พิมพ์

[Armin]

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทำเอาเหล่าบรรดา "เดอะ ค็อป" ทั้งหลายต้องปวดตับหลังจากที่ควานหาชัยชนะไม่เจอมา 2 นัดติดโดยล่าสุดบุกมาพ่ายให้กับ "เดอะ ไทเกอร์" ฮัลล์ ซิตี้ 3-1 ด้วยฟอร์มสุดกาก อยู่อันดับ 3 มี 24 แต้มเท่าเดิมส่วนลูกทีม "สตีฟ บรูซ" ขึ้นที่ 10 อย่างสวยงาม



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2556
ฮัลล์ ซิตี้ 3-1 ลิเวอร์พูล
สนาม เคซี สเตเดี้ยม

             เปิดฉากเริ่มเกมมาได้ 5 นาทีแรก "หงส์แดง" เป็นฝ่ายทำเกมเข้าใส่ก่อนจากบอลของ หลุยส์ ซัวเรซ ที่กลางสนามป้ายออกซ้ายให้ วิคเตอร์ โมเสส เลี้ยงถึงเส้นหลังก่อนหักเข้ากลาง แต่ กองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์บอลได้ทันก่อน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่รอชาร์จโล่งๆ หน้าปากประตู

ลิเวอร์พูล พยายามขึ้นเกมทาริมเส้นซ้าย-ขวา ราฮีม สเตอร์ลิง สลับกับ วิคเตอร์ โมเสส เป็นหลัก ในช่วง 10 นาทีแรกของเกม แต่ยังไมมีโอกาสจบสกอร์

นาที 14 สตีเว่น เจอร์ราร์ด แทงทะลุช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิง พลิกหลบแนวรับหลุดไปทางกราบขวา แต่จังหวะเปิดไม่ดีติดกองหลัง ฮัลล์ ซิตี้ สกัดออกไป

นาทีถัดมา ฮัลล์ ซิตี้ โต้คืนบ้าง โรเบิร์ต โคเรน ได้โอกาสยิงในเขตโทษ แต่ก็ติดบล็อก "หงส์แดง"

เจ้าถิ่นเปิดเกมแลกไม่กลัว จากลูกเตะมุมบอลเลยมาที่เสาสอง อเล็กซ์ บรูซ เก็บตกก่อนโยนมาให้ เคอร์ติส เดวิส โขกเช้ดเหน่งๆ บอลเฉี่ยวเสาไปได้ลุ้น ในนาทีที่ 16

ทำประตู นาทีที่ 20 กลายเป็นฝั่ง ฮัลล์ ซิตี้ พลิกขึ้นนำก่อนอย่างเหลือเชื่อเมื่อ วิคเตอร์ โมเสส ไปพลาดเสียบอลในแดนตัวเอง บอลเลยมาถึง เจค ลิเวอร์มอร์ สับไกยิงทันทีร่วม 25 หลาบอลไปแฉลบ มาร์ติน สเคอร์เทล ลอยข้ามมือ ซิมง มิโญเล่ต์ เสียบตาข่ายงามหยด "เสือน้อย" นำก่อน 1-0

ใบเหลือง นาทีที่ 25 เคอร์ติส เดวิส ปราการหลังเจ้าถิ่นมารับใบเหลืองแรกของเกมหลังไปเข้าหนักใส่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

ทำประตู จากลูกฟรีคิกต่อเนื่องหน้าเขตโทษ สตีเว่น เจอร์ราร์ด รับอาสาปั่นโค้งอ้อมกำแพงเข้าเสาไกลอย่างสวยงาม โดยที่ อัลลัน แม็คเกรเกอร์ หมดสิทธิ์รับด้วยประการทั้งปวง "หงส์แดง" ตีเสมอแล้ว 1-1 ในนาทีที่ 27 และถือเป็นการฉลองประตูในการรับใช้ "เร้ด แมชชีน" ครบ 15 ปีเต็มสดๆ ร้อนๆ

หลังจากตีเสมอได้ ลิเวอร์พูล กลับมาครองเกมได้อย่างชัดเจน เป็นฝ่ายกดดันเล่นเอา ฮัลล์ ซิตี้ ต้องถอยลงไปตั้งรับลึก

นาทีที่ 36 ฮัลล์ ซิตี้ ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดในการจ่ายบอลหน้าเขตโทษของ ลิเวอร์พูล และจังหวะสุดท้าย ทอม ฮัดเดิลสตัน ลองซัดไกลแต่บอลเบาไปเข้าซอง

เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกตัวจี๊ดของ "หงส์แดง" ได้จังหวะยิงจกาหน้าเขตโทษแต่ เคอร์ติส เดวิส ยังเข้ามาบล็อกไว้ได้ทัน

ใบเหลือง นาทีที่ 44 ร็อบบี้ เบรดี้ หัวหอกของ ฮัลล์ ซิตี้ มาโดนจดชื่อแบบไม่น่าเสีย หลังไปตั้งใจพุ่งล้มเอาจุดโทษ

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก หลุยส์ ซัวเรซ ได้หลุดไปยิงในเขตโทษแต่บอลเบาไป อัลลัน แม็คเกรเกอร์ รับสบาย ก่อนจบครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังคงเสมอกัน 1-1

             กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังมาได้แค่ 2 นาที หลุยส์ ซัวเรซ ได้บอลทะลุชบช่องจากกลางสนามหลุดไปยิงมุมแคบบอลยังไปเข้ามือของ อัลลัน แม็คเกรเกอร์

นาทีที่ 56 เกมต้องหยุดชะงักไปร่วม 2 นาทีจากจังหวะเทกตัวโหม่งของ ร็อบบี้ เบรดี้ ตัวรุกเจ้าถิ่นไปชนกับ โคโล่ ตูเร่ เต็มๆ มึนไปพักใหญ่ แต่สามารถกลับมาเล่นต่อได้ตามปกติ

เข้าสู่ช่วง 1 ชั่วโมง ฮัลล์ ซิตี้ ไม่ได้เป็นรองมากนัก เคอร์ติส เดวิส มีโอกาสเทกตัวโหม่งหลุดกรอบไปนิดเดียว

เปลี่ยนตัว นาที 65 เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แก้เกมส่ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงมาทำเกมแทน ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เล่นไม่ออก

เปลี่ยนตัว นาทีเดียวกัน ฮัลล์ ซิตี้ เปลี่ยนบ้างส่ง เลียม โรซีเนียร์ ลงมาแทน โรเบิร์ต โคเรน

ทอม ฮัดเดิลสตัน ลากจากกราบขวาก่อนหักเข้ากลางแล้วยิงไกล บอลเฉี่ยวเสาสองแบบเสียวไส้ ในนาทีที่ 69

นาทีที่ 70 ลิเวอร์พูล ชวดโอกาสทองฝังเพชรเมื่อ วิคเตอร์ โมเสส ได้บอลจ่ายจากริมเส้นยิงจ่อๆ เผาขน แต่ อัลลัน แม็คเกรเกอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ

ทำประตู นาทีต่อมา ฮัลล์ ซิตี้ โต้คืนทันควันจากบอลยาวจากแดนหลังบอลขลุกขลิกหน้าประตูบอลหลุดมาถึง เดวิด เมย์เลอร์ ยิงทันทีไปติดกองหลังแต่ยังไม่พ้นอันตรายเข้าทางปืนของ เดวิด เมย์เลอร์ อีกครั้งก่อนลากมายิงด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเรียดเสียบเสาสอง "เสือน้อย" เซอร์ไพรส์นำอีกครั้ง 2-1

เปลี่ยนตัว "หงส์แดง" เปลี่ยนแนวรุกส่ง หลุยส์ อัลแบร์โต้ ลงมาแทน วิคเตอร์ โมเสส ในนาทีที่ 74

เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกตรงหน้าเขตโทษ หลุยส์ ซัวเรซ อาสาปั่นบอลโค้งเฉี่ยวเสาซ้ายมือแบบได้ลุ้น

นาทีที่ 86 เจ้าถิ่นฉวยโอกาสจากลูกสวนกลับ ยานนิค ซาคโบ้ ได้หลุดไปยิงแต่ ซิมง มิโญเล่ต์ ตะครุบเอาไว้ได้

ทำประตู แต่นาทีต่อมา ฮัลล์ ซิตี้ ได้ประตูตอกฝาโลงจนได้จกาลูกโยนยาวของ เคอร์ติส เดวิส บอลลอยมาถึง ยานนิค ซาคโบ้ ลากเลี้ยงยึกยักๆ ก่อนจ่ายให้ ทอม ฮัดเดิลสตัน ที่เติมขึ้นมาแล้วจิ้มด้วยหัวเกือกบอลไปแฉลบหัวของ มาร์ติน สเคอร์เทล เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง ฮัลล์ ซิตี้ ทำช็อกหนีไป 3-1

เปลี่ยนตัว นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวส่ง แดนนี่ เกรแฮม ลงมาเสริมแนวรุกแทน ยานนิค ซาคโบ้

ช่วงทดเจ็บ ฮัลล์ สวนกลับแต่ละทีได้ลุ้นตลอด อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้ วิงแบ็กลุยขึ้นมายิงเองทางขวาบอลถากเสาสองไปนิดเดียว

เปลี่ยนตัว ทดเจ็บนาทีสุดท้าย ฮัลล์ เปลี่ยนตัวฆ่าเวลาส่ง จอร์จ บอยด์ ลงมาแทน ร็อบบี้ เบรดี้

ลิเวอร์พูล พยายามใหมบุกหนักแต่ไล่ไม่ทัน จบเกม ฮัลล์ ซิตี้ ทำเซอร์ไพรส์เปิดรังไล่ขย้ำคว้าชัยไปแบบพลิกล็อก 3-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล สะดุดตามหลัง "จ่าฝูง" อาร์เซน่อล ถึง 7 แต้มเข้าไปแล้ว