่แทบหาจังหวะให้พานทิลิมอนต้องออกแรฟงเซฟไม่ได้เลยหนนี้ขึ้นเกมทางขวาแล้วซานญ่าครอสเข้าเขตโทษไปก่อนชิรูด์จะโฉบมาโหม่งเช็ดไปเสาไกลแต่บอลยังหลุดกรอบออกไปอีก
มีจังหวะที่ฝั่งอาร์เซน่อลร้องกรรมการขอจุดโทษด้วยในจังหวะชิพของวิลเชียร์จะเข้าเขตโทษให้วัลคอตต์ที่วิ่งสอดแต่ว่ามีซาบาเลต้ามาดักไว้แล้วบอลมันกระดอนมาโดนต้นแขนนิดนึงแต่ท่านเปาเฉยไม่ได้เป่าอะไร
แต่ทาง"ปืนใหญ่"ยังไม่ยอมง่ายๆพวกเขาทำประตูไล่มาได้แล้วจากบอลทำกันสวยเริ่มที่แรมซี่ย์ฝากบอลมาหน้าเขตโทษให้กับเพื่อนก่อนจะคืนกลับมาให้แรมซี่ย์เติมมากระดกบอลทีเดียวข้ามแผงหลังแมนฯ ซิตี้สวยจริงๆหลุดถึงวัลคอตต์สอดมาจบด้วยการยิงเสียบตาข่ายเสาไกล อาร์เซน่อลไล่มาเป็น 3-2 แล้ว
สุดท้ายให้หลังมาไม่กี่นาทีจากประตูของอาร์เซน่อล"เรือใบ"มาบวกประตูทิ้งห่างออกไปเหมือนเดิมจากจังหวะนาสรี่จ่ายออกไปทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้กับนาบาสดึงรอแล้วกระชากจนได้ช่องเปิดยัดมาเสาแรกจบลงที่ซิลบาสอดมายิงระยะ 6 หลายัดเข้าเสาแรกไม่เหลือ แมนฯ ซิตี้ทิ้งห่างอีกแล้วเป็น 4-2
อาร์เซน่อลยังไม่หยุดนาที 68 พวกเขาได้โอกาสสับไกอีกครั้งด้วยจังหวะที่บอลฝากมาให้กับวิลเชียร์หน้าเขตโทษรออยู่ปล่อยบอลเข้าซ้ายก่อนจะจัดการยิงอัดเข้ามาเลยแต่พานทิลิมอนยังบินปัดเอาไว้ได้อยู่
เกมของแมนฯ ซิตี้ยังไม่หยุดเดินหน้าพวกเขามาอีกแล้วจากบอลสวนกลับขึ้นทางริมเส้นขวาโดยนาสร่พาบอลลากตัดเข้าในมาเรื่อยก่อนดีดไปตามช่องให้กับนาบาสสปีดหนีกองหลังมาได้ตามด้วยแตะหลบเซสนี่ไปแล้วแต่มุมแคบก็ยังพยายามฝืนยิงสุดท้ายเข้าเพียงแค่ข้างตาข่าย
เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วแมนฯ ซิตี้ยังเดินหน้าตามหาประตูเหมือนเดิมแล้วพวกเขาก็เกือบจะมีลูกห้าเอาจากจังหวะตัดบอลได้แดนกลางอีกแล้วก่อนนาบาสฝากให้นาสรี่เคาะกลับมาตรงกลางถึงยาย่าพาบอลขึ้นมาเองข้างหน้าไม่มีขวางเลยขอสับไกจากนอกเขตหน่อยสุดท้ายบอลพุ่งหลุดเสาซ้ายมือ
แมนฯ ซิตี้ยังมาเป็นชุดต่อเนื่องเลยพวกเขาได้โอกาสจบอีกสองทีหนแรกจากนาสรี่โชว์พริ้วล็อกหลบสองหลบสามมาสวยเข้าเขตโทษก่อนจะได้ยิงแต่ว่าติดบล็อก กับอีกหนด้วยการยิงไกลของเฟอร์นานดินโญ่แต่ก็ยังไม่ผ่านเซฟเซสนี่อยู่
ก่อนหมดเวลา 2 นาที"เรือใบ"เอาจนได้กับประตูที่ห้าด้วยจังหวะที่วิลเชียร์เสียบอลกลางสนามบอลเข้าทางเฟอร์นานดินโญ่ลากขึ้นมาเรื่อยๆก่อนฝากให้นาสรี่เข้าเขตโทษแล้วดีดกลับมาให้เฟอร์นานดินโญ่ก่อนจะหักหลบแมร์เตซัคเกอร์มาบอลยังหลุดเข้าทางก่อนจะกระดกผ่านเซสนี่แบบไม่ยากเย็น แมนฯ ซิตี้ทิ้งท้ายเป็น 5-2
อาร์เซน่อลกะจะเอาประตูปลอบใจอีกลูกก็ไม่ได้หลังพวกเขาบุกขึ้นมาก่อนจ่ายให้มอนเรอัลหลุดมาถึงเขตโทษทางซ้ายแล้วเปิดเข้ามาในเขตโทษถึงหัวเบนด์เนอร์โขกเข้าประตูไปสุดท้ายไม่ได้เพราะโดนจับล้ำหน้าแต่เหมือนจะก้ำกึ่งในจังหวะนี้
ทดเจ็บอาร์เซน่อลมาเอาลูกปลอบใจเพิ่มอีกจนได้จากบอลเตะมุมเล่นสั้นแล้วทำชิ่งกันมาจนถึงซานญ่าในเขตโทษดึงจังหวะรอแล้วเปิดเข้าไปถึงหัวของแมร์เตซัคเกอร์สอดมาโหม่งเข้าประตูจนได้เป็น 5-3
แล้วทดเจ็บนาทีสุดท้ายแมนฯ ซิตี้มาได้จุดโทษเอาจากจังหวะมิลเนอร์โดนเกี่ยวล้มลงสุดท้ายท่านเปาแจกจุดโทษให้แล้วยาย่ามารับหน้าที่สังหารไม่เหลือกลายเป็น 6-3
จบเกมแมนฯ ซิตี้เอาชนะอาร์เซน่อลไปได้ 6-3 ทำให้พวกเขามีสถิติในบ้านอันสวยหรูเก็บชัย 8 เกมรวดในลีกซีซั่นนี้แถมทำได้ถึง 35 ประตูเสียเพียงแค่ 5 ลูกและขยับขึ้นรองจ่าฝูงชั่วคราวส่วนอาร์เซน่อลโดนจี้ไล่มาแล้ว