เกมนี้ "อิสโก้" ได้โชว์ฟอร์มเฉิดฉายอีกครั้งหลังจากที่จัดการยิงคนเดียวสองประตูพร้อมอีกลูกของแข้งซุปตาร์จอมสับ "คริสติอาโน่ โรนัลโด้" ที่เริ่มนับหนึ่งแล้วช่วยกันจัดการ "แอธเลติก บิลเบา" ไป 3-1 ยังเก็บชัย 100 เปอร์เซนต์เต็มตั้งแต่เริ่มฤดูกาลมา
ฟุตบอลลาลีก้า
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาบิว
วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2556
เรอัล มาดริด 3-1 แอธเลติก บิลเบา เปิดฉากเกมช่วงแรกมา "บิลเบา" ได้ประเดิมโอกาสแรกทักทายกันก่อนจากอาร์เบลัวที่โหม่งไม่ค่อยดีไปเข้าทางของริโก้เข้าก่อนจะได้โอกาสสับไกฮาล์ฟวอลเล่ย์เลยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาของโลเปซยิงหลุดกรอบออกไปไกล
หลังจากนั้นก็มาเป็นโอกาสของดิ มาเรียได้สับไกบ้างจากบอลฝากมาให้กับของเคดิร่าก่อนเลือกกดจากหน้าเขตโทษแต่บอลก็ทำอันตรายกับแฮร์เรรินไม่ได้มากมายนักรับเอาไว้ได้แบบไร้ปัญหา
เข้านาที 23 ทางมาดริดมาได้ลุ้นเพิ่มขึ้นอีกจากบอลทิ้งออกมาทางซ้ายให้กับโรนัลโด้เจ้าเดิมค่อยๆเลี้ยงจี้แล้วตัดมาหน้าเขตโทษก่อนสับไกด้วยขวาจะเสียบเสาแรกแล้วแต่แฮร์เรรินก็ยังล้มตัวปัดทิ้งไปได้
แล้วทาง"ราชัน"ก็ได้ประตูออกนำไปเรียบร้อยจากบอลฝากให้กับเบนเซม่าทางขวาลากมาตรงกลางก่อนจะยกบอลข้ามแผงแนวรับที่เช็คไลน์ไม่ดีเจออิสโก้หลุดไปรับบอลก่อนจะยิงผ่านมือแฮร์เรรินเข้าไป มาดริดทะยานออกนำ 1-0
เกือบไปเหมือนกันสำหรับบิลเบามาได้ลุ้นจากฟรีคิกบนเส้นเขตโทษเยื้องมาทางซ้ายหน่อยนึงก่อนจะเป็นเบนญาทรับหน้าที่สังหารวิ่งมากดเต็มเท้าเลยแต่น่าเสียดายบอลยังปลิ้นหลุดกรอบออกหลัง
เข้านาที 38 แล้วเกมของมาดริดมาได้ลุ้นอีกกับจังหวะนี้จากดิ มาเรียไปตัดบอลได้ในแดนของบิลเบาก่อนพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษตามด้วยแต่งเข้าซ้ายก่อนสับไกก็ยังหลุดกรอบออกไปอีก
เกมบุกของมาดริดมาอีกแล้วหนนี้โต้กลับบ้างบอลวางยาวออกไปทางขวาสุดให้กับดิ มาเรียบอลแรงจนต้องวิ่งไปเก็บก่อนวนเข้าซ้ายแล้วเปิดในเขตโทษถึงหัวของเบนเซม่าโถมมาโขกน่าเสียดายยังโหม่งหลุดคานออกไปอีก
ก่อนหมดครึ่งแรกก็บวกเพิ่มไปอีกตุงจากลูกฟรีคิกทางขวารับหน้าที่เปิดโดยดิ มาเรียบอลยาวเข้าเขตโทษแล้วนักเตะมาดริดหลุดไลน์แนวรับบิลเบามาเป็นแผงก่อนจบที่โรนัลโด้โหม่งย้อนไปอีกทางไม่เหลือ มาดริดปิดครึงด้วยการนำ 2-0
เข้าสู่ช่วงหลังของเกมกลับมาเล่นกันต่อ "บิลเบา" เองก็ดูดีขึ้นแต่มาดริดยังดูบุกได้น่ากลัวกว่าจากจังหวะนี้ที่ลากผ่านกูร์เปกีมาได้ก่อนจะตัดเข้าในเหมือนเดิมมีดิ มาเรียรอข้างในแต่ก็เลือกขอยิงเองสุดท้ายก็สับไกติดบล็อก
หนนี้บิลเบาได้จบใกล้เคียงประตูหน่อยจากลูกเตะมุมทางขวาเปิดเข้ามาก่อนจบด้วยการโขกของลาปอร์เต้ที่สอดเข้ามาโหม่งเต็มหัวแต่ยังไหมไหวบอลปลิ้นหลุดกรอบออกไป
นาที 65 ทางบิลเบาต้องเปลี่ยนตัวโควต้าสุดท้ายลงมาแล้วหลังมูเนียอินโดนปะทะไปทีแล้วสุดท้ายก็ทำท่าเล่นต่อไม่ไหวแต่น่าจะไม่มากนักยังเดินออกเองได้ก่อนอิไบ โกเมซลงสนามมาแทนที่
เกือบมีประตูที่สองของโรนัลโด้แล้วจากฟรีคิกระยะราวๆ 25 หลาเกือบลางประตูกำแพงมายืนรอเพียบก่อนโรนัลโด้เจ้าเก่ารับหน้าที่สังหารวิ่งมากดเต็มเท้าแต่เลือกกดเรียดเข้ามาแทนบอลติดส่ายด้วยแต่แฮร์เรรินยังทุบออกไปได้อยู่
แล้วนาที 72 "ราชัน"ได้เฮอีกระลอกจากบอลโต้ขึ้นมาทางซ้ายที่โรนัลโด้เลือกแทงเข้าเขตโทษฝากให้กับเบนเซม่าวิ่งมารับแล้วพลิกหาประตูไม่ได้ก่อนตักมาตรงกลางหน้าเขตโทษอิสโก้สอดมารับบอลแล้วยิงแฉลบแนวรับบิลเบาเปลี่ยนทางทำแฮร์เรรินหลงเซฟไม่ทันกลายเป็นราชันนำห่างไปอีก 3-0
เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายเกือบมีอีกตุงแล้วจากบอลของดิ มาเรียพาบอลขึ้นมาตรงกลางก่อนจะไหลเข้าเขตโทษให้โรนัลโด้จับแล้วล็อกหนีตัวประกบจนมีช่องสับไกก็ยิงทันทีแต่เจอแฮร์เรรินเซฟไว้ได้ตัวจะมาซ้ำก็ทำฟาวล์ซะอีก
การจ่ายบอลของอิสโก้ยอดเยี่ยมเช่นเคยกับจังหวะนี้ที่เขาพาบอลตัดมาหน้าเขตโทษก่อนดีดด้วยขวาให้เฆเซ่วิ่งสอดเข้าไปรับบอลก่อนเลือกยิงมุมแคบแต่มุมมันตีบจริงเข้าเพียงแค่ข้างตาข่าย
แล้วนาที 78 บิลเบาก็ไล่ตามมาห่างๆจนได้จากบอลจ่ายตัดแนวรับให้กับอาดูริซหลุดเข้าเขตโทษมาทางขวาสุดเส้นหลังหักเข้ามาซูซาเอต้าพยายามยิงที่เสาแรกแล้วก่อนจะวืดแต่ยังกลายเป็นดีไหลมาเข้าทางโกเมซวิ่งมากดเต็มข้อไม่เหลือบิลเบาตามมา 3-1
ท้ายเกมเกือบเป็น"ราชัน"ที่ได้อีกลูกฝังบิลเบาแล้วจากบอลเตะมุมเข้ามาแล้วบอลโดนโหม่งจากตรงกลางลอยโด่งก่อนก่อนหลุดมาถึงเฆเซ่ที่ยืนอยู่ทางขวายิงติดไซด์ก้อยน่าเสียดายบอลเลี้ยวโค้งหลุดกรอบ
จบเกมเรอัล มาดริดเก็บชัยต่อเนื่องเป็นนัดที่ 3 เอาชนะบิลเบา 3-1 ทำให้ยังเป็นจ่าฝูงรวมๆกันไปมี 9 คะแนนเท่ากับบีญาร์เรอัลซึ่งจะเจอกันเองนัดหน้าด้วย ส่วนบิลเบาปราชัยเป็นเกมแรกของซีซั่น