"เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผยองเดชด้วยลูกโต้กลับได้ประตูตั้งแต่ไก่โห่เลยจาก "โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้" แถมมีโชคจากลูกเปิดฟรีคิกของ "มาร์โก้ รอยส์" ปิดท้ายด้วยจุดโทษของดาวยิงโปแลนด์เหมาสองประตูพาทีมเปิดบ้านล้างแค้น "โอลิมปิค มาร์กเซย" ชิลๆ 3-0 เก็บสามแต้มแรกสบายแฮร์
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
สนาม ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค
วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2556
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-0 โอลิมปิค มาร์กเซย เปิดฉากเริ่มเกมมาในนาทีที่ 1 เริ่มเขี่ยมาดอร์ทมุนด์ ลุยก่อนทันทีและได้จบหนแรกจากจังหวะกองหลังมาร์กเซยเคลียร์มาตกที่มาร์โก้ รอยส์ ได้วอลเลย์แต่ยังกดไม่ลงข้ามคานไปไกล
นาที 6 มาอีกหนแล้วสำหรับดอร์ทมุนด์ และยังเป็นปีกตัวเก่งเลี้ยงหาช่องซัดไกลด้วยซ้ายแต่สตีฟ มองนองด้ายังพุ่งไปปัดที่เสาไกลได้เยี่ยม ตัดกลับมาเป็นมาร์กเซย เกือบได้ลูกจุดโทษจากจังหวะหลุดเดี่ยวของซาเบอร์ เคห์ลิฟา กองหน้าและโดนเอริค ดวร์ม กองหลังเจ้าบ้านวิ่งเบียดล้มลงไปแต่ผู้ตัดสินยังเฉย
นาที 19 ดอร์ทมุนด์ พิษสงร้ายกาจจริงๆรอจังหวะสวนกลับจากลูกฟรีคิกมาพรวดเดียวถึงรอยส์ทางซ้าย รอจังหวะก่อนปาดมาทางขวาให้เฮนริค มาฮิทาร์ยาน ชิ่งจังหวะเดียวให้เอริค ดวร์ม แบ็คซ้ายจับก่อนแปผ่านหน้ามองนองด้ามาให้โรเบิร์ตเลวานดอฟสกี้ ยิงเผาขนไม่ล้ำหน้าแท็บอินเข้าไปนิ่ม ดอร์ทมุนด์ออกนำ 1-0
นาที 21 หลังเสียประตู ทีมเยือนจากฝรั่งเศสได้ลุ้นทันทีจังหวะฟรีคิกระยะน่าลุ้นกลางประตู และเป็นมาติเยอ วัลบูเอน่า ตัวแสบเมื่อ 2 ปีก่อนปัดข้ามไปเสาแรกแต่มิตเชล ลังเจรัค นายทวารมือสองที่ลงแทนโรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ที่ติดโทษแบนพุ่งไปเซฟไว้ได้เยี่ยม
นาที 22 ไวจริงๆสำหรับเกมโต้กลับของดอร์ทมุนด์ จากจะเสียประตูสวนกลับมาเกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะที่รอยส์แทงทะลุให้เควิน โกรสส์ครอยซ์ทสอดขึ้นมาจ่ายเข้ากลางให้เลวานดี้ ยิงจ่อๆเหมือนลูกแรกแต่หนนี้มองนองด้าใช้ขาซ้ายบล็อคไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ! ยังไม่ได้ประตู2-0
นาที 42 รูปเกมดอร์ทมุนด์ไม่ได้เปรียบเรื่องเปอร์เซ็นต์ครองบอลแต่พวกเขายังจบได้น่ากลัวกว่า หนนี้หัวหอกโปแลนด์พลาดหวังไปอีกจากการโยนยาวจากกลางสนามของโกรสส์ครอยซ์ท มาให้มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์โหม่งตั้งมาให้เลวานดี้ทางเสาสองยิงเข้าไปแต่ไลน์แมน ยกธงล้ำหน้าฮุมเมิ่ลส์ไปก่อนแล้ว
จบครึ่งแรก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังมมีพิษสงในจังหวะโต้กลับได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ 20 นาทีแรกจากเลวานดอฟสกี้ และเป็นลูกเดียวให้ทีมนำโอลิมปิค มาร์กเซย 1-0
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังในนาที 52 รับไปเต็มๆในจังหวะนี้สำหรับนายด่านกัปตันทีมมาร์กเซย จากจังหวะที่มาร์โก้ รอยส์ เปิดฟรีคิกเข้าไปวัดดวงถึงกลางเขตโทษ ฮุมเมิ่ลส์ ขึ้นโขกแต่ไม่ถึงบอลมาตกตรงหน้ามองนองด้าแต่ดันกะเสียจังหวะรับพลาดปลิ้นข้ามเส้นประตูไป ดอร์ทมุนด์ หนีห่าง 2-0 เล่นสบายขึ้นแล้ว
นาที 57 เอริค ดวร์ม แบ็คซ้ายดาวรุ่งที่ประจำการแทนมาร์เซล ชเมลเซอร์ที่บาดเจ็บเกือบแจ้งเกิดเต็มตัวจากการสอดขึ้นมารับบอลของเลวานดอฟสกี้ก่อนเอี้ยวเจ้าเท้าขวาบรรจงปั่นไปเสาไกลแต่มองนองด้า ยังยอดเยี่ยมใช้เท้าเซฟออกไปได้
นาที 60 วันนี้ยังไม่มีโอกาสยิงเน้นๆกับเขาเลยสำหรับปิแอร์ แอเมอริค โอบาเมยอง หนแรกได้บอลหน้าเขตโทษก่อนตะบันด้วยขวาแต่เหินไป ถัดมาอีกนาทีมาฮิทาร์ยาน ได้ลุ้นบ้างใช้สปีดกระชากมาถึงกรอบเขตโทษด้านขวาแต่ยิงไม่ถนัดบอลข้ามคานไป
ช่วงครึ่งชัวโมงสุดท้าย ดอร์ทมุนด์ยังเปิดเกมบุกได้มากกว่าแม้จะครองบอลเป็นรองก็ตามแต่ด้วยสกอร์ที่นำอยู่ 2 ลูก ทำให้พวกเขาไม่กดดันมากนักก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนตัวคนแรกให้ "คูบ้า" ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี้ ลงมาแทนโอบาเมยองในาที 70
นาที 80 ปิดฉากอย่างสวยงามในเกมนี้ จากจังหวะที่รอยส์ แตะหนีกองหลังไปหนึ่งก่อนเจอเอ็นกูลูพุ่งสไลด์ร่วง ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกโทษและเลวานดี้ ขอรับหน้าที่ยิงเข้าไปกลางประตูนิ่มๆ ดอร์ทมุนด์ ยิงปิดกล่อง 3-0
จบเกม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แสดงพิษสงด้วยลูกโต้กลับได้ประตูแต่ต้นเกมจากโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้แถมมีโชคจากลูกเปิดฟรีคิกของมาร์โก้ รอยส์ ปิดท้ายด้วยจุดโทษของดาวิยงโปแลนด์เหมาสองประตู พาทีมเปิดบ้านล้างแค้นโอลิมปิค มาร์กเซย สบายแฮ 3-0 เก็บสามแต้มแรกได้สำเร็จ