เรียกว่าออกตัวแรงจนลากล้อเลยทีเดียวสำหรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายเปิดบ้านไล่กระซวก "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แบบไร้ปราณี 4-0 โดยได้ประตูจาก "ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่, ยาย่า ตูเร่และซาเมียร์ นาสรี่" ทำให้แซงหน้าอริร่วมเมืองอย่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปยึดจ่าฝูงหลังจบสัปดาห์แรก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2556
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงแรกได้ 6 นาที "เรือใบสีฟ้า" ได้ประตูนำก่อนตั้งแต่ไก่โห่เลยเมื่อเชโก้ลากบอลหนีเดอบูชี่เข้าไปสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนจ่ายเข้ากลางบอลไปโดนเทย์เลอร์เปลี่ยนทางมาซิลบาได้โขกตรงกลางประตูบอลผ่านมือของครูลเข้าไป
นาทีที่ 10 นิวคาสเซิ่ลนึกว่าได้ประตูตีเสมอแล้วเมื่อเบน อาร์กฟาได้บอลลากหนีแผงหลังของเจ้าถิ่นก่อนแทงไปให้กูร์ฟฟรองอัดตูมเดียวผ่านฮาร์ทเข้าไปแต่ดาวยิงฝรั่งเศสล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
แฟนเจ้าถิ่นร้องเสียงหลงจะเอาจุดโทษให้ทีมในจังหวะที่เชโก้แทงบอลทะลุไปให้ยาย่า ตูเร่ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนโดนเดอบูชี่เบียดล้มลงจากด้านหลังแต่อังเดร มาร์ริเนอร์ใจแข็งไม่ยอมเป่าเป็นจุดโทษ
เจ้าบ้านยังเดินเครื่องต่อเนื่องแฟร์นานดินโญ่ไปเสียบบอลมาได้จากเดอบูชี่ก่อนที่บอลกระฉอกมาเข้าเท้าของเชโก้ได้ลากบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนสับขาแล้วยิงไปทางเสาไกลแต่บอลบานออกไป
นาทีที่ 21 กอมปานีตัดบอลได้จากซิสเซ่ในแดนของตัวเองก่อนจ่ายมาให้เชโก้ชิ่งเร็วด้วยส้นเท้าไปให้อเกวโร่ลากบอลไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วสับด้วยขวาย้อนศรไปทางเสาไกลบอลพุ่งหนีมือครูลไปเข้ามุมประตูซ้ายมือแบบสุดเฉียบขาด
ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงแรกเกมเริ่มแรงเมื่อเชโก้กับเอ็มบีว่าปะทะกันตรงมุมธงด้านขวาก่อนลุกขึ้นผลักกันไปมาทำให้โดนใบเหลืองไปสงบสติทั้งสองคนก่อนที่แฟร์นานตินโญ่จะมาโดนไข้เหลืองไปอีกรายในจังหวะตัดเกมสวนกลับส่วนซิสเซ่ก็โดนไปอีกรายจากจังหวะไปเตะกุน
"เรือใบสีฟ้า"พลาดโอกาสงามอีกแล้วเมื่อตัดบอลได้ในแดนของนิวคาสเซิ่ลแฟร์นานดินโญ่ไหลบอลไปให้เชโก้ในกรอบเขตโทษด้านขวาโล่งๆแต่ดาวยิงบอสเนียดันลื่นล้มไปเองทำให้อดยิงเลย
ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาทีอลัน พาร์ดิวจำเป็นต้องเปลี่ยนเวอร์น่อน อนิต้าลงสนามหลังจากโฮนาส กูเตียร์เรซมีอาการบาดเจ็บแฮมสตริงทำให้ไม่สามารถฝืนเล่นต่อไปได้
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ"เรือใบสีฟ้า"อดได้ลูกโทษอย่างน่าเสียดายเมื่อกุนเตะบอลไปโดนแขนของเทย์เลอร์แบบเต็มๆทว่ามาร์ริเนอร์ยังนกหวีดหวานไม่ยอมเป่าให้เป็นการฟาวล์
ไปใหญ่แล้วจริงๆเมื่อเทย์เลอร์ที่เพิ่งรอดตัวไม่ทำให้ทีมเสียจุดโทษมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปเลยเมื่อเจตนาใช้แขนไปฟาดใส่หัวของกุนทำให้ดาวยิงอาร์เจนไตน์ลงไปนอนกองกับพื้นก่อนโดนมาร์ริเนอร์แจกใบแดงลงโทษแบบสมควร
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังเพียงไม่นาน "ซิตี้" พลาดได้ประตูแบบสุดเหลือเชื่อเมื่อกุนได้บอลหลอกกองหลังของนิวคาสเซิ่ลไปเปิดในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วเปิดมาเข้าหัวของเชโก้ได้โขกเต็มหัวทว่าครูลผวามาจากเสาแรกปัดได้เฉยเลย
แต่แล้วอีกไม่กี่อึดใจต่อมาคราวนี้ครูลก็ช่วยไม่ได้แล้วเมื่อยาย่า ตูเร่ได้กดฟรีคิกระยะเพียง 20 หลาด้านซ้ายของเขตโทษบอลผ่านกำแพงก่อนพุ่งเข้าไปทางเสาแรกแบบสุดงามโดยครั้งนี้จอมหนึบดัตช์บินมาปัดไม่ทัน
"เรือใบสีฟ้า"ยังไม่ยอมผ่อนเครื่องง่ายๆคราวนี้เดินเกมบุกมาด้านขวานาบาสได้หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนตบย้อนกลับมาตรงเสาสองให้กลีชี่ที่ยืนโล่งๆได้ยิงด้วยซ้ายแต่บอลไปโดนเดอบูชี่กระดอนออกหลังไป
นาทีที่ 63 ครูลต้องออกแรงไปพุ่งเซฟอีกครั้งจากจังหวะที่เชโก้ลากบอลไปมาหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนหาจังหวะยิงด้วยขวาอย่างแรงไปที่เสาแรกแต่นายด่านฮอลแลนด์ยังไวพุ่งมาเซฟมือเดียวออกหลังไป
สาวกซิตี้ต้องกลับไปลุ้นข่าวต่อหลังกอมปานีทุ่มเทเกินเหตุพยายามพุ่งไปสไลด์บอลจังหวะที่ไม่น่ามีอะไรก่อนจะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทำให้ต้องเปลี่ยนฆาบี การ์เซียลงสนามมาแทน
เกมมาถึงนาทีที่ 75 กองหลังนิวคาสเซิ่ลพลาดอีกแล้วเมื่อปล่อยบอลให้หลุดมาถึงนาสรี่ที่วิ่งแซงเดอบูชี่มาหาบอลได้ก่อนลากเข้าไปล่อเป้าครูลแล้วอัดด้วยซ้ายไม่มีพลาด
นาทีที่ 80 เปเญกรินี่เปิดโอกาสส่งเนเกรโด้ลงสนามมาประเดิมพรีเมียร์ลีกนัดแรกหลังย้ายมาจากเซบีญ่าเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาโดยเขาได้ลงมาจับคู่กับเชโก้ในแดนหน้า
อัลบาโร่ เนเกรโด้พลาดมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดในเกมแรกเฉยเลยเมื่อส่งบอลเข้าประตูไปแล้วจากจังหวะเตะมุมด้านซ้ายแต่ไลน์แมนดันยกธงล้ำหน้าเฉยทั้งที่ภาพช้าแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาอยู่หลังไลน์หลายช่วงตัวด้วยกัน
ท้ายที่สุดแล้ว"เรือใบสีฟ้า"ก็ปิดเกมไปได้โดยไม่ได้ประตูเพิ่มแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงแทนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจากลูกได้เสียที่ดีกว่า