"ปืนโต" อาร์เซนอล เกมนี้เรียกได้ว่าเป็นการกู้ศรัทธาคืนจากแฟนบอลจากเกมนัดแรก โดยบุกมายิง "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ชนิดเสียอาการคาบ้านตัวเอง 2-0 แม้ว่าจะไม่เพียงพอเพราะตกรอบไปด้วยกฏอเวย์โกลจากสกอร์รวม 3-3 แต่ก็ต้องยกนิ้วให้หัวใจของพวกเขาเลย ส่วน "เสือใต้" เข้ารอบ 8 ทีมแบบกร่อยๆ
ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง
วันพุธที่ 13 มีนาคม 2556
บาเยิร์น มิวนิค 0 - 2 อาร์เซนอล
สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า เปิดฉากเริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาทีเท่านั้น "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลทำได้อย่างที่ตั้งเป้าด้วยการทำเกมสวนกลับจนบาเยิร์น มิวนิคไม่ทันระวังตั้งตัวปล่อยให้บอลหลุดไปถึงวัลค็อตต์ทางด้านขวา ก่อนที่จะเหลือบเห็นเพื่อนวิ่งเติมขึ้นมาตรงกลาง เลยจัดการเปิดอัดลอดดากของดานเต้เข้าไปจนถึงชิรูด์ที่พุ่งเข้าแท็ป-อินเน้นๆไม่มีเหลือ อาร์เซนอลขึ้นนำเร็ว 1-0 มีความหวังขึ้นมาทันตาแน่นอนอยู่แล้ว
โดนนำก่อนเร็วแบบนี้ถ้าเป็นทีมอื่นอาจจะเกิดอาการรวนแล้ว แต่บาเยิร์นยังคงไว้ลายนิ่งได้อยู่ ค่อยๆปั้นเกมของพวกเขาขยับรุกไล่ขึ้นมาใส่อาร์เซนอล จนกลายเป็นทีมดังแดนลอนดอนที่แม้ว่าจะได้ประตูนำเร็ว แต่ก็มีลูกลนให้เห็น ออกบอลกันผิดพลาดขาดเกินเยอะ
เกมกำลังจะเข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมง ตอนนี้เป็นบาเยิร์น มิวนิคฝ่ายเดียวที่เดินหน้าครองบอลบุกใส่อาร์เซนอล เกมพวกเขาค่อยๆเนียนขึ้นตามลำดับและกดให้ "ปืนใหญ่" ห่างไกลจากการบุกมากขึ้นไปเรื่อยอีก เล่นแบบนี้ถ้าอาร์เซนอลโดนลูกเดียวมาล่ะก็อาจจะถึงกับเหนื่อยถอดใจเลยก็ได้
นาทีที่ 31 ถ้าทำได้เหมือนเดิมล่ะเฮไปแล้วแต่จังหวะนี้มันห่างไปหน่อย เมื่อวัลค็อตต์ลากบอลขึ้นทางด้านขวา ก่อนเห็นว่าแนวรับของบาเยิร์นยืนกันไม่เป๊ะ เลยครอสบอลขวางตัดหน้าไปหวังให้ถึงชิรูด์ที่เติมขึ้นมาแล้วแต่จังหวะมันไม่ทันกัน บอลหลุดเลยไม่ได้ลุ้นเหมือนตอนแรกที่จังหวะได้กว่านี้
นาทีที่ 38 หลังจากมีจังหวะได้หายใจหายคอขยับเพิ่มขึ้นมาบ้างสำหรับอาร์เซนอล แต่ทำท่าว่าพวกเขาอาจจะต้องเสียชิรูด์ที่ทำประตูแรกในรอบ 7 เกมให้กับทีม จากจังหวะที่จ่ายบอลไปให้เพื่อนแล้วฟาน บุยเต็นเข้าช้าโดยที่ขาโดนปะทะทั้งที่ติดอยู่กับพื้นสนามจนลงไปนอนดิ้น แต่หลังจากปฐมพยาบาลสักหน่อยก็กลับมาเตะต่อได้ รอดตัวไป
แม้ว่าส่วนใหญ่จะเห็นโรซิคกี้ไม่ค่อยได้โชว์ฟอร์มเก่งของเขาที่ผ่านจุดพีคมาแล้วสักเท่าไหร่ในลีก แต่ดูเหมือนพอได้กลับมาเตะในเยอรมันอดีตถิ่นเก่าที่เขาค้าแข้งกับดอร์ทมุนด์มาก่อนนั้น ดูโรซิคกี้จะทำได้ดีทีเดียวกับจังหวะครองบอลที่เหนียวแน่นและต่อบอลทำเกมให้เพื่อนได้
เข้าช่วง 5 นาทีสุดท้าย ถ้าจะสังเกตให้ดีแม้ว่าบาเยิร์นจะมีจังหวะครองบอลบุกอยู่พักใหญ่ๆก็ตาม แต่ผู้เล่นตัวหลักในแนวรุกของพวกเขากลับไม่ได้มีส่วนร่วมต่อเกมเลย ไม่ว่าจะเป็นร็อบเบนหรือว่าโครสก็ตาม
จบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอลมีฮึดขึ้นมาหน่อยกับการที่พวกเขานำอยู่ 1-0 ในขณะนี้ ถ้าหากว่าครึ่งหลังเล่นกันให้แน่นๆแล้วสวนกลับให้มีประสิทธิภาพหน่อยก็น่าลุ้นล่ะ ส่วนบาเยิร์นนี่คงต้องปรับแนวรุกให้เล่นได้มีมิติมากกว่านี้และต้องให้ตัวเจ๋งๆอย่างร็อบเบนและโครสมีส่วนร่วมให้มากขึ้นด้วย
ลงสนามมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง "พี่เสือ" บาเยิร์นลุยเต็มที่ตั้งแต่นาทีแรกที่ลงสนามเลย เพราะพวกเขาเองก็รู้ว่าการทำประตูเอาคืนให้ได้เร็วๆนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของนักเตะอาร์เซนอลโดยตรง
เกมกำลังจะเข้าสู่หนึ่งชั่วโมงเต็ม รู้สึกว่าจะรับเยอะไปสักหน่อยแล้วสำหรับอาร์เซนอล ทำให้เวนเกอร์ต้องเดินออกมาสั่งการและกระตุ้นที่ข้างสนาม เพราะไม่อย่างนั้นพลาดท่ามาเดี๋ยวจะกลับมาได้ยากอีก
นาทีที่ 61 ต้องตามปัดกวาดงานให้น้องซะอย่างนั้นเลยสำหรับโรซิคกี้ที่ยอมเสียใบเหลืองจากจังหวะที่ร็อบเบนกำลังจะทำเกมสวนกลับเร็วเพราะแรมซี่ย์ไปพลาดเสียบอล แถมเจนกินสันก็เติมขึ้นไปสูงแล้วด้วย ทำให้โรซิคกี้ต้องรวบตัดแข้งดัตช์ดื้อๆก่อนรับใบเหลืองไป
อีก 3 นาทีต่อมา ได้ลุ้นจริงๆสำหรับจังหวะนี้ของบาเยิร์น มิวนิคที่กุสตาโวได้รับบอลจากเพื่อนนอกกรอบเขตโทษ ตำแหน่งและระยะได้ลุ้น พี่แกเลยจัดการเอียงตัวปั่นบอลอ้อมกองหลังก่ะให้พุ่งเข้าไปเสียบเสาไกลซะ แต่บอลมันเลี้ยวไม่พอเลยหลุดออกหลังไป
นาทีที่ 68 นึกว่าจะโดนซะแล้วสำหรับอาร์เวนอลในจังหวะที่อยู่ดีๆร็อบแบนก็ได้หลุดเดี่ยวลากยาวเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะยิงดีดด้วยซ้ายพยายามจะหนีมือฟาเบียงสกี้แต่ก็ถูกปัดเซฟเอาไว้ได้ ซึ่งจริงๆจังหวะนี้ต้องชมเจนกินสันด้วยที่สไลด์พุ่งบีบเข้ามาทำให้แข้งดัตช์ต้องพยายามยิงเร็ว
นาทีที่ 73 มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นกันทั้งสองทีม โดยอาร์เซนอลจัดสองตัวส่งทั้งแชมเบอร์เลนและแชร์วินโญ่ลงสนาม ก่อนจะถอดเอาแรมซี่ย์และวัลค็อตต์ออก ส่วนบาเยิร์นก็ให้โกเมซลงไปเล่นแทนมันด์ซูกิซ
อีกหนึ่งนาทีต่อมา ก็ไม่รู้ว่าพี่แกจะโมโหกรรมการทำไมสำหรับชิรูด์ที่ขึ้นโหม่งแล้วบอลไปโดนมือของเขา กรรมการเลยเป่าเป็นลูกตั้งเตะ แต่ชิรูด์กลับไปเตะบอลหวดออกข้างสนามระบายอารมณ์ เลยโดนใบเหลืองแบบไม่น่าโดนไปเลย
นาทีที่ 79 เกือบไปแล๊ววว สำหรับจังหวะนี้ของแชร์วินโญ่ที่เพิ่งลงสนามไปเล่นชิ่งกับเพื่อนแล้ว ก่อนที่จะหมุนพลิกตัวในเขตโทษ หลุดเข้าไปประจันหน้ากับนอยเออร์ได้ แต่จังหวะยิงนั้นต้องจิ้มฝืนๆเพราะโดนบีบ บอลหลุดไปได้จริง แต่ก็ค่อยๆกลิ้งผ่านหน้าประตูไปซะงั้น
นาทีที่ 86 เอาแล้ว ไม่รู้ว่าทันไหมแต่ได้ลุ้นแน่นอนสำหรับอาร์เซนอลที่ตอนนี้ทำประตูที่ 2 ไล่ตามมาแล้ว จากจังหวะเตะมุมที่กอสเซียลนี่ขึ้นไปเล่นเทคตัวได้โขกยัดไปเสาแรกตุงตาข่าย อาร์เซนอลขยับ 2-0 ขออีกแค่ลูกเดียวพวกเขาก็จะพลิกสุดตีนเข้ารอบไปได้เลย แม้ว่าจังหวะนี้เข้าจะโดนใบเบหลืองจากการไปมีเรื่องมีราวกับนักเตะบาเยิร์นที่พยายามถ่วงเวลาไม่ให้เอาบอลไปเล่นเร็ว
ช่วงเวลาที่เหลือแม้ว่าอาร์เซนอลจะพยายามลุ้น แต่บาเยิร์นก็ยื้อเอาไว้ได้จนกระทั่งจบเกม 90 นาที แม้อาร์เซนอลจะบุกมาเอาชนะได้ถึง 2-0 แต่พวกเขาก็ต้องตกรอบไปด้วยกฏอเวย์โกลจากสกอร์รวม 3-3 ทำให้ "เสือใต้" ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป แม้ว่านี่จะเป็นเกมแรกที่พวกเขาพ่ายแพ้ในบ้านสำหรับแชมป์เปี้ยนส์ ลีกปีนี้ก็ตาม
จากผลในเกมนี้ก็ทำให้ทีมจากพรีเมียร์ ลีกสูญพันธุ์หายไปสิ้นในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งหากดูจากสถิติแล้วถือว่าแย่พอสมควร เพราะนี่เพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเพียงเท่านั้นเอง