ผู้เขียน หัวข้อ: "พี่หริด" ฮีโร่~!! โขกท้ายเกม น.89 พา "หงส์" ไล่เจ๊า "ท็อฟฟี่" มันส์หยด 3-3  (อ่าน 975 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

สุดยอดเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมทช์ เกมนี้สู้กันมันส์เลยดีเดียว มีครบทุกรสชาติ แถมยังดราม่ากันเต็มเหนี่ยวหลังจากที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล นั้นรอดพ้นความปราชัยไปได้โดย "ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์" รับบทฮีโร่โขกตีเสมอก่อนที่จะหมดเวลานาทีเดียว สุดท้ายควงแขนได้ใจแฟนบอลเสมอ 3-3 แบ่งแต้มกันไป



พรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556
เอฟเวอร์ตัน 3-3 ลิเวอร์พูล

              เปิดฉากเริ่มเกมมาเจ้าบ้าน "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" ได้แรงจากเสียงเชียร์ที่อื้ออึงเลยเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าและพยายามนวดส่วน"หงส์แดง"เวลาแย่งได้จะสวนกลับเจอบีบเร็วตั้งแต่แดนตัวเองเลยไปไม่เป็นเหมือนที่หลายๆทีมชอบใช้

แต่โอกาสแรกของลิเวอร์พูลก็ขึ้นนำหน้าตาเฉยในนาทีที่ 5 จากลูกเตะมุมของเจอร์ราร์ดบอลเลยมาที่จุดนัดพบ 6 หลาเป็นซัวเรซแย่งโหม่งกับตัวประกบแต่โดนไม่เต็มแฉลบล้นไปเสาสองซึ่งคูตินโญ่ยืนคนเดียวโล่งๆก่อนพักลงด้วยหน้าขาแล้วดีดยิงไซด์ก้อยนิ่มๆและแม้แม็คคาร์ธีย์จะพยายามสกัดบนเส้นแต่บอลเสยเพดานตาข่ายเข้าไป ท่ามกลางความงุนงงของแฟนบอลที่เงียบกริบเหมือนเจอผีหลอก ทีมเยือนนำแล้ว 1-0

เกมมันหยดเพราะอีก 3 นาทีต่อมาเอฟเวอร์ตันมาตีเสมออย่างรวดเร็วจากฟรีคิกระยะไกลที่ลูลู่ไปทำฟาว์ลแล้วเป็นเบนส์เปิดย้อยโด่งเข้าเขตโทษสเคอร์เทลโหม่งแย่งกับบาร์คลีย์ไม่ดีเพราะไปอยู่ข้างหลังบอลเลยหล่นตรงใกล้ๆเสาสองก่อนที่มิราลาสจะวิ่งมายิงตัดหน้าเจอร์ราร์ดที่พยายามบล็อกแต่ไม่ทันบอลตุงตาข่ายไม่เหลือ 1-1 แล้ว

นาที 12 หงส์แดงเกือบงานเข้าหลังเจอร์ราร์ดเสียบอลตรงกลางสนามแล้วพีนาร์แทงทะลุช่องให้ลูกากูหลุดเดี่ยวไปล่อเป้าแต่มิโญเลต์โชว์ความสุดยอดปรี่วิ่งออกมาล้มตัวบล็อกบอลไปโดนขาลูกากูจนออกหลังไป จังหวะนี้เสี่ยงมากเพราะพลาดนิดเดียวคือจุดโทษและใบแดงแน่ๆ

เอาอีกแล้วลิเวอร์พูลที่วันนี้ยังต่อเกมไม่ติดได้โอกาสที่ 2 ในเกมนี้ก็กลายเป็นประตูอีกในนาที 19 จากลูกฟรีคิก 25 หลาแล้วซัวเรซที่เป็นคนโดนทำฟาว์ลรับหน้าที่เองก่อนวิ่งมาปั่นไซด์ทะลุรูกำแพงแล้วเลี้ยวเบียดเสาเข้าไปสุดงาม คล้ายๆลูกที่เคยยิงใส่แมนฯซิตี้ที่แอนฟิลด์เมื่อฤดูกาลก่อน คุ้มค่าน้ำมันเครื่องบินที่ไปรับกลับมาจริงๆ หงส์นำ 2-1

อีกนาทีเดียวสเคอร์เทลเกือบทำงามหน้าหลังบาร์คลีย์ได้ปั่นยิงนอกเขตโทษแล้วดันไปผงกหัวหลบกลายเป็นหลอกมิโญเลต์ที่เสียจังหวะแต่ด้วยความเก่งกาจเลยพุ่งปัดมือเดียวไม่งั้นตุงตาข่ายแน่ๆเพราะบอลตกพื้นแล้วด้วย

นาที 26 เฮนโด้เสียบอลตรงกลางสนามเลยถูกเอฟเวอร์ตันสวนกลับมาด้วยลูกโด่งเป็นลูกากูโหม่งพักลงให้มิราลาสได้ลากเลื้อยทางขวาก่อนตัดแล้วยิงไกลนอกเขตโทษบอลพุ่งเสียวออกเสาไกลแบบได้ลุ้น

นาที 33 มิราลาสเข้าบอลน่าเกลียดไปยืนใส่หลังเข่าซัวเรซที่เข้าถึงบอลก่อนเล่นเอาเหยินลงไปนอนเกลือกกลิ้งเป็นปริสิสกันเลยทีเดียว จังหวะนี้ฟิล ดาว์นยังไม่ลงโทษเพราะเรียกแพทย์เข้ามาดูอาการ ทำให้นักเตะทั้งสองทีมยืนลุ้นอยู่ว่าจะเหลืองหรือแดง แต่สุดท้ายควักใบเหลืองมาจด พอเจอร์ราร์ดเห็นนี่เกากบาลเลย กล้องจับภาพไปที่ซัวเรซปรากฏขาเป็นรูมีเลือดซิบ แต่ยังฝืนเล่นต่อ โหดขิงๆ

ก่อนหมดเวลานาทีเดียว GJ ไม่รู้เมาอะไรมาจะเคลียร์ก็ไม่เคลียร์ม้วนเป็นม้าน้ำจนโดนตัดสุดท้ายลูกากูได้บอลทะลุช่องหลุดเข้าเขตโทษยังดีลูคัสวิ่งมาสกัดเตะทิ้งออกหลังไปก่อน สุดท้ายเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้เป็นลิเวอร์พูลบุกมานำ 2-1 แม้มีโอกาสน้อยกว่า

              กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังเกมคล้ายๆกับช่วงครึ่งแรกเป็นเอฟเวอร์ตันที่ชวนทะเลาะและพยายามใช้ลูกบอมบ์ให้ลูกากูป่วนส่วน"หงส์แดง"รอสวนแต่เหมือนจะบุกไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่เพราะซัวเรซสปีดช้าลงเนื่องจากขาเป็นรูและโดยดิสแต็งตามกระเด้าติดตลอด

นาที 53 GJ ไปทำเสียบอลจนโดนสวนกลับและเดเลเฟวตัวสำรองได้ลูกทะลุตั้งแต่กลางสนามก่อนวิ่งแซงแอกเกอร์ที่ช้ากว่าเห็นๆแต่มิโญเลต์ปรี่ออกมาจากเส้น 6 หลาเพื่อบีบมุมจนสุดท้ายเดเลเฟวยิงไปติดขารอดตายหวุดหวิด ตอนนี้ความเร็วของเดเลเฟวน่าจะเป็นตัวอันตรายจังหวะบุกแน่นอน

อีก 6 นาทีต่อมาลูกสุดช็อกเกิดขึ้นหลังซัวเรซเล่นลูกนัวเนียนหน้าประตูจัดดากไปทีบอลขลุกขลิกกระดอนเข้าเขตโทษเป็นอัลเลนที่สอดมาเก็บแล้วแปโล่งๆเดี่ยวๆกับฮาวเวิร์ดแต่เจ้ากรรมดันยิงออกเสาหน้าตาเฉย โคตรช็อก แม่ค้าขายผักแถวบ้านยังยิงเข้าเลยลูกนี้

นาที 64 ลิเวอร์พูลรอดพ้นการเสียประตูอีกครั้งหลังลูกากูได้บอลหลุดทะลุเข้าเขตโทษแล้วจังหวะนี้มิโญเลต์เหมือนจะออกช้าแต่ก็ยังปรี่ออกมากางแขนพองตัวเป็นอึ่งอ่างเซฟลูกยิงได้เหลือเชื่อ แนวรับทีมเยือนเริ่มกากแล้ว

อีก 6 นาทีต่อมาเกมรับทีมเยือนส่อชัดเจนหลังปล่อยให้บาร์คลีย์แทงทะลุช่องให้ลูกากูตัดหลังทั้งสเคอร์เทลและแอกเกอร์ที่ยืนคุมอยู่สองแท้ๆยังดีจังหวะกลับตัวยิงของหอกร่างถึกไปติดตรงตัวติดเซฟมิโญเลต์ที่ตามมาตระครุบจังหวะสองได้อีกที เล่นเหมือนรอโดน

นวดอยู่นานเอฟเวอร์ตันมาตีเสมอ 2-2 ได้ในที่สุดหลังฟรีคิกไกลของลูกากูไปฉลบร้อนถึงมิโญเลต์ต้องล้มตัวปัดทิ้งแต่มิราลาสมาเก็บตกแล้วบอลทำชิ่งตั้งกันมาใหม่อีกรอบและเป็นมิราลาสได้บอลหลุดทะลุไปถึงเส้นหลังก่อนปาดตั้งเข้ากลางให้ลูกากูแปเน้นๆเสียบมุมเข้าไปไม่เหลือ 2-2

ตอนนี้เกมโคตรมันดูเพลินทำไม่ทันนาที 78 เอฟเวอร์ตันสวนกลับบุกมา 3 รุม 2 แต่ลูกากูจ่ายไม่ดีเลยถูกโต้กลับอีกทีและเป็นเจอร์ราร์ดที่เปิดครอสจากขวาให้ซัวเรซวิ่งมาโขกเน้นๆ 5 หลาแต่ฮาวเวิร์ดซูเปอร์เซฟออกหลังเสียเตะมุม

นาที 82 เฮนโด้ของน้องหมิวโคตรเลอะเทอะทำเสียบอลตรงกลางสนามเลยถูกสวนร้อนถึงมิโญเลต์ต้องช่วยเซฟอีกครั้ง

แต่จังหวะต่อมาลูกเตะมุมกลายเป็นหายนะของทีมเยือนหลังลูกากูสลัดการประกบของ GJ ได้แล้วมาโขกตัดหน้าฟลานาแกนอีกคนบอลตุงตาข่ายเข้าไป
ไม่เหลือ 3-2

เกมทำท่าว่าจะจบลงที่สกอร์นี้แต่นาที 89 สเตอร์ริดจ์ตัวสำรองได้รำเซิ้งจากฟรีคิกเยื้องทางขวาเป็นเจอร์ราร์ดปั่นมาให้อดีตแข้งเชลซีสอดมาโขกที่เสาแรกก่อนใครบอลตุงตาข่ายไม่เหลือ 3-3

ช่วงทดเจ็บตอนนี้ทีมเยือนได้ใจและเกือบพลิกขึ้่นนำอีกครั้งหลังซัวเรซเปิดบอลจากปีกซ้ายให้โมเซสตัวสำรองอีกคนโผนขึ้นโขกตัดหน้าฮาวเวิร์ดตรงระยะ 6 หลาเสาแรกแต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

ตอนนี้ทั้งคู่ไม่ยอมเอาแต้มเดียวแล้วไม่งั้นคาใจและทดเจ็บนาทีที่ 2 ซัวเรซได้หลุดมาถึงหน้าเขตโทษเยื้องซ้ายแล้วเลือกยิงตามน้ำด้วยอีซ้ายบอลติดไซด์แต่ฮาวเวิร์ดปิดเสาไว้ดีปัดทิ้งเอาไว้ได้ แฟนเอฟโล่งใจเพราะช่วงท้ายหงส์ทำคะแนนจะแจ้งมากแต่สุดท้ายหมดเวลาเสมอกันหัวใจจะวาย 3-3 โดยเจ้าถิ่นขยับมาอยู่ที่ 5 แซงแมนฯยูไนเต็ดและรักษาสถิติไม่แพ้ในบ้านไว้ได้ต่อไปส่วน"หงส์แดง"มี 24 แต้มไม่พอสำหรับการแซงอาร์เซนอลขึ้นจ่าฝูง
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา