ผู้เขียน หัวข้อ: "เรือใบ" เฉือนระทึก~!! พิชิตชัยเหนือ "สิงห์บลูส์" 2-1 ลิ่วชิงเอฟเอ  (อ่าน 557 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

เป็นเกมระดับห้าดาวที่สมศักดิ์ศรีกันเสียจริง เพราะผลัดกันรุกรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้นำห่าง 2-0 ก่อนก็จริงแต่เชลซีฮึดสู้ยิงตีไข่แตกแถมกดดันช่วงท้ายบีบหัวใจสุดๆ แต่สุดท้ายจบเกม "เรือใบ" ก็ยันเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 เข้าไปชิงชนะเลิศกับวีแกนที่รออยู่แล้ว



เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2556
เชลซี 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม เวมบลีย์ สเตเดี๊ยม

              เปิดฉากเริ่มเกมมาได้ 5 นาที "เรือใบสีฟ้า" เล่นแบบไม่ต้องให้เชลซีเตรียมใจอะไรทั้งนั้น พวกเขาบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมามีจังหวะลุ้นเสียวสุดๆจากลูกเตะมุมที่แม้ว่ายาย่าจะจิ้มมาแบบเบาๆ แต่บอลมันหลุดเลยไปถึงอเกวโร่ที่ได้พลิกจิ้มบอลจ่อๆหน้าประตู แต่เช็กล้มตัวปัดทิ้งไปได้หน้าตาเฉยเลย

นาทีที่ 11 อะไรจะเหนียวขนาดนี้สำหรับเช็ก เมื่อเตเบซโชว์การเบิ้ลบอลกับแบร์รี่ ก่อนที่เขาจะทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา แม้มุมจะแคบแต่ก็ซัดบอลมุมแคบหลอกยิงไปเลย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ผ่านมือของเช็กที่อ่านขาดล้มตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้

นาทีที่ 17 โดนหลอกซะเต็มรักเลยสำหรับซาบาเลต้าในจังหวะนี้ที่เขาพยายามจะเข้าสกัดออสการ์แต่กลายเป็นโดนยอดดาวรุ่งบราซิเลี่ยนแตะบอลลอดขาไปเฉยเลยต้องใช้วิธีทำฟาวล์ดื้อๆ โชคดีที่ไม่โดนจดชื่อจากจังหวะนี้

นาทีที่ 23 หลังโดนกดอยู่นานเชลซีก็เกือบจะมาทำประตูคืนได้แบบจังๆเลยกับจังหวะที่พวกเขาโยนบอลเข้ากลางแล้วปันติลิมงออกมาไม่เจอบอล เลยกลายเป็นอาซาร์ที่เก็บตกแถวสองหวดบอลเด้งโด่งข้ามทุกคนกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่มีกอมปานียืนคุมเส้นอยู่ โหม่งทิ้งสกัดออกมาได้ทัน

เข้าครึ่งชั่วโมง เป็นเกมที่ไม่มีใครยอมใครเลยแม้แต่จังหวะเดียวทั้งสองฝ่ายมีทั้งเกมรุกที่ดูดุดันและก็เกมรับก็เหนียวแน่นไม่ยอมเสียง่ายๆ นับว่าสนุกสมใจแฟนบอลเลยทีเดียว แต่ถ้ามีประตูแรกมาด้วยคงจะมันส์กว่านี้

นาทีที่ 35 แมนเชสเตอร์ ซิตี้บุกจนได้ดีขึ้นนำไปก่อนจนได้แล้วจากจังหวะที่ต้องชมการลุยของยาย่าซึ่งเขาลากจี้ในกองหลังจนถอยร่น ก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้อเกวโร่ชิ่งต่อนาสรี่ซึ่งเขาพยายามจะป้ายกลับคืนให้เอล กุน แต่กลายเป็นติดบล็อกของอัซปิลิกวยต้าแล้วบอลมาตกตั้งตรงหน้าเลยจัดการตะบันเต็มๆผ่านมือของเช็กที่สุดปัญญาจะรับเข้าไป แมนฯซิตี้ชิงความได้เปรียบนำก่อนด้วยสกอร์ 1-0

เห็นอาการแล้วถ้าครึ่งแรกโดนแค่หนึ่งลูกนี่ถือว่าดีสุดๆเลยสำหรับเชลซี เพราะเกือบจะโดนหนุงอีกเม็ด ยังดีที่เช็กเซฟจังหวะแรกได้ แล้วพอโดนซ้ำบอลก็ไปติดพวกเดียวกันเองซะก่อนที่จะเข้ามือเช็กไป ไม่งั้นล่ะเสียวจริงๆว่าจะโดนนำห่าง

ถือว่าส่งท้ายก่อนจบครึ่งแรกไปเลยสำหรับใบเหลืองนี้ที่อาจจะมีส่วนสำคัญในภายหลัง เมื่อยาย่าไปเตะแบบดื้อๆจากข้างหลังใส่โอบี มิเกลที่กำลังจะทำเกมสวนกลับ ผู้ตัดสินจดชื่อทันที ทำให้มิดฟิลด์ตัวกลางของ "เรือใบ" โดนใบเหลืองทั้งคู่ เพราะแบร์รี่โดนมาก่อนหน้านี้แล้ว

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากจังหวะที่พลาดกันเองเกมรุกของเชลซีเกือบจะทำให้แมนฯซิตี้ได้อีกประตู แต่เปิดเข้าทำกันไม่ดี แถมจังหวะซ้ำของกอมปานีก็หลุดไปไกล เลยรอดไป ทำให้จบ 45 นาทีแรก แมนฯซิตี้นำอยู่แค่ 1-0 มีโอกาสเหมือนกันสำหรับเชลซีที่จะแก้ตัวกลับมาให้ได้

             ลงสนามมาเล่นกันต่อในช่วงหลังแค่ 2 นาทีเท่านั้น "ซิตี้" ก็ได้ประตูนำห่างออกไปเป็น 2-0 เลย จากการที่แมนฯซิตี้ตักบอลเข้าไปในเขตโทษ แล้วอเกวโร่ขยับฉีกหาช่องก่อนจะเทคตัวขึ้นโขกในตอนที่กองหลังของเชลซีเหมือนงงชีวิตไม่รู้จะประกบใคร บอลโด่งย้อยไปเสียบเสาสอง เช็กได้แต่ยืนและมองอย่างทอดถอนใจ "เรือใบ" ทิ้ง 2-0 เลย

โดนนำ 2-0 แบบนี้ไม่มีทางอื่นเลยสำหรับเชลซีนอกจากต้องพยายามทำเกมบุกเท่านั้น ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะคิดถึงเกมที่เคยโดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนำห่าง 2-0 แล้วกลับมาตีเสมอจนสุดท้ายผ่านเข้ามาเล่นในรอบนี้ก็เป็นได้

ผ่านหนึ่งชั่วโมงกว่าๆไปนี่เชลซีมีโอกาสพาบอลขึ้นไปหน้าเหมือนกัน เพียงแต่พวกเขาไม่สามารถหาโอกาสเหมาะๆทำประตูได้ เหมือนไม่เด็ดขาดกันด้วย อย่างจังหวะของรามิเรสที่โหม่งก็เบาหวิว

นาทีที่ 66 เพิ่งเปลี่ยนตอร์เรสลงมา กลายเป็นว่าเชลซีได้ประตูตีไข่แตกเลย เมื่อพวกเขาโดนบอลยาวไปถึงหน้าเขตโทษ เป็นบาที่ฉวยโอกาสจากการที่กองหลังแมนฯซิตี้เข้าช้า แต่งบอลก่อนหนึ่งจังหวะแล้วตีลังกาตวัดยิงทันที บอลพุ่งไปเช็ดเสาไกลเสียบเข้าตาข่ายอะไรจะสวยปานนี้ เชลซีมาแล้วเป็น 2-1

ตอนนี้สับมาเป็นทางแมนฯซิตี้ป่วนบ้างแล้ว เพราะเชลซีคึกเต็มที่โหมเกมรุกใส่ไม่หยุดยั้งจนเกือบจะได้ประตูตีเสมอ 2 ครั้ง ตอนแรกเป็นมาต้าที่เก้บบอลซึ่งนาสตาซิสสกัดไม่ดีมาแต่โดนปันติลิมงบล็อกเอาไว้ก่อนที่จะเป็นบาเบียดกับกองหลังหวดบอลที่เสาแรกได้ แต่ก็ติดเซฟไปอีกครั้ง

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายนี่เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากจริงๆสำหรับการเตะของทั้งสองทีมที่สามารถจะพลิกได้ทั้งสองฝ่ายและแลกกันอยู่ตลอด ประตูต่อไปนี่จะเป็นตัวตัดสินเลยก็ว่าได้ ถ้าหากมีขึ้นจริงๆ

ถ้าผู้ตัดสินเห็นนี่อาจจะแดงได้เลยสำหรับจังหวะนี้ของอเกวโร่ที่ปะทะกับลูอีซก่อนจะล้มลงไปพร้อมกันแล้วเหมือนเจ้าตัวจะมีน้ำโห ก่อนล้มเลยจัดการเหยียดสตั๊ดย่ำใส่บั้นท้ายของปราการหลังเชลซีแบบเฉือนๆ แต่ก็รอดตัวไป

นาทีที่ 87 พลาดโอกาสทองไปเลยสำหรับตอร์เรส เมื่อมาต้าจ่ายบอลข้ามไปให้เข้าทะลุถึงเขตโทษได้แล้ว แถมเหลี่ยมบอลยังดีกว่า แต่เขาโดนดึงเสื้อจากกอมปานีที่แทบจะเอามาเช็ดปากกันได้อยู่แล้วจนพลาดโอกาสซัดไป เจ้าตัวหันไปโวยใส่ผู้ตัดสินใหญ่ แต่ก็ไร้ผล

ช่วงทดเวลานี่บีบหัวใจสุดๆ แต่สุดท้ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็รักษาสกอร์ที่พวกเขามีเอาไว้ได้ จบเกมเอาชนะไป 2-1 ผ่านเข้าไปเจอกับวีแกนในรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพที่จะเตะกันในวันที่ 11 พฤษภาคมได้สำเร็จ
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา